ผัวร่ำไห้ช็อกถูกเมียหลอก สูญเงินเป็นล้าน
ผัวสุดช้ำ ถูกเมียหลอกมาหลายปี สุดแสบอ้างเป็นข้าราชการ แต่งตัวไปทำงานทุกวัน สุดท้ายโกหกทั้งเพ หลอกเงินไปเป็นล้าน แถมสุดแสบสับเปลี่ยนทองปลอม ด้านเพื่อนฝ่ายหญิงโต้ ก็ไปเชื่อเขาเอง พวกควายตู้
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีสามีคนหนึ่ง ร้องเรียนว่าถูกภรรยาที่แต่งงานกัน หลอกลวงว่าเป็นข้าราชการ แท้จริงเขาไม่ได้เป็นข้าราชการจริง ทั้งยังหลอกเอาเงิน หลอกสับเปลี่ยนทองคำที่ซื้อเก็บไว้ กลายเป็นทองปลอมทั้งหมด ทั้งที่สามีตั้งใจวางแผนอนาคตไว้ร่วมกันอย่างดี
นายณัฐ ผู้เสียหายเล่าว่า ตนเป็นพ่อม่ายลูกติด ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ ชื่อคุณดุษฎี หรือดี ผ่านทางเฟซบุ๊ก เขาก็มีลูกติด 1 คน ได้พูดคุยกันเรื่อยมา จนตกลงคบหา ตั้งใจจะฝากชีวิตไว้ด้วยกัน
ผู้หญิงเขาเล่าว่า เขาเป็นข้าราชการ เป็นนักวิชาการฝ่ายงานส่งเสริม กรมหม่อนไหม ที่ จ.มหาสารคาม ต่อมาบอกว่าทำเรื่องย้ายไปประจำอยู่ที่ศูลศิลปาชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เขามาอยู่กับตนที่บ้านใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เราบอกเขาว่าให้อยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานก็ได้ แต่เขายืนยันว่าจะไปกลับ เพราะรักตนมาก จะออกไปทำงานด้วยกันทุกเช้า
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีสามีคนหนึ่ง ร้องเรียนว่าถูกภรรยาที่แต่งงานกัน หลอกลวงว่าเป็นข้าราชการ แท้จริงเขาไม่ได้เป็นข้าราชการจริง ทั้งยังหลอกเอาเงิน หลอกสับเปลี่ยนทองคำที่ซื้อเก็บไว้ กลายเป็นทองปลอมทั้งหมด ทั้งที่สามีตั้งใจวางแผนอนาคตไว้ร่วมกันอย่างดี
นายณัฐ ผู้เสียหายเล่าว่า ตนเป็นพ่อม่ายลูกติด ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ ชื่อคุณดุษฎี หรือดี ผ่านทางเฟซบุ๊ก เขาก็มีลูกติด 1 คน ได้พูดคุยกันเรื่อยมา จนตกลงคบหา ตั้งใจจะฝากชีวิตไว้ด้วยกัน
ผู้หญิงเขาเล่าว่า เขาเป็นข้าราชการ เป็นนักวิชาการฝ่ายงานส่งเสริม กรมหม่อนไหม ที่ จ.มหาสารคาม ต่อมาบอกว่าทำเรื่องย้ายไปประจำอยู่ที่ศูลศิลปาชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เขามาอยู่กับตนที่บ้านใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เราบอกเขาว่าให้อยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานก็ได้ แต่เขายืนยันว่าจะไปกลับ เพราะรักตนมาก จะออกไปทำงานด้วยกันทุกเช้า
