ศัลยกรรมก็เงินเรา แต่ทำไมมีแต่คนหวังดีเกินไป ??
"คุณน้ำตาล (นามสมมติ)" อายุ 35 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [14 มิ.ย. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย นภาพร เกี่ยวกับปัญหาการศัลยกรรม
โดย "คุณน้ำตาล (นามสมมติ)" เล่าว่า ‘เรื่องเกิดมาจากหนูเริ่มเข้าวงการศัลยกรรม แต่ก่อนที่จะเริ่มเข้าวงการนี้ หนูก็ศึกษาหาข้อมูลก่อน ทีนี้มันก็จะมีผู้หวังดีหลายๆคน เห็นว่าหนูหาข้อมูล เขาก็จะเตือนนิดนึงว่าทำไปทำไม? ทำไมก็เสียดายเงิน ทำไปก็เหมือนเดิม เก็บเงินไว้กินข้าวดีกว่า บางคนก็จะพูดประมาณว่า ปกติคนที่ทำต้องเป็นดาราหรือทำเพื่ออาชีพเขาถึงจะทำกัน แต่ถ้าทำมาเฉยๆอย่าทำดีกว่า...
ซึ่งผู้ที่หวังดีก็ไม่ใช่แค่คนๆเดียว แต่เป็นทั้งเพื่อนที่ทำงานและคนข้างนอก พวกเพื่อนๆของกลุ่มเพื่อนที่ทำงานที่เขาไม่ชอบการศัลยกรรม ไม่ใช่แก๊งที่สนิทกัน และเพิ่งเคยเจอกันด้วย เหมือนหยอกเล่นกันได้ ตอนแรกเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะบูลลี่ แบบแค่แซวๆกัน แต่มันคงเป็นความผิดของหนูเองที่หนูเป็นคนเฉยมากๆ ไม่ตอบโต้อะไรเลย กลายเป็นหนูโดนบูลลี่มากกว่าคำว่าแซว
ก่อนที่จะทำหนูก็เคยโดน และพอทำเสร็จแล้วก็โดน เขาจะทักว่าทำแล้วได้แค่นี้เองหรอ? โรงพยาบาลไหนทำให้ เดี๋ยวจะไปเผาไม่ให้ใครไปทำเลย หนูก็คิดว่าเขาคงแซวๆ พูดเล่น ก็เลยไม่ได้ตอบโต้อะไรเขาไป จนเพื่อนพูดกับหนูมาประโยคนึงว่าไม่เป็นไร ถ้าคนมันจะสวย ไม่ต้องทำก็สวย หนูก็รู้ตัวเองว่าเป็นคนไม่สวย ก็เลยต้องเข้าวงการนี้เพื่อมาทำ แล้วหนูก็ทำศัลยกรรมต่อเรื่อยๆ เข้าวงการฉีดหน้าบ้าง
จนล่าสุด หนูเพิ่งไปทำมาก็โดนอีก เพราะรอบนี้หน้ามันจะต้องบวม และกว่าจะยุบก็ต้องใช้เวลานิดนึง พอหนูไปทำงานก็โดนว่าเลย ‘ดูสิ ทำมาแล้วเป็นแบบนี้ ไม่เสียดายเงินบ้างหรอ ทำมาแล้วน่าเกียจมากเลย' ทำให้หนูเสียเซลฟ์ (ความมั่นใจ) และหนูก็ถามเขาเลยว่าอันนี้พูดเล่นใช่มั้ย เพราะรู้สึกว่ามันเยอะเกินไปแล้ว
และมีอีกเหตุการณ์ คือ หนูนั่งดูรูปรุ่นพี่คนที่เขาทำศัลยกรรมเหมือนกัน แล้วหนูก็อุทานออกมาเองว่า ‘สวย ขนาดไม่ทำยังสวย ทำมาแล้วยิ่งสวยใหญ่เลย' เพื่อนก็เลยทักว่านั่นนะสิ สวยจริงๆ สวย! สวยๆๆ พูดขนาดนี้แล้วเธอยังไม่รู้ตัวอีกหรอ? หนูก็สตั้นไป และถามเขาว่าตั้งใจว่าเราโดยเฉพาะใช่มั้ย หรือปกติทำไมต้องพูดว่าคนอื่นด้วย เขาก็บอกว่าปกติไม่ได้ว่าใครหรอก แต่เพราะเธอนั่นแหละก็เลยว่า หนูก็นิ่งไป ทำอะไรไม่ถูก ก็เลยเดินออกไป...'
