สาวบุกเดี่ยวกวาดเงินเซเว่น 2.3 ล้าน ที่แท้เป็นหนี้แชร์ลูกโซ่ พ่อแม่ป่วยแค่กุเรื่อง (คลิป)

กรณีเกิดเหตุมีคนร้ายถือมีดบุกเดี่ยวเข้าไปปล้นร้านสะดวกซื้อใน ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเวลา 02.30 น. ของวันที่ 1 ก.ค. 62 โดยคนร้ายได้เงินสดไปกว่า 2.3 ล้านบาท ก่อนที่จะหลบหนีไปได้ กระทั่งบ่ายวันนี้ (2 ก.ค. 62) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค3 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และตำรวจ สภ.จอหอ ได้ทำการจับกุมอดีตสาวพนักงานเซเว่นฯ ผู้ก่อเหตุได้ ที่บ้านด่านคนคบ หมู่ 7 ต.ด่านคล้า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปค้นหาเงินของกลางที่ซุกซ่อนไว้ ขณะเดียวกันที่ สภ.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ก็ได้มีการเชิญตัวพนักงานเซเว่นฯ 4 คน รวมทั้งผู้จัดการร้าน 1 คน มาสอบปากคำ เพื่อหาผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุปล้นในครั้งนี้ ซึ่งใช้เวลาสอบอย่างตึงเครียดอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง

โดยพลตำรวจตรี ฐากูร นัทธีศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ได้แกะรอยหาเบาะแสคนร้ายจนสามารถจับกุมนางสาวรจนา ช่องกลาง 25 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว โดยจับกุมตัวได้ภายในบ้านพัก ผู้ต้องหาเคยเป็นอดีตพนักงานของร้าน แต่ถูกไล่ออกเนื่องจากกระทำทุจริตเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างตนเองตกงานไม่มีงานทำ และมีหนี้สินจำนวนมาก นอกจากนี้ยังต้องดูแลลูกน้อยวัยขวบเศษด้วย โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุครั้งนี้เพียงคนเดียว เพราะรู้ความเคลื่อนไหวภายในร้านเป็นอย่างดี และหลังก่อเหตุได้นำเสื้อผ้าไป และหมวกกันน็อกโยนทิ้งระหว่างทาง ส่วนเงินของกลางที่ชิงทรัพย์มาได้นำไปซุกซ่อนไว้ในบ่อเกรอะหลังบ้านพัก โดยนำเงินของกลางออกไปใช้แล้วจำนวนหนึ่งแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้เชิญผู้จัดการร้าน และพนักงานของร้านทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด เพื่อขยายผลว่ายังมีผู้อื่นร่วมลงมือก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่

เบื้องต้นเท่าที่พอจะทราบทางบ้านของนางสาวรจนาก็ไม่ได้มีปัญหาการเงินอะไร พ่อแม่ก็ยังสุขภาพดี แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องแชร์ลูกโซ่ที่นางสาวรจนาเคยเข้าไปข้องเกี่ยวด้วย จนทำให้เกิดเป็นคดีขึ้นโรงขึ้นศาล แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมตัวเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตนก็ทราบข้อมูลจากปากของนางสาวรจนาว่าที่ก่อเหตุดังกล่าวเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายหนี้สินของตนและครอบครัว ทำให้ไม่สามารถคืนเงินที่ขโมยมาได้ครบ เพราะนำไปชำระหนี้บางส่วนแล้ว และดำเนินการก่อเหตุเพียงคนเดียวเท่านั้น