แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เปิดเผย ว่าการเสียชีวิตของน้องเมย เป็นการเสียชีวิตแบบผิดปกติเป็นการตายแบบกระทันหัน ซึ่งขั้นตอนในการสัญสูตรพลิกศพต้องทำแบบพญาธิแพทย์ และนิติเวช ควบคู่กันไป แต่กระบวนการที่มีการผ่าพิสูจน์น้องเมย เป็นแบบพญาธิเท่านั้นคือการตัดอวัยวะนำไปแช่ฟอร์มาลีนเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยไม่ได้แจ้งญาติ ถึงขั้นตอนต่างๆ
ส่วนการผ่าแบบนิติเวชเป็นการนำชิ้นส่วน ที่ต้องการผ่าตัดเพื่อหาสาเหตุการตาย ออกจากร่างกายต้องมีการแจ้งญาติ ด้วยวาจาเพราะถือเป็นวัตถุพยานหลังผ่าเสร็จจะต้องมีการนำชิ้นส่วนกลับใส่ในร่างกายเพื่อมอบให้กับญาติ
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ยังระบุอีกว่า โดยขั้นตอนการผ่า พิสูจน์ น้องเมย ตนเองไม่ติดใจ แต่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตว่าเสียชีวิตที่ใด อย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากการสื่อสารไม่ตรงกันระหว่างแพทย์ ที่ผ่าพิสูจน์ กับญาติดังนั้นจึงอยากให้แพทย์ออกมาชี้แจงเพื่อให้สังคมหายข้อข้องใจ
ทั้งนี้ อยากเสนอแนะว่าในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยการเสียชีวิต ผ่าพิสูจน์ศพ จะต้องมีการลงรายละเอียดก่อนการผ่า เนื่องจากปัจจุบัน การผ่าตัดแต่ละที่ยังมีมาตรฐานไม่เหมือนกันจึงอยากให้เป็นมาตรฐานสากลมากขึ้นโดยการบันทึกถ่ายภาพทุกขั้นตอน เพื่อเก็บเป็นหลักฐานและวัตถุพยานอย่างชัดเจนเพื่อชี้แจงกับญาติได้ทุกข้อสงสัยก็นิสัย ถึงสาเหตุการณ์ตาย ส่วนการเสียชีวิตในสถานที่ราชการควรยึดหลักสหประชาชาติที่ให้หน่วยงานกลางเข้ามาร่วมตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตด้วย