เกินไปไหม?สาวทอมเกิดในครอบครัวคนจีน โดนน้าแช่งให้ตาย แม่ด่าเนรคุณ
ทำเอาดีเจถึงกับต้องกรี๊ดออกมาเลยทีเดียว เมื่อ "คุณเอ (นามสมมุติ)" สายแรกในรายการพุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (17 พฤศจิกายน 2565) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาเพศสภาพของเธอ
.
โดย "คุณเอ (นามสมมุติ)" ได้เล่าว่า ‘เราเป็น LGBT คือเป็นทอม ตั้งแต่เล็กจนโตคาแรคเตอร์ของเราคือ ตัดผมสั้น ออกห้าวๆอยู่แล้ว เราเกิดในครอบครัวคนจีนซึ่งเป็นฝั่งคุณแม่ เราเป็นลูกและหลานคนเดียวของครอบครัว ใช้ชีวิตในครอบครัวของคุณแม่มาตลอดแต่ก็มีคุณพ่ออยู่ในบ้านด้วย เราเคยมีแฟนที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน คบกันมาประมาณ 5 - 6 ปี ทางบ้านก็เคยเห็นว่าอ๋อ พี่คนนี้อะไรประมาณนี้ จนวันนึงมันทำให้มีเหตุการณ์ในครอบครัวที่ต้องพูดคุยกันจริงจังมากขึ้น
.
ก่อนหน้านี้คนที่บ้านบอกว่าอย่าเป็นแบบนั้น อย่าเป็นแบบนี้นะ หมายถึงอย่าเป็นทอม! เพราะว่าเราเรียนในคณะที่สังคมจะมองว่าเป็นแบบอย่าง ซึ่งเราเรียนในสายสุขภาพ ที่บ้านก็จะมองว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะมีโรงพยาบาลที่ไหนจะรับเข้าทำงาน คนไข้เขาจะมารักษากับเราไหม? ลึกๆเขาก็ทราบมาตลอดนะว่าเราเป็นแบบนี้ แต่เขาอยากให้เราปรับบุคลิกมากกว่า แบบอยากให้เปลี่ยนไปเป็นผู้หญิงเลย ไว้ผมยาว ใส่กระโปรง แต่ส่วนตัวเราเวลาไปเรียนหรือไปทำงานเราก็ใส่กระโปงได้ปกติ ไม่ได้ติดอยู่แล้ว เวลาจะไปเจอผู้ใหญ่เราก็จะพอทราบว่างานนี้ควรใส่กระโปรงหรืองานไหนควรจะเป็นยังไง เรารู้กาลเทศะดี ที่ผ่านมาเราไม่เคยตอบโต้อะไรเลย แต่จะมองว่าไม่เป็นไร อาจจะเพราะเรายังเรียนอยู่ ที่บ้านคงกังวล เป็นห่วงเรา...
.
ปัจจุบันนี้เราก็ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ทำมาประมาณ 3 - 4 ปีแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับเพศสภาพที่ทำงานอยู่ ตัวคนไข้หรือคนอื่นๆเขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย เพราะเราก็ได้พิสูจน์ตัวเองมาเรื่อยๆ มีผลงาน เป็นที่ยอมรับต่างๆ จนมาถึงวันนี้ที่ต้องมานั่งคุยกันจริงจัง ซึ่งมีทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และพี่ๆน้องๆของคุณแม่ ทุกคนในครอบครัวมีอายุประมาณ 65 ปีขึ้นไปแล้ว เขาก็บอกว่ารับไม่ได้ และให้เหตุผลว่าไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้ เพราะอยากให้เราเป็นคน เป็นมนุษย์ ไม่อยากให้เราผิดมนุษย์ เขาบอกว่าถ้าจะเป็นแบบนี้ ก็รอให้คนที่บ้านเสียชีวิตก่อนแล้วค่อยไปใช้ชีวิตแบบที่เราอยากจะเป็น หนูพูดเหตุผลไปหลายๆอย่าง และได้ยกคำพูดที่ดีเจเผือกเคยให้กำลังใจสายๆหนึ่งที่โทรเข้ามาในรายการพุธทอล์คพุธโทรให้เขาฟังว่า ‘ณ วันนึงที่หม่าม๊ามีหนู หม่าม๊ายังไม่ทราบเลยว่าหนูเป็นเพศอะไร หนูเกิดมาเป็นคนดีไหม เกิดมาเป็นหมอหรือเกิดมาเป็นโจรหรืออะไร' แต่กลายเป็นว่าสถานการณ์ดูแย่กว่าเดิม แม่ก็คิดจะฆ่าตัวตาย บางคืนนอนอยู่ก็มีเสียงกรีดร้องขึ้นมา โวยวาย ด่าทอเราว่าเราเป็นลูกเนรคุณ เป็นลูกอกตัญญู ที่บ้านทุกคนก็รับทราบหมด
