มหากาพย์ การบินไทย เจ๊ง ถูกขโมยเส้นทางการบิน มี 2 คนซุ่มซื้อ-ไม่โง่ก็โกง!

โยธิน : "มันก็แน่นอน มันก็มีส่วนที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรก เครื่องบินตัว 340 500 ตัวนั้นแหละ โทษนะครับ ขอใช้คำว่ามีคนสองคนซื้อเครื่องบินแบบนี้ ไม่โง่ก็โกง ไม่รู้ใครนะครับ สภาพัฒน์ฯ ได้ติงไปแล้ว ให้เอาไปทบทวนก็ยังซื้อจนได้ แล้วจอดอยู่ทุกวันนี้ เมื่อปี 58 ก็มีนโยบายจากที่ปรึกษาอีก หดเพื่อโต ก็เอาเครื่องบินที่มีอายุใช้งาน 10 ปี เอาไปจอดหวังว่าจะขายได้ ทุกวันนี้ยังขายไม่ได้ เป็นเศษเหล็กไปแล้ว"

 

โยธิน : "ผมว่าไม่มีทางหรอกครับ เพราะเครื่องบินตอนนี้มี 77 ลำรอขาย อยู่ในสภาพบินได้ ของการบินไทยต้องทำการซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นเพื่อให้บินได้ แล้วตอนนี้ทุกสายการบินจอดเครื่องบินกันหมดแล้ว ไม่มีทางทำได้"

สุเทพ : "จากสื่อต่างๆ ก็รู้สึกว่าเป็นลบกับการบินไทยมากๆ แทบจะให้ทิ้งไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พอฟังได้คือของคุณกรณ์ จาติกวณิช , คุณอรรถวิชช์ ผมไม่ทราบนามสกุลท่าน ผมค่อนข้างรับได้และเป็นทางออกที่ดี ให้เข้าสู่แผนฟื้นฟู การให้รัฐอัดฉีดหรือค้ำประกันเงินกู้ 5-7 หมื่นล้าน ผมคิดว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ที่บอกว่าต้องปรับโครงสร้างการบินไทย ทำอะไรเยอะมาก ซึ่งเห็นด้วยครับ เพราะโครงสร้างการบินไทยปัจจุบันอุ้ยอ้ายเต็มทน อ้วนมาก และตั้งตำแหน่งกันมาจนโค้ดที่ให้ไม่พอใช้ ต้องใช้ตัวหนังสือกับตัวเลขกำกับ มันก็เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้น"

"คำว่าหดเพื่อโตเป็นเรื่องการฟื้นฟูเมื่อปี 58 59 เราเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูมา สิ่งที่เราเห็นคือว่าผู้ที่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการฟื้นฟู กลายเป็นบริษัทเบนฯ ของสิงคโปร์ ซึ่งเรามีข้อสงสัยว่าคนเข้ามาบริหารจัดการในแผนฟื้นฟู เป็นคนของบริษัทนี้ซึ่งมีสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริษัทเทมาเส็กในอดีต ซึ่งเทมาเส็กถือว่าเป็นของบริษัทของสิงคโปร์แอร์ไลน์ แผนฟื้นฟูที่ว่าหดเพื่อโตมันทำลายการบินไทย เขาถึงต้องตัดเส้นทางการบินที่ไม่ทำกำไร"

โยธิน : "เห็นชัดๆ คือตอนนี้ทั่วโลกหยุดบินหมด แล้วเป็นยังไงครับ ไม่เหลือเลย"

โยธิน : "นี่แหละมันก็พัวพัน กลับไปคิดดูพักนึงที่มีการจัดตั้งสายการบินไทยไทเกอร์ ผมกับคุณฉัตรชัยก็ประท้วงว่าคุณเอาสายการบินสิงคโปร์มาลงทุนในประเทศไทยมันถูกต้องเหรอ และสายการบินดังกล่าวก็ขาดทุนมาตลอด และมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย เรื่องก็เลยล้มไป แล้วอยู่ๆ ต่อมาก็มาตั้งไทยสมายล์ ก็บินแบบเดียวกับที่ไทเกอร์ใช้อยู่ 5 ปีแรกขาดทุน 6 พันล้าน ปัจจุบันขาดทุน 8 พันกว่าล้าน ทำไมไม่รวมกัน ไหนๆ ก็เป็นบริษัทเดียวกัน เพราะตอนนี้การบินไทยรับประกันที่นั่งไทยสมายล์ ทีนี้ต้องกลับไปดูเรื่องนกสกู๊ต ก็คือคนของการบินไทยซึ่งเป็นตำแหน่งรักษาการตอนนั้นแอบจดทะเบียนจัดตั้งสายการบินนกสกู๊ต เป็นคนสิงคโปร์อีกแล้ว แล้วมาขอฝ่ายบริหาร คณะกรรมการ มาขออีกทีนึงเดือนธันวาคม"