"คุณน้ำตาล (นามสมมติ)" ก็ได้ถามพี่ๆดีเจว่า ‘หนูอยากรู้วิธีรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้ แล้วผิดมากไหมที่หนูทำศัลยกรรม'
ซึ่ง ดีเจเผือก ให้คำแนะนำว่า ‘ถ้าจะต้องรับมือกับคนแบบนี้ การเงียบหรือการแสดงออกไม่ว่าจะเป็นการพูด การใช้สายตา หรือการกระทำที่แสดงให้รู้ว่าไม่ชอบก็สามารถทำได้ แต่สิ่งที่คุณน้ำตาลตอบโต้กลับไปมันถูกแล้ว มันเป็นการแสดงออกว่าเราไม่ชอบที่เขาพูดแบบนี้ใส่เรา เรื่องศัลยกรรมมันเป็นความชอบและความสุขเฉพาะบุคคล คนที่ไม่ได้ทำมักจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องลงทุน ยอมเจ็บตัว ถ้าเราอยู่ท่ามกลางคนที่มีมารยาทถึงเขาจะไม่เข้าใจ แต่เขาจะไม่เข้ามาก้าวก่ายเรื่องที่เป็นความสุขของเรา ฉะนั้นคุณน้ำตาลต้องเข้าใจด้วยว่าความสุขของเรามักจะไปมีปัญหากับคนอื่นเสมอ ถ้าอยากบอกคนเหล่านั้นก็บอกได้ว่า นี่คือเงินของเรา และเราทำเพื่อความสุขของเรา ‘ไม่ได้ไปเอากระดูกอ่อนของใครมาใช้' ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนวิธีตอบโต้ของเราได้แล้ว
ดีเจเติ้ล ให้คำแนะนำเสริมว่า ‘คุณน้ำตาลไม่ต้องตั้งคำถามในการทำศัลยกรรมของตัวเองว่ามันถูกหรือผิด เพราะมันคือสิทธิ์ของคุณน้ำตาล คนที่มีปัญหาแทนนั่นคือคนสาระแนทั้งหมด มันไม่ใช่เรื่องของเขา ถ้ามันไม่ได้ไปเดือดร้อนใคร คุณน้ำตาลไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งคำถามกับเรื่องนี้ การทำศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติมาก'
ส่วนเรื่องการรับมือ ดีเจเติ้ล ให้คำแนะนำว่า ‘ถ้ายังอยากรักษาความสัมพันธ์กับคนพวกนั้น คุณน้ำตาลต้องชัดเจนที่จะแสดงคำพูด การกระทำให้เขาเห็นว่าเราไม่ชอบ เราจริงจังกับเรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่ว่าเขาจะพูดด้วยความเป็นห่วง หวังดีหรืออะไรก็ตาม แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณน้ำตาล ซึ่งมีแค่คุณน้ำตาลคนเดียวเท่านั้นที่จะพอใจหรือไม่พอใจ ฉะนั้นคุณน้ำตาลสามารถพูดออกไปตรงๆได้เลย หรือถ้าคุณน้ำตาลไม่อยากตอบโต้ก็ไม่ต้องสนใจคำพูดพวกนี้ปล่อยให้มัน เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไป ไม่ต้องไปให้ค่า'
และ ดีเจอ้อย ให้คำแนะนำว่า ‘ไม่ว่าเขาจะพูดยังไงกับการทำศัลยกรรมของคุณน้ำตาลแต่ถ้าคุณน้ำตาลพึงพอใจกับตัวเองแค่นั้นก็จบแล้ว ตอนนี้คุณน้ำตาลให้ค่ากับปากคนอื่นเยอะเกินไปจนอคติกับตัวเอง คนบนโลกนี้ต่อให้ยืนเฉยๆก็โดนนินทา แต่ถ้าโดนพูดไม่ดีใส่อีก ให้เราพูดชมกลับ บางทีมันดูแดกดันกว่า และอาจจะช่วยให้ไม่เสียบรรยากาศเวลาทำงานด้วยกัน'
ดีเจอ้อยทิ้งท้ายไว้ว่า ‘อย่าใช้ชีวิตไปตามปากคนอื่นและอย่าให้ปากใครสูงค่า จนทำร้ายหัวใจเราได้'
เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง