หนุ่มฉุนสติหลุดต่อยทอมเลือดอาบ-กรรชัย ลั่นพอกัน
กรณีทอมรายหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์ แต่เกือบเฉี่ยวชนกับรถเก๋งที่ขับตามมา ก่อนที่ฝ่ายรถเก๋งจะถอยหลังกลับมามีปากเสียงกัน และนำไปสู่การทะเลาะวิวาท สุดท้ายหนุ่มขับรถเก๋งต่อยหน้าทอมจนเลือดอาบ อีกฝ่ายไปแจ้งความดำเนินคดี
รายการโหนกระแส ออกอากาศ วันที่ 4 เมษายน 2566 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ มิ้ง สุจิตรา เสียงแป้น ผู้เสียหาย, ออย พชรา มาสู่ผล แฟนผู้เสียหาย, โอ๋ มณีพร ราชภักดี เพื่อนสนิท อีกฝั่งคือคู่กรณี เอฟ ภาณุพงศ์ พรมป้อม ผู้ก่อเหตุ, โบว์ จรรยวรรธณ์ วัชรพันธ์ แฟนเอฟ และทนายอรรณพ บุญสว่าง
ตั้งแต่มีเรื่องเจอกันมั้ย ?
มิ้ง : เพิ่งเจอกันครั้งแรก
เรื่องราวทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น ?
มิ้ง : เรื่องของเรื่องวันนั้นมีการไปกินกับเพื่อนมา ยอมรับว่าดื่มแต่ไม่ได้เมา ก็ขับรถมาปกติที่ขับกลับมาอยู่แล้ว ตรงนั้นเป็นหน้าคอนโดหนูที่ไม่เลี้ยวเข้าคอนโด เพราะต้องการไปรอเพื่อน ณ เกิดเหตุ ที่ขับรถเป๋หนูไม่ได้เมา ถ้ามองดี ๆ หนูหันไปมองข้างทางเพื่อมองหารถเพื่อนว่ามาหรือยัง และถ้าเพื่อนไม่มาก็อาจรอตรงนั้น แต่ถ้าเพื่อนมาที่คอนโดเพื่อนจอดได้แค่ข้างนอกไม่สามารถเข้าคอนโดได้ ก็เลยจอดรอตรงนั้น แล้วไม่รู้ว่าทางรถของคู่กรณีขับมาเร็วค่ะ ไม่รู้ตามมาตั้งแต่แรกหรือเปล่าหนูไม่ทราบ ไม่ได้มีการขับไปกวนประสาท หรือยั่วโมโหเขา เราขับของเรา เหมือนดูข้างทาง ไม่ได้มองตรงไปข้างหน้า แล้วก็ไปจอดรอตรงนั้น ตอนแรกคู่กรณีขับเลยไปแล้ว เขาเห็นจอดก็เลยถอยหลังกลับมาต่อว่า
เขาด่าเรา ?
มิ้ง : ทำนองว่าขับรถประสาอะไร ทำไมไม่เปิดไฟเลี้ยว มิ้งก็มีการขอโทษไป บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ที่เขายั่วโมโห เราอาจมีน้ำเสียงและบุคลิกเราเป็นแบบนี้หรือเปล่า ไม่แน่ใจ หลังจากนั้นเขาลงมารอบแรก เอามือไขว้หลังมา ตอนแรกเราคิดว่าเขามีอาวุธ แต่พอมองแล้วเขาไม่ได้มีอาวุธเป็นโทรศัพท์เขา แต่ ณ ตอนนั้นถามว่ากลัวมั้ย กลัว เพราะเราอยู่คนเดียว ก็มีการเถียงกลับมา แต่หนูว่าหนูเงียบนะคะ ไม่ได้ตอบโต้อะไรเขาไป
จากนั้นเขาเดินขึ้นรถไป ?
มิ้ง : น้องผู้หญิงลงมา เหมือนบอกแฟนเขาว่าพอแล้ว พี่เขาเป็นผู้หญิง
หนูพูดมั้ย ?
โบว์ : พูดค่ะ พูดทั้งรอบแรก รอบสอง และรอบสามนะคะ
มิ้ง : หนูเลยบอกกลับไป เขาพูดว่าพี่พูดจาดี ๆ สิ เหมือนหนูพูดไม่ดีกับเขา หนูก็เลยตอบไปว่าก็คนมันเมา จะให้ทำยังไง ไม่ได้ตั้งใจ ก็พูดจาแบบห้วน ๆ แต่ ณ ตอนนั้นถามว่ากลัวมั้ย โคตรกลัวเลย เพราะหนูอยู่คนเดียว
เอาเสียงข่มไว้ก่อน ?
มิ้ง : ใช่ แล้วน้องเขาพูดมาแล้วว่าน้องเป็นผู้หญิง หนูก็พูดสวนกลับไปว่า คนมันเมาจะให้ทำยังไง คิดว่าเขาจะเห็นใจ แต่เปล่า หยิบกุญแจเราที่อยู่ที่รถเขวี้ยงเข้าป่า ก็งงเลย สร่างนิดนึง พอเขาเขวี้ยงกุญแจเสร็จ หนูก็พูดกลับไปว่า มึงเป็น..อะไร ให้กล้วยเขาไป แล้วบอกว่ามีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้ เหมือนเขาจะขับรถออกไป หนูชูนิ้วกลางให้เขา ยอมรับตรง ๆ เลย จากนั้นเขาลงมาใส่เลย ต่อยเลย ที่เห็นในคลิปคือรอบสอง หนูโดนหลายดอกอยู่นะ เลือดอาบหน้าแล้วเขาก็ไม่หยุดทำ
เขาถีบคุณก็สู้เหมือนกัน ?
มิ้ง : ตอนนั้นก็ต้องสู้
เอฟ ยังไง ?
เอฟ : ผมขับรถตามมานี่แหละ มันเป็นโค้งนะ ไม่ใช่ทางตรง พอขับตามกันมาเข้าโค้งไปปุ๊บ กำลังจะเหยียบคันเร่ง เขาเบรกกะทันหัน ไฟเลี้ยวก็ไม่เปิด ตอนแรกไม่คิดว่าเขาจะเลี้ยวเข้าตรงนั้นหรอก คอนโดก็อยู่ตรงนั้น เขาขับงึก ๆ งัก ๆ พอผมเบี่ยงขวา ผมมองกระจกหลัง เขาก็เป๋ไปเป๋มา เหมือนฟึดฟัด ๆ
ถอยกลับมาทำไม ?
เอฟ : เขาฟึดฟัด ๆ ใส่กัน ตอนนั้นไม่รู้เมา คิดว่าเขาผิดแล้วทำท่าทำทาง พอถอยมาไม่ได้พูดอะไร เปิดกระจกปุ๊บ นับหนึ่งถึงสาม เขามองหน้าก่อน ผมก็ถามว่าขอโทษไม่ได้เหรอ เขาบอกว่าขอโทษแล้วไง ผมก็บอกว่านี่เหรอครับ คนไฟเลี้ยวไม่เปิด พูดกระโชกโฮกฮากแบบนี้เหรอครับ เขาบอกก็กูเมาไง
มิ้ง : ไม่มีกู
เอฟ : มีพี่ ตอนนั้นมีอารมณ์แล้ว
มิ้ง : หนูพูดว่าก็คนมันเมา
โบว์ : เขาพูดว่าก็กูเมา มีคำนี้ค่ะ
เอฟ : ผมยังไม่ได้พูดเลยนะว่า มึงขับรถเหี้.. อะไรของมึง ผมรอเขาขอโทษ เขาไม่ได้ขอโทษก่อน ผมว่าเนี่ยเหรอคำพูดของคนขอโทษ คุณทำท่าทางแบบนี้ใส่ผมเหรอ เขาบอกว่าก็กูเมาไง ทำได้แค่นี้แหละ ทำท่าทางใส่ผม มันเลยจุดประเด็น รอบสองผมฉุนคำว่าก็กูเมา ก็เลยเดินไปถอดกุญแจแล้วโยนไป แล้วบอกว่าเมาใช่มั้ย ไปหาให้สร่างเมานะ
ตอนคุณโยนกุญแจ เจตนาคืออะไร ?
เอฟ : หมั่นไส้ก็หมั่นไส้ ที่เขาบอกว่าเมาด้วย คำพูดที่เขาขอโทษด้วย มันหลาย ๆ อย่าง ตอนแรกคุยกันมีปากเสียง เหมือนไม่อยากทำร้ายร่างกายเขาเลย ไม่อยากทะเลาะด้วย โยนกุญแจก็จบให้เขาหาย ให้สร่างเมา
กวนเท้าเขามั้ย หรือตั้งใจ ?
เอฟ : ต่างคนต่างกวน เพราะเขาก็พูดว่าเมาแล้วขับ ผมก็เลยหยิบกุญแจขว้างไป แต่ผมรู้จุดหมายตรงไหน
โบว์ : ทางแฟนหนูเขาโยนไปที่เสาที่สอง ตรงนั้นมีเสาไฟที่ส่องไฟอยู่ข้างถังขยะ เขาโยนไปกึ่งถนนกับกึ่งป่า อยู่ข้าง ๆ กัน เป็นไหล่ทาง ปาไปตรงนั้น ไปถึงก็หยิบได้เลย ไม่ได้เข้าป่า แฟนหนูก็บอกว่าเมาใช่มั้ย เมาก็ไปหาให้สร่าง แล้วก็เดินขึ้นรถ
เอฟ : พอขึ้นรถเขาชูนิ้วกลาง มีทะเลาะกันอีก ก็ใส่กันเลย ขาดสติหนัก เพราะ 2-3 รอบแล้ว
มิ้ง : หนูยอมรับว่าดื่ม แต่หนูไม่ได้เมา
แล้วไปบอกเขาเมาทำไม ?
มิ้ง : หนูยอมรับว่ากลัว ท่าทางเขาจะเอาเรื่องหนูให้ได้ หนูยอมรับก่อนว่าหนูพูดจาไม่ดีใส่เขา พูดจากระโชกโฮกฮาก ขอโทษแบบไม่เต็มใจ น้องเขาบอกว่าหนูเป็นผู้หญิง หนูก็ตอบว่าก็คนมันเมา หนูก็ยืนยันว่าหนูไม่ได้พูดกู
ตกลงเมาหรือไม่เมา ?
