สิบเอกร่ำไห้ จับได้เมียมีชู้ นั่งเฝ้าหน้าม่านรูด แถมโดนเย้ยคาศาล !
จากกรณีทหารยศสิบเอกคนหนึ่ง ร้องขอความเป็นธรรม จับได้ภรรยาคบชู้กับทหารยศสิบตรี จับได้คาหนังคาเขาคาม่านรูด สิบตรีเรียกเพื่อนมารุมล็อกตัว ก่อนพาเมียหนี ต้องการร้องวินัยชายชู้ถึงที่สุด
ล่าสุดรายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 12 มีนาคม 2567 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ สิบเอกโอ (นามสมมติ) มาพร้อม ทนายแก้ว ทนายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล
ก่อนหน้านั้นอยู่กับเมียดี ?
โอ : อยู่กันดีครับ จนผมไปช่วยราชการต่างจังหวัด ไปอยู่ลพบุรี 2 ปี ติดต่อเมียตลอด ไปกลับตลอด วันศุกร์ก็กลับบ้านที อาทิตย์กลับไปทำงาน ไป ๆ มา ๆ แบบนี้
ปี 54 เจอเมีย แต่งปี 58 จดทะเบียน เขาเริ่มตั้งครรภ์ เขาคลอด คุณไปลพบุรีปีไหน ?
โอ : 62 ครับ
ลูกอยู่กับเรามั้ย ?
โอ : อยู่กับเราครับ เขาก็เลี้ยงลูก เขาพักที่บ้านพักข้าราชการของผมครับ
คุณกลับมาเมื่อไหร่ ?
โอ : กลับมาปี 64 ภรรยาไม่เหมือนเดิม แปลกไป กลับบ้านดึก กลับบ้านตี 5 บ้าง เช้าบ้าง ไปเฝ้าคนไข้แบบรับจ๊อบ ไม่ให้บอกที่ทำงาน อย่าบอกเพื่อนร่วมงาน เขากลัวเพื่อนเขาไปบอกหัวหน้า จากนั้นผมก็เริ่มสงสัย ผมไปเปิดโทรศัพท์เขาดู เจอรูปเขากับชู้ รูปวิดีโอคอล เขาแคปเอาไว้ในโทรศัพท์เขา ตอนนั้นผมรู้รหัสผ่านเขา
เป็นรูปยังไง ?
โอ : วิดีโอคอลหากัน เขาแคปไว้ นั่นเป็นปี 64 ครั้งแรกที่ผมสงสัย จากนั้นผมก็มีเพื่อนร่วมงานมาเล่าให้ฟังว่าไปเจอตลาดนัดบ้าง เดินคู่กัน
เจอรูปแล้วทำยังไง ?
โอ : ก็ถามเขาว่าใคร เขาบอกว่าก็น้อง ไม่มีอะไรหรอก
โอ : ผมไม่เชื่อครับ
ไม่คิดถึงขั้นเป็นชู้ ?
โอ : ใช่ครับ แต่ก็ไปตามสืบตามไอจี ไอจีชู้เขาก็โพสต์รูปเหมือนสามีภรรยากันเลย ผมให้น้องสาวผมไปสืบโดยการแอดขอเป็นเพื่อนชู้ในไอจี ถ้าเป็นเพื่อนกันถึงจะเห็นว่าเขาโพสต์อะไรบ้างครับ อย่างผมเขาบล็อกผมไว้ ผมไม่เห็น
ไปรู้ได้ไง ว่ามันคือผู้ชายคนนี้ ?
โอ : น้องแอดขอเป็นเพื่อนในไอจี เหมือนแต่งตัวยั่ว ๆ ขอเป็นเพื่อนผู้ชาย แล้วก็ได้เห็นหลักฐานทั้งหมด เขาโพสต์กันฉันท์สามีภรรยา โพสต์ลงรูปไปกินข้าว ไปเที่ยวต่างจังหวัด ทั้งที่ยังจดทะเบียนกับผมอยู่
รูปนี้อะไร ?
