สาวไปบริจาคเลือดถูกรถตู้ รพ. ถอยทับดับสลด ไร้การเยียวยา
รายการโหนกระแสวันที่ 17 ก.ย. 64 "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ "สิริลักษณ์ สมพิศ" แฟนผู้เสียชีวิต มาพร้อม "ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์"
สิริลักษณ์ : วันที่ 13 ที่ผ่านมา แฟนชื่อพี่จุ๋ม วันนั้นพี่เขาหยุดงาน พอดีมีคนที่รู้จักขอให้ไปบริจาคเลือดให้หน่อย เขาก็ไปคนเดียว หายไปประมาณครึ่งชม. ตอนนั้นก็เข้าใจว่าแกไปบริจาคเลือด สักพักมีซีพี โทรมาว่าตอนนี้ติดต่อเขาไม่ได้ ได้ยินเสียงเหมือนวุ่นวายบอกว่าชนแล้ว สายตัดไป พอโทรไปไม่มีใครรับสาย หนูก็โทรไป รพ.แจ้งว่าตอนนี้เขาเกิดอุบัติเหตุ อาการโคม่า หนูก็งงว่าโคม่ายังไง เขาบอกให้รีบมารพ. เพราะหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ พอไปถึงหมอก็บอกว่าอาการโคม่า ตอนมาคนไข้หมดสติมา มีลมหายใจแผ่วๆ พยายามปั้มหัวใจช่วย สักพักบอกว่าตอนนี้คนไข้สมองตายแล้วม่านตาไม่เปิด สมองไม่รับรู้อะไรแล้ว ให้ปั้มหัวใจมั้ย แต่ถึงปั้มไปร่างกายก็บอบช้ำ หนูก็ยืนอึ้ง เขาบอกปั้มประมาณ 30 นาที คนไข้ไม่กลับมาแล้ว หนูก็บอกว่านี่ศพแฟนหนูมั้ย เขาบอกว่าใช่
แฟนเราเสียชีวิต ตอนชนอยู่ในรพ.สุราษฎร์ฯ เลย?
สิริลักษณ์ : ใช่ค่ะ
ตอนที่เราไป เราไปแบบงง ๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตอนที่เราไปเราเห็นสภาพศพแฟนเรามั้ยเป็นแบบไหน?
สิริลักษณ์ : เขาก็ถามว่าอยากดูศพมั้ย หนูก็ยืนดู เพราะเห็นว่าผ้าปิดหน้าเลือดเต็มหมดเลย พยาบาลก็เปิด ตอนนั้นแกนอนตะแคง ตาข้างนึงลืมอยู่ หนูร้องอุ้ยแล้วก็เดินออกไปเลย สักพักเดินมาใหม่ พยาบาลมาถามหนูว่าที่คนไข้เสียชีวิตเพราะติดในรถนานเกินไป
ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเขาถูกถอยชน คิดว่าขับรถชนกันมา?
สิริลักษณ์ : ใช่ค่ะ ก็ถามว่าติดยังไง เขาบอกไม่มีใครแจ้งเรื่องอุบัติเหตุเหรอ หนูบอกว่ายังไม่มีใครแจ้ง พี่เขาก็เดินไปที่โต๊ะเอกสารว่าไม่มีใครแจ้งญาติเหรอว่าเสียชีวิตยังไง เขาบอกว่าแจ้งหมดแล้ว แต่หนูบอกว่าแจ้งอาการแบบนี้ๆ แต่ไม่ได้แจ้งสาเหตุ แล้วมีพี่คนนึงบอกว่าเรื่องถึงผู้ใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่รพ.สุราษฎร์ หนูก็คิดว่าเกี่ยวอะไรกัน เพราะเราก็ไม่รู้อะไรเลย เราคิดว่าแฟนเราขับรถชน พอหนูออกไปตร.มาคุยกับหนู หนูมารู้กับตร.ว่าเขาแจ้งความให้เรียบร้อย และมาถามว่าคนไข้มาบริจาคเลือดใช่มั้ย หนูก็ถามว่าอุบัติเหตุยังไงคะ เขาบอกรถรพ.ขับชน หนูก็งง ว่าขับชนถึงตายเหรอพี่ เขาบอกว่าใช่ น้องเขายืนคุยโทรศัพท์ แล้วถูกชนเข้าด้านหลัง มีพี่อีกคนเข้าไปดูแต่หนูไม่กล้า
สิริลักษณ์ : ไม่ทราบ เพราะเขาไม่ให้ดูต่อ เขาให้ดูตอนชนแล้วล้มแล้วปิด เพราะบอกว่าถ้าดูจะสะเทือนใจญาติๆ เขาบอกให้ดูเท่านั้น มีพี่ที่เขาอยากดู เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าชนยังไง ถึงทำให้เสียชีวิต
มีคนเห็นเหตุการณ์บ้างมั้ย?