พอคบมาได้ระยะหนึ่ง ตนตั้งใจจะแต่งกับเขา เลยไปซื้อทองมาหนัก 3 บาท ตั้งใจจะให้เป็นสินสอด แต่ยังไม่ทันได้แต่ง ตนมีมีปัญหาเรื่องเงินเล็กน้อย จึงนำทองไปจำนำ ทางร้านจำนำบอกว่าเป็นทองปลอม ตอนนั้นตนไม่คิดว่าเป็นฝีมือภรรยา กลับไปเอาเรื่องร้านทอง ว่าเอาทองปลอมมาขาย ถึงกับไปแจ้งความเอาผิดร้านทอง
หลังจากนั้นก็ยังคบกันมาเรื่อย เริ่มเจอว่าเงินในกระเป๋าสตางค์ เริ่มหายไปหลายพัน พอถามว่าภรรยาเอาไปหรือไม่ เขาก็ปฏิเสธเสียงแข็ง ว่าตัวเองก็มีเงินเดือน ตนก็ไม่ได้ติดค้างคาใจอะไร
เขาบอกว่าเขาอยากเรียนปริญญาเอก เพื่อเลื่อนขั้นข้าราชการ มาขอให้ตนออกค่าเทอมให้ เอาเอกสารค่าเรียนมาให้ดู ค่าเรียนประมาณ 1.2 แสนบาท ขอเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ค่าเรียนอีก 3 หมื่นกว่าบาท
ต่อมาตนไปพบกับพ่อแม่เขา ไปบอกเขาว่าจะหมั้นหมายกัน จะมาขอลูกสาวเตรียมแต่งงาน วางเงินหมั้นให้พ่อแม่เขาไป 4 หมื่นบาท ก่อนจะจัดงานแต่งงานเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 แล้ววางแผนจะซื้อที่ดินทำฟาร์มด้วยกัน โดยเป็นที่มรดกของญาติเขา ตกลงขายกันที่ราคา 1.1 ล้านบาท ตนโอนเงินสดให้ลูกสาวของเขา เพื่อมัดจำ โอนไป 3 ครั้ง รวม 8 แสนบาทจนเดือนที่แล้ว เขาบอกให้ตนโอนเงินส่วนที่เหลือ เพราะเจ้าหน้าที่รังวัดจะมาวัดที่ดินแล้ว ตนจะโอนอีก 3 แสนที่เหลือ แต่แอปธนาคารมันโอนไม่ได้ แอปมันล่ม ภรรยาเลยให้เอาทองคำไปจำนำก่อน ภรรยาโมโหขึ้นมาไม่มีสาเหตุ ด่าว่าตนจะหวงทองไว้ทำไม ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้จะไม่อยู่ด้วยแล้ว เขาจะซื้อตั๋วเครื่องบิน บินกลับมหาสารคามเลย ตนก็งงว่าจะโวยวายทำไม พอโทรฯ ไปหาลูกสาวเขา โทรฯ หาแม่ยาย ทางนั้นบอกไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ที่ไหนเข้ามาเลย แล้วเงินที่โอนไป 8 แสน ก็ไม่เคยส่งไปถึงแม่ ส่วนเงินที่ตนโอนไปให้ลูกสาว เขาก็โอนคืนให้แม่เขาหมด ตนก็งงไปหมดว่า นี่ตัวเองกำลังเจอเรื่องอะไรอยู่
วันต่อมาเขาเก็บเสื้อผ้าออกไปจากบ้าน ไปนอนที่อื่น บอกว่าจะกลับบ้านที่มหาสารคาม โดยก่อนจะกลับ เขาบอกเขาไปนอนให้เกล็ดเลือดที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ตนไปไล่หาทั้งโรงพยาบาลไม่เจอ โทรฯ หาจนเจอว่าเขากลับไปที่บ้านของตน ไปเก็บของเอกสารสำคัญต่างๆ เตรียมจะหนี ตนไปยืนขวางรถเอาไว้ แล้วลากเขาออกมาคุย ถามว่าเอาเงินไปไว้ที่ไหน ทำไมมาทำแบบนี้