มิ้ง : ไม่เมา
แต่บอกว่าเมา ?
มิ้ง : ใช่ เพราะคิดว่าเขาจะไม่ทำหนูเยอะขนาดนี้ ไม่คิดว่าพอบอกไปปุ๊บเขาดึงกุญแจเขวี้ยงไป มุมมองหนูเขาคิดว่าเป็นผู้หญิงด้วย เมาด้วย รถไม่มีการชน อีกอย่างหนูไม่คิดว่าทางคู่กรณีขับในซอย หนูว่าเขาขับเร็วนะ ดูจากกล้องวงจรปิด เขาอาจตกใจหรือเปล่าเพราะมีรถสวนเลนมา ยอมรับว่าไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว
เอฟ : ตรงนั้นเป็นทางโค้ง จะบอกว่าผมขับรถเร็วเป็นไปไม่ได้
มิ้ง : อันนี้ไม่ได้กล่าวหา แค่ดูในคลิปเฉย ๆ ยอมรับว่าโมโหที่เขวี้ยงกุญแจเข้าไป
คุณอยากพูดอะไร คุณออยแฟนมิ้ง ?
ออย : หนูไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไปกินกันเพราะเพื่อนอีกคนจะไปเมืองนอก มิ้งกินไป 2-3 แก้วก็บอกว่ากลับเถอะ ทุกคนเอารถใหญ่มา มีเขาเอามอเตอร์ไซค์มา เขารู้ว่าพรุ่งนี้ต้องทำงานเช้า ก็แยกกัน หนูเห็นว่าเขาไม่ได้เมาเลย ถ้าเขาเมาหนูต้องขับ ปกติหนูไปไหนกับเขาสองคนเป็นแฟนกันหนูขับอยู่แล้วเพราะหนูไม่กิน ก็นัดไปเจอกันหน้าคอนโด เพื่อนหนูไปจอดในคอนโดไม่ได้ เพราะต้องเป็นคนอยู่ในคอนโดเท่านั้นถึงจอดได้ ทีนี้พี่ชายโทร. มาระหว่างเราไปคอนโดว่ามิ้งมีเรื่องกับวัยุร่นนะ เราก็ล้อเล่นหรือเปล่า เพราะเขาไม่เคยมีปัญหากับใครเลย จังหวะวิดีโอคอลไปเลือดเต็มหน้าแล้ว ตอนนั้นแฟนน่าจะเหมือนทะเลาะกับน้องเขาอยู่ แต่ไม่เห็นหน้าน้องเขานะ น่าจะคลาดกันนิดเดียว ไปเจอพี่ไลน์แมน พี่ผู้หญิงผู้ชาย คิดว่าเขาเป็นคนทำ
หนูเดินไปว่าทำอะไรกัน พี่เขาบอกว่าไม่ใช่เขา เขาบอกว่าคู่กรณีไปแล้ว หนูก็อ้าว แล้วเขาไปนานแล้วเหรอ เห็นมิ้งก็ร้องไห้แล้ว เพราะมองว่าเขาตัวเล็กและเป็นผู้หญิง ก็พาไปโรงพยาบาลกันก่อน คนที่อยู่ในคอนโดที่เห็นเหตุการณ์ เขาเดินมา น่าจะมีคนแจ้งความ เขาบอกให้รอตำรวจก่อน แต่น้องเขาไม่ได้รอ หนูก็บอกว่าไม่เป็นไร พามิ้งไปโรงพยาบาลก่อน เพราะเลือดเต็มไปหมดเลย ไลน์แมนบอกว่ามาแล้วเห็นค่อนข้างรุนแรง ผมเห็นแล้วรอบแรกโดนยับแล้วแต่ไม่กล้าช่วย ตอนนั้นหนูสติแตก เลือดเขาเต็มหน้า ก็ไปแจ้งความกันก่อน ถ้าเขาเมาก็แจ้งตำรวจสิ เขาเป่าอยู่แล้ว เขาไม่ปล่อยอยู่แล้ว แฟนหนูก็ไปแจ้งตำรวจปกติ ไม่ได้เดินเซอะไรเลย แต่นี่เขาถามว่าโดนอะไรมา ทำไมสภาพเป็นแบบนี้มิ้ง : ตีหนูเสร็จ เหมือนคนเริ่มมาเยอะแล้ว เขาก็ขับรถออกไปเลย พอเขาออกไปแป๊บเดียว สายตรวจก็มา อยากรู้ว่าขับไปทำไม ทำไมไม่รอตำรวจ
เอฟ : ตอนนั้นอย่าลืมว่าผมกับพี่คุยกันแล้ว ผมหยิบกุญแจมาให้พี่ครับ
โบว์ : เขาเดินไปเอากุญแจมาใส่มือพี่
ออย : น้องรู้อยู่แล้วว่าเขาเมา แต่น้องหวังดีเอากุญแจไปเขวี้ยงบอกว่าให้สร่างเมา มันไม่มีใครทำหรอกค่ะ
เอฟ : พี่ต้องฟังจุดประสงค์การทำร้ายเขาด้วยนะ ผมขับรถกลับมาต้องการคำขอโทษ เขาไม่ขอโทษผมเลย ผมเลยต้องพูดว่าคุณขอโทษไม่ได้เหรอ เขากระโชกโฮกฮากกลับมา
