"เราต้องการสังคมที่เป็นประชาธิปไตย เห็นมนุษย์เท่าเทียมกัน จึงต้องยกเลิกการเกณฑ์ทหารและเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ โดยการสวมนาฬิกามาวันนี้อยากถามว่าการเป็นทหารเกณฑ์นั้นรับใช้ใคร รับใช้คนสวมนาฬิกามากๆหรือไม่ ที่บอกว่ารับใช้ชาตินั้นจริงหรือไม่ หรือรับใช้นายพลที่มาจากการรัฐประหาร รู้สึกสงสารเยาวชนไทยที่ถูกบังคับ"
เมื่อถามถึงกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หลานนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัครเกณฑ์ทหารนั้น นายเนติวิทย์ตอบว่า การเกณฑ์ทหารยังเป็นระบบบังคับ คนที่จะเล่นการเมืองนั้นถ้าไม่สมัครก็ต้องจับใบดำใบแดง ยิ่งมีชื่อเสียงยิ่งหลีกไม่ได้ แต่คำถามที่ควรถามไอติมและดารา ไม่ใช่ถามว่ารักชาติหรือไม่ แต่ควรถามว่าคิดว่าเกณฑ์ทหารมีประโยชน์จริงหรือเปล่า ถ้าคิดว่ามีประโยชน์จริงแล้วมาเป็นทหารเกณฑ์ 2-3 ปี ไหวไหม ถามว่าคนที่มานั่งเกณฑ์ทหารนั้นเต็มใจหรือไม่ และตนคิดว่าคนส่วนใหญ่ไม่เต็มใจ
โดยต่อมานายเนติวิทย์เผยแพร่ผลสำรวจความเห็น จากการที่ได้สอบถามคนที่มาผ่อนผัน คนที่จะสมัครเป็นทหารเกณฑ์ และพ่อแม่ของทหารเกณฑ์ รวม 169 คน ได้ผลว่า
1.เห็นด้วยหรือเปล่าว่าประเทศไทยควรเปลี่ยนจากระบบบังคับเป็นสมัครใจ ผลออกมาว่าเห็นด้วยว่าควรเปลี่ยนระบบ 85.21เปอร์เซ็นต์
2.กองทัพไทยควรออกมารับรองว่าพลทหารจะไม่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างเกณฑ์ทหาร100เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า ผลออกมา 92.90เปอร์เซ็นต์เห็นด้วยว่ากองทัพควรออกมารับรองว่าพลทหารจะไม่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
"ผลสำรวจแสดงว่าการเกณฑ์ทหารควรเปลี่ยนแปลง สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิของมนุษย์ทุกคน คนที่จะไปเป็นทหารก็ต้องการสิทธิมนุษยชนเช่นกัน ยืนยันว่าการบังคับเกณฑ์ทหารล้าสมัยแล้ว ถ้ารัฐบาลแน่จริงทำประชามติเรื่องนี้เลย"
โดยระบุว่าตนเขียนหนังสือต่อต้านการเกณฑ์ทหารเล่มแรก "ประเทศไทยเปลี่ยน เกณฑ์ทหารต้องเปลี่ยน" สั่งได้ที่แฟนเพจของตน โดยปีหน้าจะทำวิจัยเรื่องนี้ เพราะอยากให้ประเทศชาติดีขึ้น คนไทยต้องกล้าพูดว่าอยากให้เลิกเกณฑ์ทหาร กองทัพต้องรับประกันสิทธิมนุษยชนของทหารเกณฑ์100เปอร์เซ็นต์
ส่วนการช่วยชาตินอกจากการเกณฑ์ทหารนั้น นายเนติวิทย์บอกว่า ตอนนี้เราไม่ได้มีความจำเป็นต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ เรามีความจำเป็นในความมั่นคงของชาติ ซึ่งรวมถึงเรื่องความเปิดเผยโปร่งใสของรัฐบาล เช่นเรื่องนาฬิกา ควรต้องมีการถ่วงดุลอำนาจที่แตกต่างหลากหลาย เราต้องการคนทำงานด้านสิ่งแวดล้อม นักวิทยาศาสตร์ คนมีความรู้ทำเรื่องพัฒนาชุมชน มีหลายเรื่องเยอะแยะที่ทหารไม่สามารถทำได้และเป็นหน้าที่พลเรือนที่ต้องทำ ตนไม่ได้ต่อต้าน และจะมาบอกว่าเราต้องรักชาติกันในรูปแบบใหม่