ตอนนั้นอ้างว่าเป็นครู พอเขาจับได้รอบหนึ่ง ก็เลิกรากันไปมาครั้งนี้ เขามาคบกับคุณณัฐ เขาก็แต่งชุดข้าราชการออกจากบ้าน มานั่งอยู่ที่บ้านตนทุกวัน ถึงเวลาตกเย็นก็กลับบ้าน เราก็เคยบอกเขาว่า เขาได้เจอคนดีแล้วนะ ทำไมถึงไม่ปรับปรุงตัวเป็นคนดี อย่าไปหลอกลวงเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร
สุดท้ายเขาบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมคืนเงิน แล้วปล่อยเขาไป แต่ยึดโทรศัพท์ต่างๆ ของเขาไว้ แล้วไปตรวจสอบดูจากเพื่อนของเขาในเฟซบุ๊ก จนรู้ความจริงว่าเขาไม่ได้เป็นข้าราชการจริงๆ แต่งตัวชุดสีกากีออกจากบ้านแล้วก็ไปนั่งเล่นที่นู่นที่นี่
ส่วนทองคำที่ตนซื้อเก็บไว้ ฝากเขาดูแลไว้ พอเอาไปตรวจ ไปเช็ก เจอว่าเป็นทองปลอมทั้งหมด ไม่รู้ว่าเขาเอาไปสับเปลี่ยนมาตอนไหน
ขณะที่คุณแสง เพื่อนของคุณดีฝ่ายภรรยา เล่าว่า ดุษฎี เป็นภรรยาเก่าของเพื่อนสนิทตน ก็เลยได้รู้จักกัน แม้เขาจะเลิกกับเพื่อนตนไปแล้ว เขาก็ยังไปมาหาสู่กับตนอยู่ เรื่องที่เขาเป็นข้าราชการนี่เขาโกหกตั้งแต่คบหากับเพื่อนตนแล้วตอนนั้นอ้างว่าเป็นครู พอเขาจับได้รอบหนึ่ง ก็เลิกรากันไปมาครั้งนี้ เขามาคบกับคุณณัฐ เขาก็แต่งชุดข้าราชการออกจากบ้าน มานั่งอยู่ที่บ้านตนทุกวัน ถึงเวลาตกเย็นก็กลับบ้าน เราก็เคยบอกเขาว่า เขาได้เจอคนดีแล้วนะ ทำไมถึงไม่ปรับปรุงตัวเป็นคนดี อย่าไปหลอกลวงเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร
ขณะที่ นายบัติ อดีตสามีที่เคยแต่งงานอยู่กับดุษฎีมาก่อนหน้าคุณณัฐ บอกว่า เคยโดนหลอกเหมือนกับคุณณัฐเลย ตอนนั้นเขาหลอกว่าเป็นครูอยู่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ใน อ.ลำปลายมาศ มาจับได้ทีหลัง ตอนที่มีเพื่อนอีกคนมาบอกความจริง เพราะดุษฎีไปยืมเงินเขาแล้วไม่ใช้คืน แล้วยังบอกอีกว่า เขาไม่ได้ไปทำงานที่โรงเรียน เขาไปร้องเพลงคาราโอเกะอยู่ แล้วตนก็เลยสะกดรอยตามเขาไป เขาไปเข้าบ่อน เล่นทั้งไฮโล เล่นไพ่ ถ้าวันไหนเขาไม่ไป เขาก็นั่งเล่นพนันออนไลน์ เล่นบาคาร่า เล่นสล็อต ติดการพนันงอมแงม
ตนเคยเตือนคุณณัฐไปแล้วว่า ผู้หญิงคนนี้จะมาหลอกลวงคุณณัฐ แต่ตอนนั้นคุณณัฐไม่เชื่อ ซึ่งคุณณัฐบอกว่า ตอนที่คุณบัติโทรฯ มา เขาโทรฯ มาทวงเงิน ตอนนั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่คิดว่าเงินทองอะไรก็อยู่กับตน เขาคงเอาไปไม่ได้ ซึ่งที่ว่าเขาเล่นพนันออนไลน์ ตนก็เห็นเขาเล่นเป็นครั้งเป็นคราว เขาบอกว่าเล่นแก้เครียด ทีละไม่กี่ร้อย แต่ตอนนี้คิดว่าไม่น่าใช่แล้ว น่าจะติดพนันอย่างหนัก