ออย : ถ้าเป็นน้อง น้องถูกโยนกุญแจล่ะ จะโมโหมั้ย
เอฟ : มันยังไม่ถึงตอนนั้นนะพี่ ก่อนโยนกุญแจ คนเมามาขอโทษแบบนี้ ขับรถแบบนี้ ถ้าชนไปล่ะ พี่บอกว่าเสียค่าปรับก็จบเหมือนกัน ก็เหมือนที่ผมพูดกับพี่
มิ้ง : แต่น้องด่าพ่อล่อแม่พี่นะ
เอฟ : ไม่มีนะครับ
โบว์ : ไม่มีนะคะ
เอฟ : มีแต่คุณ คุณบอกว่าเมาอะ ถามจริง การขอโทษคน ผมถอยกลับมา ถ้าขอโทษดี ๆ อันไหนสมควรกว่ากัน มันปรี๊ดจริง ๆ ตอนพูดว่าเมานี่แหละ มันประจวบเหมาะพี่พูดว่าเมา ผมจะชนพี่ แล้วพี่ไม่เปิดไฟเลี้ยว ผมไม่ได้ถอยกลับมาหาเรื่องพี่โดยตรง แต่เขาไม่ได้ขอโทษเลย
โบว์ : มองกระจกหลัง พี่เขาทำท่าทีกวนโทสะ ไม่ได้สำนึกผิด แฟนหนูก็เลยโมโห
ออย : ถึงขั้นตอนบีบคอเลยเหรอ ถ้าพลั้งมือไปแล้วมิ้งตายล่ะคะ
เอฟ : พี่ต้องฟังผม เพราะพี่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
ออย : แต่มีคนเห็นค่ะ หลักฐานมีกล้องวงจรปิดนะคะ
เอฟ : ผมจะมายอมรับความจริง ไม่ได้แก้ต่างเลย
ออย : พี่ไม่ได้เข้าข้างนะ แต่มองว่าคนเมา แล้วน้องเอากุญแจเขวี้ยง ไม่มีใครเดินไปหาหรอก
เอฟ : ที่ว่าทำร้ายต่อเนื่อง ผมไม่ได้ทำร้ายต่อเนื่องนะ ถามเขาดูว่าเขาดึงคอเสื้อผมหรือเปล่า
ออย : เขาปกป้องตัวเองไง สัญชาตญาณคน
เอฟ : ผมไม่ได้คร่อมแล้วต่อย บีบคอ เขาดึงผมไว้แล้วผมจะลุกยังไง ผมก็แกะมือเขาออก
ออย : รู้ว่าแฟนตัวเองพูดห้วนอยู่แล้ว แต่มองว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ คิ้วแตกแล้วทำไมไม่หยุด
เอฟ : หยุดพี่ แต่ตอนคร่อม เขาดึงคอเสื้อผมไว้ไม่ให้ลุก
ออย : สัญชาตญาณคนเจ็บอะน้อง ใครไม่สู้บ้าง
เอฟ : ตอนผมคร่อม ผมไม่ได้ทำอะไรแล้ว
โอ๋ : พยานสองคนที่เห็น บอกว่าโดนหนักมากเลยนะคะ บอกว่าค่อนข้างรุนแรงมาก เพราะโอ๋เป็นคนเดินไปเอาคลิปจากพลเมืองดี เขาบอกเพื่อนพี่โดนหนักมาก ก่อนหน้านี้โดนเยอะมาก เขาเพิ่งถ่ายได้ตอนครึ่งนึง มีสองคนที่เห็นเหตุการณ์เขาบอกว่าโดนรุนแรงมากค่ะ
คนถ่ายทำไมไม่ไปห้าม ?
มิ้ง : เขากลัวค่ะ
แผลเป็นไงบ้าง ?
มิ้ง : มีเย็บค่ะ
โอ๋ : ตอนแรกบอกว่าไม่มีเจตนาทำร้าย ทำไมทำร้ายเขาหนักขนาดนี้
โบว์ : รอบแรกที่เขาโดนทีเดียว เลือดเขาก็ออกเลย แฟนหนูไม่ได้ทำอะไรต่อ เขายังยื้อกัน เพราะฝั่งเขาก็เริ่มมีอารมณ์ สองฝั่งเขาปะทะกัน ทางนี้ก็อยู่กับที่ ทางโน้นก็พุ่งเข้าใส่ และกระโจนมาทำร้าย
คุณกระโจนมั้ย ?
มิ้ง : ก็ต้องสู้อะพี่หนุ่ม สู้ไม่ได้ก็ต้องสู้
โบว์ : ก่อนเขาโดน เขาทำท่าโวยวาย ทำท่ายั่วประสาท มาสิ ๆ พอโดนปุ๊บเขาโวยวายว่าเป็นผู้หญิงนะ ทำไมไปทำแบบนี้ ในเมื่อก่อกวนยั่วโทสะ หนูลงมาห้ามเขาสองสามรอบ เขามองกระจกหลัง พี่คนนี้ก็ยังทำท่าที แฟนก็เลยปรี๊ดเลย หนูอยู่ในเหตุการณ์ ไม่ได้เข้าข้างแฟนนะคะ
พี่อรรณพ มุมทนายความ ?
