ฐปณีย์ เล่าลึกที่มาคลิปประชุมผู้ถือหุ้น
จากกรณีที่รายการข่าว 3 มิติ ทางช่อง 3 โดย ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว 3 มิติ ได้ออกมาเปิดคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่จัดประชุมขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทั่งเป็นที่ถกเถียงในประเด็นดังกล่าวในโลกออนไลน์ ซึ่ง ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ได้ให้สัมภาษณ์กับมติชนออนไลน์ ก่อนหน้านี้ ว่าข่าวทั้งหมด ไม่ได้เกิดความเอนเอียง ไม่เข้าข้างฝ่ายใด และอยากจะหาความจริงของตัวเองตามสัญชาตญาณของผู้สื่อข่าว
ล่าสุด แยม - ฐปณีย์ ได้เปิดใจผ่านรายการแฉ อีกครั้ง บอกเล่าประสบการณ์ในช่วงที่ยุบไอทีวี รวมถึงประเด็นข่าวดังกล่าว โดยว่า วันที่แถลงเรื่องไอทีวี ก็ร้องไห้ กอดคุณอนุวัต เฟื่องทองแดง เราก็เป็นนักข่าวอยู่ที่ทำเนียบ และ ติดตามคดีนี้ และ เป็น 1 ในนักข่าวที่ติดตามต่อสู้เรื่องไอทีวีในช่วงนั้น เพราะพนักงาน 1,000 กว่าคน อาจจะต้องตกงาน ก็ต้องเรียกร้องความเป็นธรรม 16 ปี ผ่านไป ไอทีวีก็กลับมาดังอีก
ตอนรู้ว่าต้องปิดตัว รู้ตัวล่วงหน้ากี่วัน?ฐปณีย์ กล่าวว่า ก็เกือบปีที่ต่อสู้เรื่องคดีกัน เราก็พยายามที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีการเปลี่ยนผ่าน ก็เป็นไทยพีบีเอส เขาก็มีการรับพนักงานที่เป็นไอทีวีเดิม เข้าเป็นพนักงานเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นผู้บริหาร และดิฉันเป็นพนักงาน ที่ไม่ได้ทำต่อ อย่างคุณอนุวัต ก็ได้ทำพีบีเอสต่อ พนักงานส่วนใหญ่ในพีบีเอส ก็เป็นคนไอทีวี แต่ก็มีส่วนหนึ่ง อย่างเราเป็นนักข่าวที่เป็นโลโก้ไอทีวี ก็จะไม่ได้ทำต่อ เราก็เป็นโอกาสได้ทำช่อง 3 ทำข่าว 3 มิติ ในปัจจุบัน ไอทีวีก็ถือเป็นสถานีข่าว เป็นสถานีของประชาชน ก็มีประวัติยาวนาน ถือว่าเป็นตำนาน ของวงการโทรทัศน์ไทย ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ามาสร้างตำนานใหม่
และว่า จริงๆ ต้องบอกว่า เรามีนัดกันก่อนแล้ว เราทำข่าว การเปิดประเด็นเรื่องนี้ ไม่ใช่อยากไปออกสื่อ เพื่อพูดอะไรแบบนี้ จริงๆ อยากนั่งทำต่อ แต่พอเปิดแล้ว อะไรพูดได้ก็ชี้แจงต่อไป
ฐปณีย์ กล่าวต่อว่า กรณีนี้ที่คุณเรืองไกร ไปยื่นร้องว่าถือหุ้นสื่อ ทุกคนเลยสงสัยว่า สรุปไอทีวีเป็นสื่อหรอ จริงๆ ก็มีต่อเนื่องมาเป็นเดือน จนหลังเลือกตั้ง ก็ยังมีประเด็นยื่นร้องยื่นสอบต่อเนื่อง จริงๆที่เริ่มทำข่าวนี้ เราก็ดูข่าวทั่วๆไป หลังจากประเด็นเชื่อมโยงในหลายๆเรื่อง วันที่ คุณพิธา แถลงครั้งแรก 6 มิถุนายน เขาพูดเรื่องการโอนหุ้น เขาบอกว่า จะทำเพื่อสกัดกั้นการฟื้นคืนชีพไอทีวี สัญชาตญาณนักข่าว ก็เอ๊ะ ก็เลยบอกบก. คุณกิตติ และ คุณจาตุรงค์ ทุกคนเป็นคนไอทีวีเก่า เราก็ทราบดีว่า จะมีการต่อสู้ทางคดี และการยื่นร้องกับศาลปกครองมาอย่างต่อเนื่อง และจะมีการพิพากษาในไม่นานนี้ ก็รู้สึกว่า ประเด็นนี้น่าสนใจ บวกกับเราเป็นคนไอทีวี หากชนะคดี ก็อาจจะดำเนินกิจการใหม่
ฐปณีย์ กล่าวต่อว่า ที่เขาตั้งคำถามมา ว่ามีทฤษฎีสมคบคิด มันจริงไหม เราก็ไปสัมภาษณ์คุณเรืองไกร ก็ถามว่ารู้จักผู้สมัครส.ส.ที่โพสต์เฟซบุ๊กไหม เขาก็บอกไม่รู้จัก เราก็ต้องสัมภาษณ์คุณนิกม์ ก็สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง ก็ถามถึงกระบวนการ ถามถึงที่ประชุมผู้ถือหุ้น ว่าตรงกันไหม เขาก็บอกว่า เขาอยู่กับผู้ถือหุ้น ว่าเป็นไปตามนั้น พอเราได้รายงานไป ก็ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่ามันไม่ตรง
สำหรับคลิปวิดีโอดังกล่าว ฐปณีย์ กล่าวว่า ได้จากแหล่งข่าวที่ส่งมาให้เรา เขาเชื่อใจ ไว้ใจ มันอยู่ในมือเราแล้ว ถ้ามีสิ่งนี้ในมือ แล้วไม่รายงานไป ก็ถือว่าไม่ได้ทำหน้าที่สื่อมวลชน เราก็มีหน้าที่ตั้งคำถาม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจง จริงๆ ก็ได้คลิปมา ความยาว 3 นาที ไม่ได้มีการมาตัดต่อ แต่คลิปคือส่วนหนึ่งของการประชุม ที่ยาวเป็นชั่วโมง เราได้มาเฉพาะคำถามที่เกี่ยวข้อง ที่อยู่วาระที่ 9 ซึ่งเรื่องนี้จะอยู่ที่หน้าที่ 14 ก่อนหน้านี้ เป็นวาระภายใน เราก็ได้รายงานมาแค่นี้ สิ่งที่รายงาน คลิปแค่ไหน ก็แค่นั้น เขาตัดมาจากที่มันยาว จริงๆ ตั้งคำถามได้ว่าตัดต่อไหม เราโปร่งใส เราก็ตรวจสอบแล้ว ประเด็นที่อยากจะย้ำคือ เราตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ตรงกัน
และว่า การรายงานในข่าว มีสิทธิตั้งคำถาม จะส่งผลต่อคดีไหม ทุกอย่างต้องพิสูจน์ไปตามกระบวนการ อยู่ที่จะชี้แจงกันอย่างไร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ไปตรวจสอบไป เพียงแต่เราตั้งคำถาม ให้คนติดตามว่า ถ้าไอทีวีกลับมาเป็นสื่อ แยมรักไอทีวีมาก เราก็อยากให้กลับมาอย่างสง่างาม เราก็ชี้แจง ทำมันให้โปร่งใส
--
เครดิตแหล่งข้อมูล :รายการ แฉ