โอ : โรงแรมที่เขาไปเปิดนอนกัน อยู่ในไอจี
จิบแชมเปญ จับมือ กินหมูกระทะด้วยกัน ?
โอ : ที่เขาโพสต์ผมเห็นก่อนที่จะหย่า ผมได้หลักฐานนี้มาผมถึงเลิก ฟ้องหย่าครับ
คุณเอ ลูกพี่ลูกน้องคุณโอ คุณจับได้ยังไงว่าเมียเขามีชู้ ?
เอ : เพื่อนเขาเจอในเฟซบุ๊กค่ะ เหมือนกับเขาโพสต์ เป็นรูปคู่กัน ไปกินอาหารด้วยกัน หนูก็เลยเพิ่มเพื่อนในเฟซ แต่ในเฟซเขาไม่ค่อยลงอะไรก็เลยไปเพิ่มเพื่อนเป็นไอจี ตอนแรกเขาปิดไพรเวต เพิ่มไปเขาก็รับ ก็เลื่อนดูทุกโพสต์ แคป ๆ เก็บไว้ ส่งให้เขาดู พอส่องก็เก็บให้เขา
พอคุณเห็นแบบนี้ คุณทำยังไงกับภรรยา ?
โอ : ผมก็ขอหย่า
คุณถามเขาก่อนมั้ย ?
โอ : ตอนนั้นมีปัญหากัน ภรรยาชอบหนีเที่ยวไปกินเหล้า ไม่ถูกกัน ผมก็ไม่ค่อยเข้าบ้าน งอน
พอรู้เขาเป็นทหาร คุณไปตรวจสอบหามั้ยว่าเขาอยู่หน่วยไหน ?
โอ : หาครับ
ได้ติดต่อหาผู้ชายบ้างมั้ย ?
โอ : ไม่เลยครับ ผมไม่อยากคุยกับเขาครับ
โอ : ตอนผมอยู่กรุงเทพฯ เขาอ้างว่าไปเฝ้าคนไข้ที่ใน รพ. เขาโกหกผมครับ บางทีผมก็ไปต่างจังหวัดสองสามวัน ช่วงนั้นเขาน่าจะแอบไป
แต่เขาไปกันบ่อยมากเลยนะ ?
โอ : ผมก็ไปต่างจังหวัดบ่อยมาก ผมทำงานขับรถครับ ขับรถให้นาย
พอเห็นรูปพวกนี้ทั้งหมด คุณรู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้เป็นสิบตรี ได้บอกนายคุณมั้ย ?
โอ : บอกครับ นายไม่ได้ยุ่งเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว
ได้ถามเมียมั้ย น้องสาวส่งรูปพวกนี้มาให้ หมายถึงอะไร ?
โอ : ผมไม่ได้ถาม ผมเห็นก็รู้แล้วว่าเป็นแฟนกัน
ไม่พูดอะไรกับเมียเลยเหรอ ?
โอ : ไม่ครับ เหมือนบอกว่าไม่ยุ่งกันครับ ผมถามไปเขาก็บอกว่าเป็นน้อง ผมก็เลยไม่ถามเขา ก็สืบว่าเขาเป็นทหาร
เพื่อน ๆ ที่ รพ. ภรรยา เขาทราบมั้ย ?
โอ : ทราบครับ บางทีก็มีเพื่อน ๆ ส่งมาให้ว่าเที่ยวด้วยกัน
คุณไม่พูดกับเมียเลยสักคำเหรอ ?
โอ : ผมก็ขอหย่าเลย เพราะไม่อยากอยู่ด้วยแล้ว
เมียว่าไง ?
โอ : เมียไม่ยอมหย่า เขาไม่ได้บอกเหตุผล ไม่ได้บอกอะไร
ทนายแก้ว : มือที่สามไม่เคยคุยเลยเหรอ
โอ : ไม่เคยคุย อยู่คนละสังกัด คนละหน่วยงาน ไม่เคยเจอ
ทนายแก้ว : ฝ่ายชายเขารู้มั้ยว่าฝ่ายหญิงมีคุณอยู่
โอ : เขาน่าจะรู้นะครับ ในไอจีภรรยาก็ลงรูปคู่กับผม เฟซบุ๊กก็ลง
มาร้องทำไม ?