โยธิน : "ใช่ เวลาเดียวกันก็มีอีกคนไปจัดตั้งสายการบินพีชแอร์ ก็ดำเนินการจัดตั้งสายการบิน ได้ใบอนุญาตมาแล้วเอาเครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์เข้ามา มีอายุใช้ 13.9 ปี ซึ่งมีความหมายนะครับ เครื่องบินถ้าเกิน 14 ปีต้องมีการซ่อมใหญ่ ไอ้นี่เอาเข้ามาก่อน"

โยธิน : "สิ่งแรกคือบินทับเส้นการบินไทย สองการบินไทยถือหุ้นนกแอร์อยู่ 39 เปอร์เซ็นต์ และการบินไทยต้องทำการแข่งขันกับไทยแอร์เอเชียร์เอ็กซ์ ทำไมไมไม่ทำกับการบินไทย เครื่องบินก็มี คนก็มี ช่างก็มี ทุกวันนี้ก็เป็นปัญหาอย่างนี้ แล้วขณะนี้ยังไม่เพียงพอ การบินไทยมีความสามารถดูแลเครื่องบินของลูกค้าในสนามบิน สายการบินอื่นไม่มีสิทธิ์ทำ แต่สิงคโปร์เทคโนโลยีเขาก็มาจับมือกับนกสกู๊ต ตั้งบริษัท แล้วก็จดทะเบียน กระทรวงพาณิชย์เขาก็ให้ เพราะสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยไปเปลี่ยนกฎให้ทำได้ แล้วตอนนี้จะมาหากินในเมืองไทยอีกด้วย คนเข้าใจว่าเปิดน่านฟ้าเสรี มันผิดซะหมด น่านฟ้าเสรีคนคิดเริ่มแรกคืออเมริกัน คือกันสิทธิระหว่างประเทศและประเทศ อย่างเช่น จากกัวลาร์ลัมเปอร์ สายการบินมาเลย์บินมาเมืองไทยและกลับไปมาเลย์ จะบินกี่เที่ยวก็ได้ กี่ไฟลต์ก็ได้ กี่เที่ยวก็ได้ กี่ที่นั่งก็ได้ แบบไหนก็ได้ แต่เขาจบแค่นั้น เขาไม่เข้ามาบินภายในประเทศ"

สุเทพ : "การตั้งนกสกู๊ต อย่าลืมว่าสิงคโปร์แอร์ไลน์ถือ 49 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของไทย 49 เปอร์เซ็นต์แล้วมีนอร์มินีอีก 2 เปอร์เซ็นต์ เขาไม่ได้บอกว่าฝ่ายไหน ทันทีที่ตั้งนกสกู๊ตสำเร็จ บังเอิญตอนนั้นไทยถูกธงแดงจากไอซีเอโอ ฉะนั้นตอนหดเพื่อโต ที่ระบุชัดเจนให้หยุดโรม หยุดมอสโค เราสองคนก็วิเคราะห์กันแล้ว ห้วงเวลานั้นนกสกู๊ตเกิดแล้ว ถ้าเราหยุดโรม มอสโค แน่นอน เราคิดว่านกสกู๊ตต้องบินแทนแน่นอน ขอสิทธิการบินตรงนี้แน่นอน อีกทั้งภาครัฐให้ความช่วยเหลือนกสกู๊ตมากตอนนั้น ถึงขั้นเปิดสำนักงานการบินพลเรือนที่ทุ่งมหาเมฆ ให้เขาตั้งศูนย์ในการแก้ปัญหานกสกู๊ตเกี่ยวกับเรื่องการบิน มันเป็นความเสียหายอินฟินิตี้ อย่าลืมว่าเมื่อเขาได้สิทธิการบินไปแล้ว เขาเปรียบเสมือนสายการบินของคนไทย เขาจะเปลี่ยนสภาพที่จะแข่งกับการบินไทยเมื่อไหร่ก็ได้"

โยธิน : "แต่ที่ผมไม่พอใจคือคนการบินไทยยังไม่เกษียณอายุ ไปจดทะเบียนตั้งสายการบินมาแข่งกับบริษัทตัวเอง มันผิดจรรยาบรรณการบินไทย ผมก็ส่งเรื่องไปให้ปปช.แต่ว่าบริษัทการบินไทยไม่เห็นเดือดร้อนกับคนชนิดนี้"

 

สุเทพ : "บุคคลคนนี้ตอนนี้ยังเป็นใหญ่ในประเทศไทย แต่นอกบริษัทการบินไทย บุคคลผู้นี้เป็นอดีตดีดี ทันทีที่เขาเกษียณอายุปี 57 สองเดือนต่อมาไปเป็นประธานบริษัทนกสกู๊ต"

สุเทพ : "ครับ แล้วเขาผู้นี้เป็นผู้จดทะเบียนตั้งบริษัทนกสกู๊ต 30 ต.ค. ปี 56 ขณะเดียวกันก็จดทะเบียนตั้งบริษัทพีชแอร์ ในวันที่ 30 ต.ค. ปี 56 เช่นเดียวกัน นี่คือมหากาพย์ความเสียหายในการบินไทย ที่ไม่เคยมีใครพูดถึง" 