สิริลักษณ์ : หนูไม่ทราบตรงนี้ มันก็เงียบจริง ๆ เพราะถ้ามีอุบัติเหตุเราจะรู้ แต่นี่เงียบหมด
คุณจุ๋มยืนคุยโทรศัพท์ หลังรถชนตู้ม สภาพคือหน้ามีรอย?
สิริลักษณ์ : ที่หนูเห็น เพราะแกหันหน้ามาหาหนู เห็นรอยถลอกทั้งตัว ที่เท้าเขียว ขาหัก ข้อเท้าพลิกอยู่
ไม่ใช่ชนอย่างเดียว ชนแล้วทับ ลากไปอีก?
สิริลักษณ์ : พี่เขาบริจาคอวัยวะให้สภากาชาดไทยด้วย เขาก็บอกว่าคงบริจาคไม่ได้ เพราะข้างในพังหมดแล้ว
รพ.ว่าไง หลังเกิดเหตุ?
สิริลักษณ์ : เขาให้ขึ้นไปคุย 6-7 คน เขาแสดงความเสียใจ บอกว่าคนขับรถเป็นคนของกู้ภัย มาช่วยรพ.เพราะบุคลากรรพ.ไม่พอ เพราะโควิด แต่พี่คนนึงถามว่าทำไมให้กู้ภัยมาขับรถ เขาบอกว่าเขาอาสามาช่วย ในเชิงนั้น แล้ววันนั้นไม่ได้พูดอะไรเยอะ เพราะช็อกกันอยู่ แม่ก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะ แล้วเขาบอกรถมีประกันชั้นหนึ่ง เดี๋ยวให้ประกันจัดการให้ ตอนนั้นพูดรายละเอียดเท่านั้น ขอดูคลิปก็ให้ดูเท่านั้น เขาบอกถ้าคนไหนข้องใจอยู่คุยกับเขาต่อได้ แต่ตอนนั้นเราเสียใจ อยากทำเรื่องอื่นให้เสร็จก่อน แม่เขาก็ไม่กล้าบอกพ่อ เพราะพ่อไม่สบาย เป็นมะเร็ง กลัวรู้แล้วช็อก แม่รู้ตอนนั่งรถตู้ หนูทีแรกก็ไม่กล้าบอก แต่แกก็ต้องรู้
สิริลักษณ์ : เมื่อวานโทรมาตอนเป็นข่าวแล้ว
ก่อนหน้านั้นล่ะ?
สิริลักษณ์ : วันที่ไปรับศพ มีข้อตกลงกัน แม่ก็จะคุย เพราะเขาแนะนำว่าให้ลองคุยว่ารพ.จะทำยังไง เรื่องสินไหมทดแทน ทีนี้เขาบอกว่ามีประกัน แม่จะเรียกเท่าไหร่ แม่บอกว่า 2 ล้าน เขาก็เชิญแม่ขึ้นไปคุย แต่หนูไม่ได้ขึ้นไปด้วย เพราะทำเรื่องข้างล่างอยู่ แล้วเขาก็ตกลง บอกว่าได้ 1.5 ล้าน ประกันจ่าย 1.5 ล้าน แม่ก็ถามว่าแล้วรพ. รับผิดชอบอะไรบ้าง รพ.บอกว่าเขาไม่มีเงิน
คนขับเป็นกู้ภัยจริง ๆ หรือเจ้าพนักงานรพ.?