ทนาย : ตอนเขาชะลอรถ มองหาเพื่อน คุณเห็นรถเขามั้ย
เอฟ : ไม่เห็น เพราะเป็นทางโค้ง
ทนาย : คุณเร็วเท่าไหร่ ตอนโค้ง
เอฟ : เราไม่ได้มอง ชะลอแล้วกำลังจะเติมคันเร่ง
ทนาย : แต่ในคลิป เห็นเขาเหยียบไฟเบรก เลยรถคันแรกที่จอดไปแล้วถึงเพิ่งเบรก
เอฟ : ตอนนั้นช่วงกำลังเลี้ยวพอดี
ทนาย : จากคลิปคุณน่าไม่เห็นจักรยานยนต์ และฟ้องอยู่ว่าเร็วพอสมควร ถ้าเทียบกับขนาดถนนไซซ์นี้ เป็นเลนสวนเลนเดียว เร็วช้าไม่รู้ ต้องไปว่ากัน แต่ความเห็นผม ผมเห็นคุณเบรกกระชั้นมากตอนเขามองหาเพื่อน แล้วบอกคุณมิ้งตรง ๆ การชะลอรถดูเพื่อนกลางถนนมันไม่ได้ ที่ถูกต้องคุณต้องเข้าซ้ายแล้วไปมองหากันเอง จะไปมองหาแบบนี้ไม่ได้
มิ้ง : อันนี้ยอมรับค่ะ
ทนาย : ขับขี่ประมาททั้งคู่ คนนึงขับมาค่อนข้างเร็ว อีกคนก็มองหาเพื่อน ความเห็นผม คุณเบรกคุณแทบไม่เห็นเขา สองคุณถอยกลับมาทำไม พลเมืองดีที่ดี เรามีสิทธิ์จอด คุณรู้ว่าไม่มีเสียงชน ไม่เกิดการเฉี่ยวชนเกิดขึ้น คุณมีสิทธิ์จอดดูว่าเขาป่วยเขาหมดสติ เขาเป็นอะไรหรือเปล่า มันเกิดอะไรขึ้น ดูเขาสักนิด แล้วช่วยเหลือกัน แต่ถ้าตามหาคำขอโทษ ถ้าคุณไม่ลงจากรถ วันนี้ไม่มี ไม่เกิด อันนี้ต้องเตือนตัวเองว่าเรื่องนี้มันขาดตอนในคดีของจราจรตั้งแต่จุดนั้นแล้ว แต่การที่คุณลงจากรถมาแล้วถามหาคำขอโทษ ถามหาความสำนึกในเวลานั้น ผมเชื่อว่าต่างคนต่างร้อน ไม่งั้นคงไม่เกิดเรื่องขึ้น เท่าที่ฟังเรื่องมาทั้งหมด ไม่ใช่บันดาลโทสะครับ เป็นเรื่องเกิดการวิวาท การที่คุณไปดึงกุญแจรถเขาไปเขวี้ยง คุณไปเอากุญแจรถคืนเขากี่โมง
เอฟ : วันนั้นเลยครับ ก่อนแยกย้าย ก่อนเขาถ่ายรูป เพราะเขาเดินมาบอกว่าแตกแล้ว
ทนาย : แล้วทำไมเขาบอกว่าเขาได้ที่นิติฯ
เอฟ : ผมอยากหาหลักฐานตรงนี้เหมือนกัน ผมไปหยิบกุญแจแล้วเอาไปให้เขาเอง
ทนาย : เราเป็นพลเมืองดีอย่างไรก็ไม่มีหน้าที่ไปถอดกุญแจรถเขาเขวี้ยงไป สุ่มเสี่ยงข้อหาลักทรัพย์ก็ดี ทำให้เสียทรัพย์ก็ดี ถ้ากุญแจเขวี้ยงตกหล่นเสียหาย ปัญหาเกิด เราไม่มีหน้าที่ทำแบบนั้น อันนี้ผิดถูกไปแล้วก็ถือว่าเตือนสติ การชูนิ้วกลางของคุณมิ้งยั่วยุให้เกิดเรื่อง การชูนิ้วกลางเป็นการดูหมิ่น แต่พฤติการณ์ยังไม่ถึงท้าทายให้ทะเลาะวิวาท การทำหน้าท่าทางมันยั่วประสาท แต่ไม่ได้สื่อในทางสากลว่าเข้ามาสิ พร้อมจะตีกัน มันไม่ใช่อย่างนั้น หรือไปต่อในศาลก็อีกอย่างนึงหรือขอโทษให้จบตรงนี้ คุณเอฟลองดึงสติดี ๆ เพราะแต่ละทอดมันขาดตอนแล้ว ตั้งแต่คุณกลับไปขึ้นรถแต่ละครั้ง เหตุการณ์ขาดตอนแล้ว คุณอ้างบันดาลโทสะไม่ได้ การขาดตอนในแต่ละตอน คุณมีสิทธิ์ไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น และไปจากตรงนี้ทุกครั้ง แต่คุณกลับลงไปตีเขา
ทางนี้ล่ะ ?