 

โยธิน : "คนที่ผมเคารพ วันแรกที่ท่านมารับตำแหน่งเป็นประธานการบินไทย คือท่านเอกนิธิ ท่านบอกว่างานหลักของท่านคือฟื้นฟูบริษัท ไม่ใช่ซื้อเครื่องบิน ต่อมาอีกเดือนกว่า ก็มีรองนายกฯ มาบอกว่าถ้าไม่ซื้อเครื่องบินภายในเดือนนี้จะปลดบอร์ด"

"ถ้าจะทำแผนฟื้นฟูน่าจะเชิญท่านมาเป็นประธานจัดตั้งกรรมการฟื้นฟู ท่านเหมาะสม สองเพื่อการฟื้นฟูต้องเอาคนที่เคยมีประสบการณ์ในการบินไทยที่ด้านการตลาด มีตำแหน่งใหญ่ในการบินไทย เช่น คุณกนก อภิรดี และคนการบินไทยภายในสัก 2 คน คนทำอยู่ปัจจุบันนี้กับคนที่โดนแขวนเอามาทำงานด้วยกัน จะได้เห็นภาพที่แท้จริง"

โยธิน : "ทีแรกผมว่าต้องเชือดไก่ให้ลิงดู การเอาเครื่องบินไปจอดทิ้งไว้ และมีความเสียหายเป็นหมื่นๆ ล้าน ทำไมไม่จัดการซะที ว่าใครเป็นคนตัดสินใจ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น ปี 58 เราขาดทุน ไม่เห็นใครรับผิดชอบ"

โยธิน : "ท่านทักษิณเป็นนายกฯ ตอนแอร์เอเชียเข้ามา ท่านทักษิณก็เป็นนายกฯ"

โยธิน : "ไม่มีครับ เขาไปจัดตั้งเปิดน่านฟ้าเสรี แบบศรีธนชัย แล้วสายการบินแอร์เอเชียก็มาลงทุนกับเครือข่ายชินคอร์ป แอร์เอเชียถือหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ แต่ชินคอร์ปถือหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความรู้เรื่องการบิน แอร์เอเชียเลยขอให้ตั้งนอร์มินี่ขึ้นมา 2 คน นี่คือที่ไปที่มา ท่านทักษิณก็เป็นคนเปลี่ยนกฎหมายลงทุนจัดเก็บ 70 30 มาเป็น 51 49 แต่บ้านเรามันศรีธนชัย มี 49 29  สองเปอร์เซ็นต์"

สุเทพ : "ที่เห็นชัดเจน แต่ก่อนนี้การบินไทยมีเน็ตเวิร์ก จดบินภายในประเทศแทบคลุมทุกเมือง อยู่มาไม่เท่าไหร่ บอร์ดการบินไทยมีมติให้สายการบินการบินไทยยกเลิกเส้นทางภายในประเทศเกือบหมด เหลือไว้แต่เชียงใหม่กับภูเก็ต เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อสายการบินไทยกับต่างประเทศ เพราะเป็นจุดท่องเที่ยว"

สุเทพ : "ก็แอร์เอเชีย เดี๋ยวนี้เขาเกือบจะเป็นสายการบินที่มีเส้นทางภายในประเทศเกือบหมดแล้ว"

สุเทพ : "ไม่ใช่การบินไทยขายแพง แต่คนอื่นขายถูกครับ อย่างที่คุยกันจะบินไปมอสโค ต้องบินสายการบินการ์ต้า เพราะสายการบินไทยยกเลิก ผลการศึกษา เขาระบุว่าค่านิยมหรือความนิยมผู้โดยสารที่จะบินเครื่องบินไหน ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่บินตรงเป็นหลัก เมื่อเราบินตรงสู่ทุกประเทศในยุโรป เราถึงเป็นสายการบินที่มีผู้นิยมเดินทางมากที่สุด เราก็เสียผู้โดยสารไปส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังมีผู้โดยสารที่นิยมบินตรง ซึ่งการบินไทยเอง ก็ควรปรับราคาให้เรียลลิสติกหน่อย" 

โยธิน : "อยากบอกว่าสิ่่งที่เกิดขึ้นปัจจุบัน ไม่ใช่ปัญหาของพนักงาน ท่านนายกฯ ก็พูดเมื่อวันที่24 พ.ย. 58 ว่าอย่าไปโทษพนักงาน ให้ไปโทษคณะกรรมการ โทษบอร์ด โทษผู้บริหาร ทุกวันนี้พนักงานการบินไทยผมมองดูแล้วก็น่าสงสาร ไม่มีใครมาปกป้องเขาเลย ที่แท้จริงควรเปลี่ยนบอร์ดให้หมด เอาคนมีความรู้มานั่งในบอร์ด แล้วหาคนใหม่ๆ เข้าไปเพื่อจะได้ไปดูสิ่งใหม่ๆ ที่เก่าอยู่พยายามปกป้องตัวเองเท่านั้นแหละ"