เปิดใจช่างภาพ ประชาชนเพียงคนเดียว ที่ได้รับคัดเลือก ผู้บันทึกภาพประวัติศาสตร์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ (คลิป)

เปิดใจช่างภาพที่ได้รับคัดเลือกให้บันทึกภาพประวัติศาสตร์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิง ฯ เผยภูมิใจมากที่สุดในชีวิต แม้จะเป็นการกดชัตเตอร์ไปและปาดน้ำตาไปก็ตาม

มีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ Songkran Weerapong ได้โพสต์ภาพตัวเองใส่ชุดโบราณสีแดง พร้อมกับข้อความว่า "ได้รับอนุญาตให้สวมชุดโบราณ เพื่อถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก ฐานะช่างภาพพิเศษบันทึกภาพประวัติศาสตร์ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรติแก่กระผมอย่างยิ่ง"

ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับนายสงกรานต์ วีระพงษ์ ช่างภาพพิเศษที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าบันทึกภาพช่วงเวลาประวัติศาสตร์ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยคุณสงกรานต์บอกกับทีมข่าวว่า ปกติตนเป็นช่างภาพ และมีโอกาสได้เข้าไปถ่ายภาพให้กับกรมสรรพาวุธอยู่เป็นประจำ อีกทั้งยังเป็นครูสอนถ่ายภาพให้กับทหารในกรมสรรพาวุธอีกด้วย จากการร่วมงานหลายๆ ครั้ง จึงได้รับโอกาส และรับคัดเลือกให้เข้าไปเป็นช่างภาพบันทึกภาพประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นประชาชนเพียงคนเดียว ซึ่งปกติจะมีแต่ทหารที่จะได้ถ่ายภาพของทหาร

"รู้สึกดีใจ และภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าจะได้ไปยืนถ่ายภาพอยู่ตรงไหนในงานพระราชพิธี ก็รู้สึกภูมิใจอยู่แล้ว อีกทั้งการที่ได้ถ่ายภาพให้กับทหาร ตนได้เห็นทั้งความทุ่มเท มุ่งมั่นของทหารทุกคน ที่อดทนซ้อม ไม่ว่าจะฝนตกหนักขนาดไหน ทุกคนก็ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม จริงๆ ประชาชนจะได้เห็นว่ามีการซ้อมที่สนามหลวงไม่กี่ครั้ง แต่จริงๆ แล้วทหารเหล่านี้ ฝึกซ้อมทุกวัน วันละหลายๆ ชั่วโมง การถ่ายภาพของตนจึงเป็นการเล่าประวัติศาสตริ์ให้เห็นความทุ่มเทของเหล่าทหารของพระมหาราชา"

ส่วนชุดทหารแบบโบราณที่ตนสวมใส่ถ่ายรูปนั้น จริงๆ แล้วเป็นชุดปัสตูแดง ชุดสำหรับกำลังพลฉุดชักราชรถ ซึ่งผู้ใหญ่ในกรมสรรพาวุธ อนุญาตให้ตนสวมใส่เพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ก็รู้สึกดีใจมาก แต่ในวันงานจริง ตนก็ใส่ชุดสูทสากลเหมือนช่างภาพปกติทั่วไป

ทั้งนี้ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า การถ่ายรูปในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่กดชัตเตอร์ไปแล้วต้องปาดน้ำตาไป โดยเมื่อวานนี้มีการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ซึ่งมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จร่วมซ้อมด้วย ตนเห็นประชาชนทุกคนนิ่ง เงียบสงบ และเมื่อพระองค์ท่านฯเสด็จผ่าน มีประชาชนคนหนึ่งตะโกนว่าพระองค์เสด็จแล้ว ทำให้ประชาชนนิ่งไปซักพัก และเริ่มร้องไห้ออกมา ซึ่งทุกคนรวมถึงตัวเค้ารู้สึกเหมือนกัน รู้สึกเสียใจที่สูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนไป

นอกจากนี้ คุณสงกรานต์ ยังบอกอีกว่า การเข้ามาถ่ายรูปในครั้งนี้ ตนไม่ได้รับเงิน หรือค่าจ้างใดๆ แต่เข้ามาทำด้วยใจ เพื่อเก็บภาพให้กับเหล่าทหารของพระมหาราชา เก็บภาพประวัติศาสตร์เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานให้กับทุกคน.