ทนาย : ตำรวจตรวจแอลกอฮอล์มั้ย
ออย : ไม่มีค่ะ
ทนาย : ทางนี้ผิด พ.ร.บ.จราจร แหละ แต่ทะเลาะวิวาท ถ้ามีคนเห็นหรือปรากฏได้ว่าคุณไปยั่วยุหรือเชื้อเชิญให้เขามาวิวาทกับคุณ ถ้าศาลฟังโดยรวมว่าพฤติการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ คุณเชื้อเชิญ ยั่วยุให้ทะเลาะวิวาท คุณก็จะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยน์ตามกฎหมาย เหมือนเจ็บตัวฟรี เรียกร้องอะไรไม่ได้ ส่วนฝั่งผู้กระทำความผิด ก็ต้องดูสำนึกว่าจะชดใช้เยียวยาช่วยเหลือเขาด้วยความสำนึกแค่ไหน
คุณไปแจ้งความแล้ว เอฟไปรับทราบข้อกล่าวหามาแล้ว มองแล้วเอาตรง ๆ เป็นเรื่องพอ ๆ กัน ผมไม่รู้คุณเมาหรือไม่เมา ?
ทนาย : พฤติการณ์คุณไม่จบไง พอเขากลับขึ้นรถแต่ละที คุณไม่จบไง
นี่กำลังเป็นสิ่งที่สงสัย จากในภาพ จะเห็นว่าเอฟขึ้นรถแล้วและลงมาอีก รอบที่ 4 ถึงได้ชกต่อยกัน ?
ทนาย : พฤติการณ์คุณมิ้งดูไม่จบ
แต่ทางนี้ใจร้อนไปเหมือนกัน ?
เอฟ : อันนี้ยอมรับ
ทางนี้ก็กวนตีนเหมือนกัน ?
ออย : เขาพูดจาห้วนจริง ๆ กับเพื่อนกับแฟน สไตล์เป็นแบบนี้จริง ๆ
ทนาย : คุณมิ้งมีอารมณ์แล้ว ไม่จบใช่มั้ย
มิ้ง : ก็มีโมโหบ้าง แต่ที่กระชากลากถู หนูโดนเขาศอกเข้าหน้าแล้ว แต่ไม่คิดว่าเขาจะดันตัวหนูไปจมกับกองขยะ
ทรงมิ้งก็ไม่ธรรมดา ?
ออย : ใช่
ตอนนี้อาการเป็นไง ?
มิ้ง : เจ็บตาและเจ็บตรงลิ้นปี่ค่ะ โดนเข่าเขา
เอฟ : ตอนที่ดันเขานั่นแหละครับ ที่เขาดึงคอเรา
ทางนี้จะเอายังไงต่อไป ?
ออย : เห็นสภาพนี้ไม่ต้องเป็นใครหรอก ผู้หญิงตัวแค่นี้ มองว่ามันร้ายแรงนะ โดนขนาดนี้ ถ้าแฟนหนูเป็นผู้ชายหนูไม่ว่าเลย เต็มที่ทะเลาะวิวาทกัน หนูไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ฟังจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เขาเห็นแต่แรก หนูมองว่าทำไมน้องเขาไม่อยู่คุยกัน ถ้าแฟนหนูเมาจริง ๆ เป่าแอลกอฮอล์ก็ขึ้น ทำไมไม่รอ ถึงแม้จะมีชกต่อยกัน เพราะไลน์แมนก็บอกเขาให้รอมาเคลียร์กัน
เขาถามว่าทำเกินไปหรือเปล่า ฝั่งนี้ก็คิดว่าพอต่อยกันปุ๊บอ้างผู้หญิงเลย แต่ก่อนมีเรื่องกัน ทรงนั้นไม่ใช่แล้ว ?
เอฟ : ใช่ครับ
ทนาย : คุณลงไปไม่พอใจเขาเต็มที่ ถอยมาก็ไม่พอใจอยู่แล้ว
เอฟ : ตอนนั้นต้องการคำขอโทษแค่นั้นเอง
ทนาย : ใจร้อนหรือเปล่า หรือมีอะไรอยู่ก่อนหรือเปล่า
มุมนี้ผิดที่ไปทำร้ายร่างกาย เอากุญแจไปโยน แต่ทางนี้ทรงยั่วตลอด ไม่จบ ?
โอ๋ : ตบทีนึงหรือต่อยทีนึงก็พอ แต่นี่มีการบีบคอกันด้วยอารมณ์โมโหมาก ๆ ถ้าพลั้งมือขึ้นมาล่ะคะ
เอฟ : ใคร ๆ เห็นก็คิดว่าบีบคอ แต่ไม่ได้บีบคอนะครับ
ทนาย : ดูคอหน่อย
โบว์ : ภาพแนวเอฟขึ้นคร่อม เหมือนบีบคอ แต่ไม่มีการต่อย ลงไม้ลงมืออะไรต่อ
ทนาย : เมื่อกี้เขาลุกไปแล้ว ถ้าคุณไม่ทำอะไรเขาคงไม่หันกลับมา
ออย : เหมือนลุกขึ้นมายืนเฉย ๆ แล้วโดนถีบเลย
ทนาย : คุณมิ้งต้องยอมรับว่าคุณไม่จบ
ออย : แฟนหนูลุกขึ้นมายังไม่ทำอะไรเขาเลยพี่
ทนาย : คลิปมันไม่โกหกใคร ไม่รู้พูดอะไรกันถึงหันกลับมาถีบ
เอฟ : ตอนนั้นผมจะขึ้นรถไป เหมือนเขาด่าอาละวาดแล้วบ้าแล้ว
ออย : เขาโดนกระทำขนาดนั้น
เอฟ : ผมเข้าใจ ผมยังบอกน้องที่ขับรถมาตาม ให้มาช่วยห้ามเขาหน่อย และให้ช่วยดูอาการเขาด้วย
ทนาย : เขาไม่จบ จากเบาก็กลายเป็นหนัก มันต้องมีจุดยุติอะไรบาอย่าง
ออย : เขาเจ็บแล้ว ถ้าเป็นน้องจะจบมั้ย
วันนี้ถ้ารู้ตัวเองว่าอันไหนผิดก็ยอมรับไป ถ้าไม่ได้ก็ไปตกลงกันในศาล ?
