จับโป๊ะคนขับเมล์ 52 อ้างเด็กตกรถมัวเล่นมือถือ ที่แท้ไม่จอดป้าย ทั้งที่กดกริ่งใส่ (คลิป)
หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด อื่นๆ จับโป๊ะคนขับเมล์ 52 อ้างเด็กตกรถมัวเล่นมือถือ ที่แท้ไม่จอดป้าย ทั้งที่กดกริ่งใส่ (คลิป)
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพเด็กนักเรียนหญิง กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล พร้อมข้อความว่า ลูกสาวกับเพื่อนนั่งรถเมล์สาย 52 ไปลงซอยประดิพัทธิ์ 15 พอใกล้ถึง ลูกสาวก็กดกริ่ง คนขับไม่ยอมจอดให้ลง ลูกสาวกับเพื่อนก็พยามยามกดกริ่ง เพื่อจะให้จอด คนขับน่าจะโมโหที่กดกริ่งบ่อย เลยเหยียบคันเร่งกระตุกอย่างแรงจนลูกเสียหลักล้มตกลงมา กระเป๋ารถเมล์ก็เห็นว่าเด็กตกรถ ทำไมไม่ลงมาดูเด็กบ้าง พ่อเค้าขับรถตามไปจนถึงจตุจักร เรียกลงมาคุยก็ไม่ลง บอกว่าเด็กมันตกเอง
วันที่ 31 พ.ค. 62 นายจำลอง มิ่งสกุล อายุ 61 ปี คนขับรถเมล์สาย 52 เล่าว่า ตนขับรถตามปกติ ไม่ได้มีการขับกระตุก หรือขับไม่สุภาพตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง เมื่อมาถึงซอยประดิพัทธ์ 15 เด็กกดกริ่งเพื่อจะลง เเต่จังหวะนั้นตนจอดไม่ทัน เนื่องจากเด็กกดกริ่งกระชั้นชิดเกินไป ตนจึงผ่อนคันเร่งเเละให้รถไหลไปเรื่อย ๆ แต่รถยังจอดไม่สนิท เด็กก็ก้าวลงไปทำให้พลัดตก
จังหวะนั้นตนก็ไม่ได้ลงไปดู เนื่องจากเด็กรีบวิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุ ตนจึงขับรถต่อตามปกติ เนอกจากนี้ตนสังเกตว่าเด็กมัวเเต่เล่นโทรศัพท์มือถือ โดยหลังเกิดเหตุ พ่อเด็กได้ขับรถตามมาต่อว่าตน พร้อมกับเรียกให้ตนไปเคลียร์ เเต่ขณะนั้นรถจอดอยู่กลางเเยกไฟเเดง จึงไม่สามารถลงไปได้ ตนยอมรับว่าผิด เเละตนก็ไม่มีพยาน ดังนั้นจึงอยากจะขอความเป็นธรรมด้วย
ด้าน ด.ญ.สปาย (นามสมมติ) นักเรียนที่ตกรถประจำทาง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงที่ตนกำลังนั่งรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงถนนประดิพัทธ์ ตนเองได้ยืมโทรศัพท์คนบนรถโทรหาพ่อ เนื่องจากโทรศัพท์ตนไม่มีเงิน บอกให้พ่อออกมารับที่ปากซอย จากนั้นเมื่อรถมาถึงใกล้ป้ายรถเมล์ที่ตนต้องลง ก็กดกริ่ง 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 กดก่อนถึงป้ายราว 100 เมตร จากนั้นกดอีก 2 ครั้ง ตอนรถจะถึงป้าย ซึ่งตอนนั้นรถก็วิ่งในช่องเลนซ้าย แต่ไม่จอด ตนจึงกดกริ่งรัว ๆ อีกหลายครั้ง แล้วสอบถามกับกระเป๋ารถเมล์ว่าทำไมถึงไม่จอด กระเป๋าแจ้งว่ายังจอดไม่ได้ แต่ที่ตนสังเกตคือบริเวณป้ายรถเมล์ไม่มีคนรอรถที่จะขึ้น ทำให้รถเมล์จึงไม่ยอมจอด
ชมคลิป
VVVVVVVVVVVVV
VVVVVVVVVV
VVVVV
V
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น