สิริลักษณ์ : ที่ดูเขาบอกเป็นบุคลากรทางการแพทย์ และมีชื่อเขาบอกว่าเป็นคนขับรถ
ตกลงเป็นพนักงานรพ. ไม่ได้เป็นกู้ภัยตามที่กู้ภัยกล่าวอ้าง?
สิริลักษณ์ : ตอนแรกที่บอกว่าเป็นกู้ภัย เราก็เห็นใจ ไม่อยากให้มันยาว แต่พอมารู้ทีหลังว่าเขาไม่ใช่กู้ภัย ก็เสียความรู้สึก เพราะเรายังเห็นใจเขาอยู่เลย
คุยกับ "คุณปาณิศา แซ่หลิ่ว" เพื่อนร่วมงานผู้เสียชีวิต เห็นภาพคุณจุ๋มถูกถอยรถชน?
ปาณิศา : เราไปดูคลิปวิดีโอ ตอนที่คุณหมอให้ดู ภาพที่เห็นจังหวะรถถอย ตรงนั้นเป็นที่ที่รถแอมบูแลนซ์จอดเพื่อผู้ป่วยโควิด ตอนรถจอดมีคนนึงที่เดินมาก่อน แล้วคนที่สองคือคนเสียชีวิต เขาเดินมาเห็นรถถอยหลังเขาก็เดินหลบไป ครั้งที่สอง เขาเห็นรถจอด ก็เลยเดินมาเหมือนรถจะหยุดแล้ว จังหวะนั้นเขาโทรประชุมสายน้องๆ พีซีอยู่ จังหวะนั้นรถก็ถอยอยู่ตรงกลาง เหยียบขาสองข้าง ลงไปนอนหน้าคว่ำไปเลย
ปาณิศา : เหยียบเท้าแล้วหน้าคว่ำไปเลย ลองนึกภาพรถแอมบูแลนซ์ค่อนข้างต่ำ จากที่ฟังคนเห็นเหตุการณ์ ว่ารถค่อนข้างต่ำ ตัวพี่จุ๋มเลยไปติดอยู่และหัวของผู้ตายไปอยู่ที่ล้อซ้าย เขาพยายามช่วยแล้วแต่ดึงไม่ออก เขาก็ใช้แม่แรงยกให้สูงเพื่อดึงแกออกมาได้ เห็นว่าออกมาแล้วก็ปั้มหัวใจ
ทับทั้งตัว ทับหัวหมดเลย?
ปาณิศา : ใช่ครับ ทับทั้งตัว คนขับเขาคิดว่าเป็นเนิน เลยเหยียบซ้ำไปอีก
ตัวนอนขวางเลย?
ปาณิศา : ใช่ครับ เขาเบี้ยวเสียรูปทรงเลย
ตกลงแล้ว คุณยังยืนยันว่ารพ.บอกว่าเขาเป็นกู้ภัย?
สิริลักษณ์ : ยืนยัน รองผอ.เป็นคนบอก หนูไม่ได้ยินคนเดียว เขาบอกว่าคนขับเป็นกู้ภัยนะ เขามาช่วยขับรถเพราะโควิดมันเยอะ บุคลากรทางแพทย์ไม่พอ
มองยังไง?
ไพศาล : กู้ภัยต้องระมัดระวังกว่าคนปกติทั่วไป แล้วขับรถอยู่รพ. ทุกวัน ไม่รู้เหรอว่าลูกระนาดอยู่ตรงไหนเป็นยังไง มาตรฐานความปลอดภัยอยู่ไหน
นพ.สมศักดิ์ : ก็ตามที่น้องเขาให้ข่าวไป คือมีรถรพ. เป็นรถนำส่งผู้ป่วยโควิด กำลังถอยหลังเพื่อไปรับคนไข้โควิดอีกกลุ่มนึง แล้วน้องเขามาบริจาคเลือด และเดินมาบริเวณนั้นพอดี ก็ตามนั้นครับ ผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เพราะต้องใช้เวลาเคลื่อนย้าย ศีรษะบาดเจ็บรุนแรง กะโหลกยุบด้วย มีกระดูกเชิงกรานหัก
ตกลงเป็นเจ้าหน้าที่รพ.หรือเปล่า?