ทนาย : คุณควรมีบทเรียนว่าสิ่งที่ผ่านมาสร้างปัญหาให้คุณกำลังลุกลาม ถ้าพาปัญหาไปต่อ ได้โทษกันไปคนละอย่างสองอย่าง เผลอ ๆ มีจำคุก ได้ไปตั้งสติตรงนั้น ตัวเองผิดตรงไหนก็แค่ยอมรับ แค่นั้นเอง ขอโทษอีกทีให้จริงใจ จับมือกันไปจบ
ออยยังไงก็ไม่ยอม ?
ออย : รูปที่เห็นเช็ดเลือดแล้ว หนูช็อกเลย ถ้าย้อนได้หนูอยากอยู่เหตุการณ์กับเขาเลย เพราะถ้าอยู่ อาจเป็นหนูก็ได้ที่แตก เพราะดูเขาสิ หนูมีเหตุการณ์ยิ่งกว่าชนกันกว่านี้อีก ยังยกมือขอโทษกันจบกัน แต่แฟนหนูพูดจาห้วน ไม่ได้เข้าข้าง แต่สภาพแบบนี้ ถ้าเป็นญาติพี่น้องเขา ไม่มีใครยอมหรอก เพื่อนน้องเขาก็โพสต์ว่าถ้าเพื่อนเขาเจ็บเขาก็ไม่ยอม แฟนหนูเจ็บหนูก็ไม่ยอม แต่หนูจะเอากฎหมายเข้าสู้ ไม่ใช้กำลังแน่นอน
เอฟ : ผมมาวันนี้ก็อยากขอโทษ ยอมรับผิดทุกอย่าง ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจ
ทางนี้เขายืนยันไม่ได้ไปไหน แต่ออยได้ยินมาว่าไปเที่ยวแทนไป สน. ?
แม่เอฟ : วันที่ 1 ตำรวจมาหา บอกว่าคนนี้เป็นใคร เป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายคนอื่น แม่ก็อ้าว เหรอคะ คุณพ่อก็เซ็นรับทราบ ให้เบอร์ติดต่อกลับไปทางตำรวจก็โทร. หาเอฟว่าไปทำอะไรมา มีจดหมายมาแบบนี้ ๆ เขาก็เล่าให้ฟัง ในนั้นนัดวันที่ 3 เวลา 16.00 น. เราไม่ได้หนีไปไหน และไม่ทราบว่าทางนี้ไปออกรายการ เอฟไม่ได้ไปไหนเลย
ออยได้มาจากไหน ?
ออย : มีคนบอกค่ะ
โอ๋ : เขาบอกคู่กรณีไปพักผ่อนอยู่
เอฟอยากบอกอะไร ?
เอฟ : อยากขอโทษ ถ้าผิดพลาดตรงไหน ก็อยากพูดว่าตรงที่เกิดเรื่องเกิดราว ไม่ได้อยากทำพี่ แต่บันดาลโทสะจริง ๆ ก็อย่างที่บอก เราไม่ได้มีเรื่องกันมาตั้งแต่ต้น วันนี้มาก็กะขอโทษพี่ด้วย ผมก็ขอโทษพี่อีกที (ยกมือไหว้) ไม่ได้ตั้งใจ มันเกิดจากอารมณ์ที่บันดาลโทสะใส่กัน
ออย : เราก็ไม่ได้เข้าข้างแฟน เขาพูดจาห้วน ๆ แต่ไม่เคยมีเรื่องกับใคร เราก็ไม่รู้ว่าน้องตัวใหญ่แค่ไหน ทำไมถึงขนาดนี้
แฟนเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน พูดกวนตีนกับเรา เราฟังได้ แต่เขาคนอื่น ไม่ใช่คนอยู่ใกล้ชิดกับเรา เขาฟังแล้วอาจรับไม่ได้ก็อีกมุมนึง แต่ทางนี้โมโหเกินไปหน่อย ?
เอฟ : ผมยอมรับ
มีคนแบบนี้ในสังคมเยอะแยะมากมาย บางวันอาจเจอคนที่ไม่ได้ลงไปให้กล้วยเฉย ๆ แล้วต่อยนะ อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้ ?