ขณะที่คุณสำอางค์ เพื่อนอีกคนของดุษฎี บอกว่า ดุษฎีเป็นคนสวย แต่งตัวสวย กิริยามารยาทดี ใครเห็นก็ต้องรัก เขาชอบไปบอกคนอื่นๆ ว่าเป็นครู แต่พวกผู้ชายเห็นเขาสวยก็เชื่อเขาหมด เป็นพวกควายตู้ จะบอกว่าเขาหลอกได้ยังไง ยอมรับว่าตนไปเที่ยวกับดุษฎีตลอด ไปไหนมาไหนกันหลายที่ แต่ไม่เคยใช้เงินของเขา ถ้าผู้เสียหายจะแจ้งความจับตน ก็มาแจ้งเลย ตนก็พร้อมสู้ เพราะทุกบาททุกสตางค์เวลาไปเที่ยว ตนออกเองหมด
ขณะที่คุณสำอางค์ เพื่อนอีกคนของดุษฎี บอกว่า ดุษฎีเป็นคนสวย แต่งตัวสวย กิริยามารยาทดี ใครเห็นก็ต้องรัก เขาชอบไปบอกคนอื่นๆ ว่าเป็นครู แต่พวกผู้ชายเห็นเขาสวยก็เชื่อเขาหมด เป็นพวกควายตู้ จะบอกว่าเขาหลอกได้ยังไง ยอมรับว่าตนไปเที่ยวกับดุษฎีตลอด ไปไหนมาไหนกันหลายที่ แต่ไม่เคยใช้เงินของเขา ถ้าผู้เสียหายจะแจ้งความจับตน ก็มาแจ้งเลย ตนก็พร้อมสู้ เพราะทุกบาททุกสตางค์เวลาไปเที่ยว ตนออกเองหมด
ขณะที่ ทนายเกิดผล แก้วเกิด มองว่า หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เชื่อได้ว่าเขาน่าจะวางแผนตั้งใจมาหลอกตั้งแต่แรก ทุกเรื่องที่เขาบอก มาหลอกเอาเงินจากสามี ทั้งการซื้อที่ ขอเงินไปเรียน หรือแม้กระทั่งการหลอกแต่งงาน เรื่องนี้ถ้าพิสูจน์ได้ ถือเป็นความผิดอาญาฐานฉ้อโกง ซึ่งมีอายุความแค่ 3 เดือน หลังจากที่รู้ความจริง
ซึ่งคุณณัฐบอกว่า ไปแจ้งความแล้วที่ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ตำรวจเขาบอกว่า เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องส่วนตัว เขามีงานเต็มโต๊ะ ไม่มีเวลามาทำคดีให้ตนหรอก ถ้าทำคดีให้ตน สังคมส่วนรวมไม่ได้อะไรเลย ตนก็ตะโกนทิ้งท้ายไปว่า ถ้าผมจะมาแจ้งความ หรือมาที่โรงพักนี้ได้ ตนต้องไปฆ่าคน หรือต้องทำร้ายใครก่อนใช่ไหม ถึงจะมาทำคดีให้ได้
คุณณัฐบอกว่า อยากให้เขาได้ลองเข้าไปทบทวนตัวเองในคุก รับความผิดที่เขาได้ทำลงไป เขาเป็นบุคคลที่อันตราย เดี๋ยวคงไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก ถ้าหาเงินมาคืนไม่ได้ ก็ไปติดคุกซะ แต่ถ้าหาเงินมาคืนได้ ก็คืนมา แล้วออกจากชีวิตของตนไป
คุณณัฐบอกว่า อยากให้เขาได้ลองเข้าไปทบทวนตัวเองในคุก รับความผิดที่เขาได้ทำลงไป เขาเป็นบุคคลที่อันตราย เดี๋ยวคงไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก ถ้าหาเงินมาคืนไม่ได้ ก็ไปติดคุกซะ แต่ถ้าหาเงินมาคืนได้ ก็คืนมา แล้วออกจากชีวิตของตนไป
ชมคลิป
VVVVV
VV
VVV
V
V
VVVV
VVV