นพ.สมศักดิ์ : ใช่ครับ หมอคิดว่าข้อมูล ข้อเท็จจริงอาจคลาดเคลื่อนนิดนึง หมอบอกว่าคนของเราจริงๆ แต่เรื่องมูลนิธิ หมอให้ข้อมูลว่าตอนนี้ภารกิจมันเยอะ เราได้ขอมูลนิธิเข้ามาร่วมช่วยเหลือส่งเคสโควิด รพ.ไม่เคยปฏิเสธว่าไม่ใช่คนของรพ.
รพ.เข้ามาเยียวยายังไง คนชนเขาไปงานศพมั้ย?
สิริลักษณ์ : ไม่เคยไปเลยค่ะ
นพ. สมศักดิ์ : ขอเรียนชี้แจง วันนั้นหลังเกิดเรื่อง คนขับรถเราเป็นลมเลย เขาไปพักอยู่ด้านหลัง เราให้เขาพักผ่อนเพื่อรักษาสภาพจิตใจ ตอนนี้สภาพจิตใจเขาแย่มาก เขานอนไม่หลับมาหลายคืน ภาพน้องติดตาตลอด ตอนนี้เลยให้พักงานอยู่ ส่วนเรื่องเยียวยา เมื่อกี้ที่ญาติบอกว่าวันที่ 13 หมอเรียกแม่มาคุย แม่มาคนเดียว แล้วแม่ตัดสินใจไม่ได้เรื่องเงินเยียวยาจะยังไง เราก็บอกว่าเดี๋ยวมาคุยกัน ให้คุณแม่ไปจัดการเรื่องน้องให้เรียบร้อยก่อน เพราะสถานการณ์อย่างนี้เราต้องช่วยกันว่าจะให้ผ่านวิกฤตไปได้ยังไง ทั้งคนขับรถของหมอ โดยเฉพาะครอบครัวผู้เสียหาย เป็นความสูญเสียของน้องเขาอย่างยิ่ง เพราะน้องดูแลแม่กับพ่อตลอด เวลาเกิดเรื่องรพ.ไม่ได้สนใจแค่เรื่องนี้อย่างเดียว สนใจว่าครอบครัวจะมีผลกระทบยังไงบ้าง
นพ. สมศักดิ์ : หมอเคยคุยแล้ว ถ้าอยากขอดูก็ได้ หมอยินดีให้ดูอยู่แล้วถ้าเป็นญาติสายตรง ต้องเข้าใจนะครับ เป็นเรื่องของกฎหมาย ตอนนี้ถ้าตร.หรือญาติขอดู โดยเฉพาะญาติโดยธรรม รพ.ยินดี ไม่ได้ปิดนะครับ นักข่าวที่นี่ก็เปิดให้ดู แต่บอกแล้วห้ามบันทึก ต้องถามว่าเราทำอะไรไปในสังคมต้องถามว่าได้ประโยชน์อะไร ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือจะทำยังไงให้ครอบครัวไปต่อได้ จะเยียวยายังไง เราคุยกับประกันให้ช่วยมากที่สุด คนถามว่ารพ.ทำอะไรบ้าง รพ.เราอันดับแรก ขนาดมีภารกิจต้องส่งคนไข้โควิดทุกวัน และมีปริมาณเยอะด้วย เราไม่มีคนพอขนย้ายผู้ป่วยโควิด ต้องให้มูลนิธิมาช่วย เรายังให้ รถรพ.ไปส่งศพน้องถึงบ้าน ให้เจ้าหน้าที่รพ.ไปกับรถด้วย เพื่อให้รู้ว่าสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลน้องอยู่ไหน เพื่อรพ.จะได้ไปร่วมงาน ถามว่าทำไมเพิ่งไป ตอนแรกเราไปแล้ว เอาพวงหรีดไปวางเคารพศพแล้ว ตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะไปร่วมงาน ขณะขับรถไปครึ่งทาง ญาติมาแจ้งว่าเลื่อนสวดจากทุ่มนึงเป็นหกโมง ตอนนั้นคนไปร่วมงานเลยโทรไปคุยกับคุณแม่แล้ว คุณแม่ก็บอกว่ากลับได้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวรพ.จะส่งทีมใหญ่ไปวันเสาร์นี้ แล้วคนขับรถน่าสงสารมาก วันนี้ที่ไปคุย เขายังทำงานไม่ได้
ผมว่าทางบ้านเขาน่าสงสารกว่า?