จนวันนึงเรารู้สึกว่าเราทนไม่ไหวแล้ว เพราะตัวเราเองต้องตื่นไปทำงานรักษาคนไข้ในทุกวัน วันนั้นน้าที่เป็นน้องสาวของแม่ เขาจุดธูปไหว้พระตามปกติ แล้วเขาก็อธิฐานเสียงดังเพื่อให้หนูได้ยินด้วย ‘เขาอธิฐานว่าให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลบรรดาลให้หนูมีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วันนี้ ถ้าหนูยังเป็นแบบนี้อยู่' ก็เลยทำให้ถึงจุดที่วันนั้นเราตัดสินใจย้ายออกมาพักอยู่คนเดียว ตอนนี้ก็ดีขึ้น เราไปทำงาน 7 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น เราก็ยังกลับบ้านไปทานข้าวกับพ่อแม่ทุกวัน จนถึงประมาณ 5 ทุ่มก็กลับที่พัก ตอนที่กลับไปบ้านเราก็เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ไม่ได้ปรับบุคลิกอะไรเลย ซึ่งระยะเวลาตอนนี้เกินกว่า 1 ปีแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้แม่ก็ยังไม่คุยกับเราเลย พยายามชวนแม่คุย ซื้ออาหารที่แม่ชอบไปให้แต่แม่ก็ยังไม่คุยด้วย เราก็ได้แต่คุยกับพ่อแค่คนเดียว พ่อก็ถามวันนี้เหนื่อยไหม แต่ก็จะมีแค่เราเองที่พูดอยู่ฝ่ายเดียวว่าวันนี้ทำอย่างงี้ๆ ทำเรื่องนี้ๆนะ
.
ซึ่งทุกๆเดือน ทุกๆสัปดาห์ก็จะมีสายจากเพื่อนของแม่โทรมาหาเรา บอกให้เรากลับบ้าน อย่าทำอย่างนี้ เราก็แอบถามเขาว่ารู้เรื่องไหม เขาบอกว่าเขาเองไม่ได้ทราบต้นสายปลายเหตุว่ามันเกิดเรื่องอะไรกัน แต่เขารู้สึกว่าแม่ทุกข์ใจมาก อยากให้เรากลับบ้าน เราเคยถามคนในครอบครัวด้วยว่าเราไปปรึกษาจิตแพทย์กันไหม หาทางออกร่วมกัน เขาก็บอกว่านี่มองคนที่บ้านวิกลจริตไปแล้วหรอ? ทุกวันนี้ที่เรายังดำเนินชีวิตอยู่ได้และรู้สึกว่าตัวเองมีค่า เพราะมีคนไข้ มีแฟน มีเพื่อนที่คอยให้กำลังใจตลอด "คุณเอ (นามสมมุติ)" จึงได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจทั้ง 3 คน เพื่อจะขอคำแนะนำว่ามีบางมุมไหนที่เราอาจจะมองไม่เห็นหรือมองพลาดไปบ้าง...
.
3 ดีเจก็ได้ให้คำแนะนำ "คุณเอ (นามสมมุติ)" ว่า เพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเองเยอะๆ เพราะสิ่งที่เอเป็น มันเป็นมนุษย์คนนึงที่สมบูรณ์มากแล้ว และก็เป็นคนที่ดีมากๆด้วย ไม่จำเป็นต้องตั้งคำถามในความเป็นมนุษย์ของตัวเองเลย ไม่ว่าจะชอบใคร เพศไหนก็ตาม แต่หนูไม่ได้ผิดอะไรเลยนะ...
ชุดความคิดที่มันตกยุคไปแล้วของคน Genaration หนึ่ง ถ้ามองกันในเหตุและผลจริงๆ คนยุคนี้เราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เปลี่ยนเขาไม่ได้แล้ว เราทำได้แค่ต้องยอมรับ แต่มันไม่น่าจะมาลดทอนคุณค่าของใครได้ เพราะฉะนั้นอย่าให้ชุดความคิดของคนเหล่านี้มาทำร้ายอะไรเราได้นะ...
ชมคลิป
VVVVV
VV
VVVV
V
V
VV
V
VV
VVVVV
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น