โจรใต้ฆ่า15 ศพ สุดเหี้ยม สั่ง “ยิงซ้ำให้ตาย” คนรอดมุดใต้ท้องรถ น้ำมันท่วมร่าง ภาวนาอย่าโดนบึ้ม (คลิป)
หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด อื่นๆ โจรใต้ฆ่า15 ศพ สุดเหี้ยม สั่ง “ยิงซ้ำให้ตาย” คนรอดมุดใต้ท้องรถ น้ำมันท่วมร่าง ภาวนาอย่าโดนบึ้ม (คลิป)
จากกรณีเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 62 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงคราม กราดยิงถล่มจุดตรวจ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ.บ้านทุ่งสะเดา และชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา หมู่ที่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวม 15 ศพ บาดเจ็บ 5 ราย และกลุ่มคนร้ายได้ปล้นอาวุธปืนลูกซองและปืนประจำกายของผู้เสียชีวิตไปด้วย
ล่าสุดนายเอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ขณะที่ตนและเพื่อน ๆ ชรบ. กำลังเข้าเวรรักษาความปลอดภัยที่ป้อมตามปกติ มีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน เปิดฉากยิงหม้อแปลงไฟฟ้า ปาระเบิด และยิงไฟส่องสว่างทั้งหมด ซึ่งกระสุนปืนมาจากรอบทิศ ตนและเพื่อนคนอื่น ๆ ยิงสู้จนกระสุนหมด เนื่องจากแต่ละคนมีเพียงปืนลูกซองที่บรรจุกระสุนเพียง 5-6 ลูก และปืนพกสั้น
จากนั้นตนค่อย ๆ คลานออกมาจากป้อม แล้วไปซ่อนตัวอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งขณะนั้นเสียงเพื่อนที่อยู่ในป้อมเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงผู้ก่อเหตุที่ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากป่า แล้วบุกเข้ามาในป้อม และได้ยินเสียงคุยกันว่า "เอาไฟฉายมาส่อง ใครยังไม่ตายยิงซ้ำ" เป็นประโยคที่ตนได้ยินเเล้วจุกอก และคับแค้นในใจมาก แต่จะทำอะไรก็ทำไม่ได้ ออกไปก็ตายเปล่า ตนจึงรอจนเหตุการณ์สงบ จึงรอดชีวิตออกมาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนต้องเสียเพื่อนรักที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันถึง 15 คน ตนอยากบอกพวกเขาว่า พวกเขาสู้ได้ดีที่สุดแล้ว ซึ่งหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ตนจะขอไปปฏิบัติหน้าที่เป็น ชรบ. และเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม และจะสู้เพื่อเพื่อนทั้ง 15 คนที่จากไป
ด้านนายทนง ไหมเหลือง อายุ 60 ปี นายก อบต.ลำพะยา เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้สึกเสียใจที่อาสาสมัครชาวบ้าน 15 คนที่ต้องเสียชีวิต แต่ทุกคนยังมีขวัญและกำลังใจดี ที่จะเป็นอาสาปกป้องชีวิตให้กับชาวบ้าน โดยทุกคนยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่ต่อไปไม่มีใครถอย แม้ว่าจะเสี่ยง แต่ยอมรับว่าการทำหน้าที่ในฐานะอาสา ย่อมต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดยในมือมีเพียงอาวุธที่ต่อสู้กับกลุ่มโจรได้ไม่เต็มศักยภาพ เพราะฝ่ายของโจรเป็นอาวุธปืนสงคราม แต่ฝ่ายของตนเองเป็นเพียงแค่ปืนพกและปืนลูกซอง
แต่ในวันเกิดเหตุต้องยกย่องนายสุนทร ยอดแก้ว ซึ่งเป็นอาสาเพียงคนเดียวที่ตัดสินใจยกปืน M16 บรรจุลูกกระสุนปืน 30 นัด ยิงต่อสู้กับกลุ่มโจรที่บุกถล่ม จนกระทั่งกระสุนปืนหมด และพูดกับกลุ่มเพื่อนว่า "กระสุนปืนหมดแล้ว" จังหวะดังกล่าวคาดว่าถูกกราดยิงจนกระทั่งเจ้าตัวล้มลง ถูกยิงที่หัวเสียชีวิต และยังถูกยิงซ้ำจนเป็นแผลตามร่างกาย ซึ่งหากวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานมีกระสุนปืนเพียงพอ ก็คงจะมีการยิงต่อสู้และไม่มีใครตายมากถึง 15 คน
ขณะที่นายดวง (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ชรบ. ที่รอดชีวิต เปิดใจว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายคนจุดประทัดต่อเนื่อง ตนเองจึงลุกขึ้นดูก็พบว่าเป็นเหตุการณ์ยิงถล่ม เพราะมีเศษปูนของบังเกอร์กระเด็นมาโดนหัว จึงได้จะโกนบอกเพื่อน ๆ ว่า "โดนยิง" หลังจากนั้นทุกคนต่างคนต่างหมอบใต้โต๊ะ ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่เว้นจังหวะโจรยิงถล่ม นายสุนทรก็กระโดดไปหยิบปืนยาวที่ตั้งพิงบังเกอร์อยู่ ยิงต่อสู้แบบเด็ดเดี่ยว และเป็นช่วงจังหวะเดียวกัน ตนเองจึงสบโอกาสแอบมุดออกทางข้างหลังบังเกอร์ แล้วคลานไปที่ใต้ท้องรถเพื่อหลบ โดนตนเองไม่เห็นหน้าคนก่อเหตุ เพราะอาสาชรบ.อยู่ที่สว่าง แต่โจรยิงมาจากที่มืด ซึ่งระหว่างที่ตนเองซ่อนตัวอยู่ใต้ท้องรถนั้น กลุ่มโจรได้ปาระเบิดเข้ามา ทำให้กระจกรถและบริเวณบังเกอร์ได้รับความเสียหาย จากนั้นคาดว่าถังน้ำมันรั่วไหลท่วมตัวเอง ซึ่งภาวนาว่าขอให้ไม่มีเปลวไฟเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นคนเองคงถูกไฟคลอกตาย
และหลังจากสิ้นเสียงปืนรัวยาว ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเว้นระยะแต่ต่อเนื่อง จากนั้นก็ได้ยิงรัวอีกรอบ โดยเสียงดังกล่าวส่วนตัวมองว่าเป็นลักษณะเป็นการยิงซ้ำ เพื่อไม่ให้มีชีวิตรอด โดยตนเองไม่ได้ยินเสียงร้องของกลุ่มเพื่อนอาสาแต่อย่างใด เพราะเข้าใจว่าทุกคนคงจะเสียชีวิตคาที่ทั้งหมด จากนั้นจึงได้รีบออกจากที่เกิดเหตุไปขอความช่วยเหลือ
คลิป
VVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVV
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น