นพ.สมศักดิ์ : ใช่ครับ ตอนนี้ทุกคนน่าสงสารหมด ผมแค่บอกว่าการสูญเสียไม่ใช่เฉพาะแค่ครอบครัวอย่างเดียว ที่เราต้องดูแล
รพ.มีการเยียวยายังไง?
นพ. สมศักดิ์ : ตามที่แถลง ระบบการจ่ายเงินรพ.เป็นไปตามระเบียบข้าราชการ เงินทั้งหมดต้องใช้ในกิจการสาธารณสุขเท่านั้น เราไม่สามารถเอาเงินรพ.ไปใช้ในกิจการอื่นได้ ถ้าใช้ต้องเป็นเงินสวัสดิการ ซึ่งรพ.ต้องหาเงินส่วนนี้ ถ้าใครได้ติดตามข่าว เงินส่วนนี้ละเอียดอ่อนมาก และต้องขออนุมัติ และขึ้นอยู่กับปริมาณของเงินรพ.ว่าจะมีเพียงพอชดเชยเยียวยาแค่ไหน นี่ในส่วนรพ. ครับ
นพ. สมศักดิ์ : ใช่ครับ วันเสาร์นี้ น้องคนขับรถจะไปด้วย ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย รพ.ไม่ใช่ไม่รับผิดชอบนะครับ รพ.ยินดี เปิดโอกาสให้ญาติโดยธรรมมาคุยกับทางรพ.ได้ทุกเมื่อครับ
วันขอดูคลิป พ่อแม่ไปมั้ย?
สิริลักษณ์ : แม่ไปดูด้วยค่ะ เขาบอกให้ดูแค่นี้เดี๋ยวมันจะสะเทือนใจ ถ้าเห็นภาพเยอะกว่านี้
ฝั่งพี่ทนาย?
ไพศาล : เบื้องต้นที่สอบถามน้อง ตอนแรกโรงพยาบาล อ้างว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รพ. แต่พอเป็นข่าวบอกว่าเป็นเจ้าที่รพ. มันกลับไปกลับมา แล้วเรื่องความรับผิดชอบที่บอกว่าเป็นเงินสาธารณสุขเท่านั้น เงินสวัสดิการเท่านั้น ตรงนี้ไม่เป็นไร ในเมื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรพ. ก็ฟ้องต้นสังกัด ฟ้องเอา ใช้คำพิพากษาได้ มีสิทธิ์เรียกร้องสินไหมทดแทนได้
เขาบอกรพ.ไม่มีเงินเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่น?