ทนาย : คุณมิ้งคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำมีส่วนมั้ย
มิ้ง : ก็ยอมรับว่าผิดที่ไปยั่วโมโห ก็ขอโทษที่วันนั้นพูดไม่ดี
เอฟ : ไม่ได้ติดอะไร ผมทำไปก็รู้สึกผิด ผมก็ขอโทษ
โอ๋ : ถ้าแฟนเขาเห็นว่าเอฟเลือดอาบเหมือนมิ้งเป็น จะรู้สึกยังไง ถ้าสลับกัน
โบว์ : หนูมองว่าเป็นเรื่องปกติ ต้องโมโหอยู่แล้ว แต่ถ้าแฟนหนูไปกวนตีนเขาแล้วโดน หนูก็มองว่ามันสมควร เพราะเธอไปกวนตีนเขาก่อน สังคมสมัยนี้อากาศมันร้อน คนเราหัวร้อนกันง่ายอยู่แล้ว ไม่รู้จะไปเจอคนแบบไหน
โอ๋ : แสดงว่ากวนตีนแล้วตีกันเป็นเรื่องธรรมดาเหรอคะ
โบว์ : ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ
การทำร้ายร่างกายไม่ดีอยู่แล้ว ประเด็นที่เกิดมีโทสะสองฝ่าย โมโหกันทั้งคู่ มันก็กลายเป็นวิวาทะกัน ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ไม่ควร แต่การยั่วยุ กวนส้นตีนกันก็ไม่ควรเหมือนกัน เราต้องดูเหตุและผลก่อน ผลเกิดจากอะไร ก็ต้องมีเหตุเกิดขึ้นก่อน ?
เอฟ : ที่ว่าทำเกินกว่าเหตุ เขาแตกแล้วผมไม่ได้ทำซ้ำนะ แต่พี่ไปฟังมาใช่มั้ย
โอ๋ : คนเห็นเหตุการณ์เขาเล่ามาค่ะ
วันนี้ใครก็พูดได้ หาคนมาพิสูจน์ ถ้าน้องบอกว่ามีคนพูดแบบนี้ พาคนนั้นไปหาตำรวจแล้วให้เป็นพยาน แต่การพูดว่ามีคนเห็น เห็นจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?
ทนาย : ทุกอย่างอยู่ที่ประจักษ์พยาน บาดแผล คลิปไม่โกหกใคร ถ้าคุณจบตั้งแต่แรก เขาไปแล้ว ทำไมเขายังวกกลับมาอีก ตอนนี้ดูแล้วคุณหาทางลง หาทางจบให้ตัวเองไม่ได้ คุณก็ต้องตัด
พอกัน ทางนี้เลือดร้อนไปหน่อย อีกฝั่งก็กวนเท้าเกินไปหน่อย ?
ทนาย : การขึ้นศาลไม่ได้สนุก แล้วการทะเลาะกันแบบนี้ สังคมไม่ได้อะไร ถ้าคิดถึงคนอื่นบนถนน เขาก็มีสิทธิ์เท่าเรา เรื่องก็ไม่เกิด
อยากคุยอะไรกับเขา ?
มิ้ง : วันนั้นก็ขอโทษที่พูดจาไม่ดีใส่ไป แต่เรื่องคดีเป็นหน้าที่ตำรวจแล้วกันนะแม่นะ เรื่องคดีความมันคุยกันได้
ทนาย : ศาลจะเลือกให้แหละ แต่เรื่องในใจพวกคุณควรหยุดได้แล้ว
มิ้ง : พี่หยุดงาน ไม่ได้มีรายได้ตรงนี้
หนุ่มฉุนสติหลุดต่อยทอมเลือดอาบ กรรชัย ลั่นพอกัน เลือดร้อน VS กวนเท้าเกิน
เรียกเงินเขาเท่าไหร่ ?
มิ้ง : เรียกแสนนึง
โอ๋ : ตำรวจบอกให้เรียกไว้ เดี๋ยวมีต่อรองกันด้วย
ทนาย : รักษาตามใบเสร็จ เอาตามจริง ทำมาหากินไม่ได้ก็ตามเหตุตามผลตามใบรับรองแพทย์ มาออกทีวีได้ไม่สาหัสหรอก
ไป สน. ไหน ?
มิ้ง : สน.บางบัวทอง
โอ๋ : ตำรวจไม่ได้พูด พวกหนูพูดกันเอง ว่าให้เรียกแสนนึงเดี๋ยวเขาต่อเอง
โบว์ : วันนั้นหนูยื้อแล้วสามรอบ ตะโกนให้พี่ รปภ. มาช่วยหน่อย แต่ รปภ. ถ่ายคลิป
เอฟ : ผมตะโกนเรียกเด็กว่าทำไมไม่มาช่วยแยกเขาออกไป
ถ้าเป็นไปได้ลองเจรจากัน ไม่ใช่ว่าถูกกระทำแล้วทำไมจะเอาผิดไม่ได้ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ อันไหนคุยกันได้ก็คุยกันซะ ?
ทนาย : เหตุเกิดแล้ว ก็แก้ไขให้สมเหตุสมผล เรื่องมันก็จะจบ แล้วแยกย้ายไปมีความสุข อย่าไปอยู่กับคดีความ
เอฟ : ขอโทษจากใจ
มิ้ง : ขอโทษเหมือนกันที่พูดจาไม่ดีใส่ไป
ทั้งนี้รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33