นพ. สมศักดิ์ : อันนั้นเป็นระเบียบ
ไพศาล : มีตรงไหนที่รพ.จะชดใช้ค่าเสียหายให้ มีแต่ประกันจ่าย อ้างไม่สะดวกไปขอขมาแต่ไปทำบุญคืออะไร ต้องเป็นข่าวใช่มั้ย เขาเป็นผู้สูญเสียนะ คุณแม่เขาไม่ได้อยากรับเงินนะ 10 ล้านก็ไม่อยากได้ เพราะเขาสูญเสียลูก วันนี้คุณยอมรับไปแล้วว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ต้องร่วมกันรับผิด ฟังคำพิพากษาไป แต่นี่คือความสูญเสียของครอบครัวน้อง มันมีประกันภาคบังคับอีก 5 แสน แล้วถ้าฟ้องคนขับคดีอาญาเฉพาะตัวอยู่แล้ว ในส่วนละเมิดนายจ้างรับผิดแทนลูกจ้าง ยังไงก็ต้องร่วมรับผิดนะ ส่วนระเบียบคุณเป็นไงว่ากัน แต่ที่ติดใจ คือมาตรฐานจริยธรรมองค์กรและผู้บริหารองค์กร เข้าใจว่าช่วยคนอยู่วิกฤตโควิด ทำดีแล้ว แต่ต้องทำให้ถูกต้องด้วย ไม่ใช่หลังเป็นข่าวเพิ่งมาแสดงตัว ผมถามว่าการเคารพศพ ถ้าใส่ใจส่งตัวแทนไป ส่วนผู้กระทำความผิด เขาตกใจเข้าใจเหตุผลได้ แต่ติดใจหลายประเด็น จริยธรรมองค์กร มนุษยธรรม ความปลอดภัย โรงพยาบาลมีคนแก่ ผู้ป่วย เด็ก บางคนต้องนั่งวีลแชร์ คุณขับรถมีความสามารถขนาดไหน คุณบอกไม่รู้คิดว่าเป็นเนินลูกระนาด คุณเป็นเจ้าหน้าที่ รพ. ต้องอยู่ตรงนั้นเป็นประจำ จะไม่รู้เลยเหรอ ความปลอดภัยแค่ไหน แต่งไปอ้างมาว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ รพ. โยนไปโยนมา น้องเขายืนยันได้ว่าท่านพูดแบบไหน ถ้าเปิดมาอยากให้ท่านตอบนะว่าถ้าท่านได้ยินเสียงที่ท่านพูดเอง สิ่งที่ท่านพูดตอนแถลงข่าวตรงกับที่พูดกับญาติผู้เสียชีวิตหรือไม่ ผมตั้งเป็นคำถามนะครับ เรื่องคดีความ ตำรวจเขาจัดการของเขาเอง ถามว่าทำไมไม่เป็นข่าวที่สุราษฎร์ ทำไมมาเป็นข่าวที่นครฯ ที่ติดใจคือน้องไปบริจาคเลือด แล้วมาตายโดยโรงพยาบาล สิ่งแรกถ้าเป็นผม ครอบครัวผม รพ. แสดงอะไรหน่อยแต่นี่โยนไปโยนมา พอเป็นข่าวแถลง ก็ให้สังคมพิจารณา
สิริลักษณ์ : ที่แม่ตกลง เพราะเห็นใจ แค่วันไปรับศพ บอกให้มาขอขมาศพได้มั้ย ไม่ต้องไปที่งานก็ได้ถ้ากลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย แต่เขาบอกว่าเขาไปทำบุญ
บันทึกข้อตกลง มีตัวเลข 1.5 ล้านอยู่?
ไพศาล : มีตรงไหนที่รพ.จะชดใช้ค่าเสียหายให้ มีแต่ประกันจ่าย อ้างไม่สะดวกไปขอขมาแต่ไปทำบุญคืออะไร ต้องเป็นข่าวใช่มั้ย เขาเป็นผู้สูญเสียนะ คุณแม่เขาไม่ได้อยากรับเงินนะ 10 ล้านก็ไม่อยากได้ เพราะเขาสูญเสียลูก วันนี้คุณยอมรับไปแล้วว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ต้องร่วมกันรับผิด ฟังคำพิพากษาไป
ฝั่งทนายและครอบครัวบอกว่ารพ.ต้องเยียวยาด้วย ไม่ใช่ผลักไปเป็นหน้าที่ประกันอย่างเดียว มีอะไรติดใจอีกมั้ย?
สิริลักษณ์ : อยากให้คนชนพี่เขามาขอขมา อยากให้พูดความจริงทุกอย่าง ไม่ต้องโยนไปโยนมาแบบนี้ อยากให้เห็นความรับผิดชอบ เพราะคนลำบากต่อไปเป็นพ่อแม่ ที่อยู่กันแค่สองคน ขาดเสาหลักไป ต่อไปจะอยู่ยังไง พ่อป่วยเป็นมะเร็ง แม่เป็นโรคเลือด
ไพศาล : คดีนี้พี่ช่วยดู หลังจากจบรายการจะตามดูว่าผลเป็นยังไง
VV
V