โอ : อยากให้เอาเรื่องทางวินัยกับทางชู้ครับ
โอ : ผมเอาหลักฐานฟ้องหย่าในปี 65 ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ตอนนั้นก็แยกกันอยู่ ตอนผมฟ้อง ผมขนของออกจากบ้านไปอยู่กับแม่ พอฟ้องเขาก็มีพฤติกรรมไปงานวันเกิดแม่
ทนายแก้ว : ฟ้องหย่าพร้อมฟ้องชู้ เรียกไปเท่าไหร่
โอ : เรียกไป 3 แสนครับ
โอ : ครับ
ตอนที่กลับมายังไม่รู้ว่าเมียมีชู้ เมียยอมให้มีสัมพันธ์มั้ย ?
โอ : มีครับ ไม่ได้ห้ามอะไร ปกติทุกอย่าง ไม่เคยขัดครับ
พอจับได้ เอารูปให้เมียดูมั้ย ?
โอ : ให้ดูบางรูป เขาก็บอกว่าเป็นน้องที่ทำงาน
เมียคุณอายุเท่าไหร่ ?
โอ : เมีย 40 ผู้ชายอายุ 23 ส่วนผมอายุ 34
จับมือกันแล้วบอกพี่น้อง คุณบอกเขามั้ยว่าคุณไม่เชื่อ ?
โอ : ไม่ได้บอกครับ ผมโวยวายแล้วออกจากบ้านไปแล้ว
ตอนนั้นฟ้องหย่าหรือยัง ?
โอ : ยังครับ ตอนนั้นเขาขอคืนหมดทุกอย่าง ผมก็ไม่ให้ เขาถึงมาอาละวาดที่ทำงาน เขาโวยวายว่าผมไปมีชู้ ไปอยู่บ้านคนอื่น ไม่กลับบ้านกลับช่อง แล้วไปฟ้องเจ้านายผมว่าผมไปมีชู้
หมายถึงเมียคุณไปบอกเจ้านายคุณว่าผัวมีชู้ ทั้งที่ตัวเองมี ?
โอ : ครับ ทางทหารก็ให้ทำสัญญาห้ามทะเลาะวิวาทกันในสถานที่ราชการอีก เขาสร้างเรื่องว่าผมเป็นคนมีชู้ ผมก็ไม่ยอม เมียจะให้เซ็นสัญญาประนีประนอม เขาร่างขึ้นมาก่อนหย่า
ทนายแก้ว : เป็นบันทึกสัญญาทั่ว ๆ ไป กรณีการทำบันทึกจะสมบูรณ์ต่อเมื่อมีการลงนาม และได้ไปจดทะเบียนหย่ากัน
โอ : ผมไม่เซ็นครับ
จุดไหนไม่ยอมเซ็น ?
โอ : ตรงจุดเขาไม่ยอมไปหย่า เขาจะปล่อยให้อยู่อย่างนี้ ไม่มีการหย่าเกิดขึ้น
ไม่หย่าแต่ขอมีชู้ด้วย ?
โอ : ครับ
ขอโทษมั้ย ?
โอ : เขากราบขอโทษ ขอคืนดี ผมไม่ยอมครับ ผมรับไม่ได้ ผมเจ็บ มันเสียศักดิ์ศรีผม
ระหว่างมีปัญหาคาราคาซัง คุณเองแอบติดจีพีเอสเมียคุณ ?
โอ : ผมมีกุญแจอีกดอก เป็นรถภรรยาเขาซื้อเอง ผมก็ไขกุญแจ แล้วไปติดแอบไว้ ผมซื้อจากช้อปปี้ แอบใส่ไว้ในรถแถว ๆ หลังคา บนฝ้าข้างบน ร้อยสายแล้วเอาไปแอบเรื่อย ๆ ต้องใช้กับแบตเตอรี่ตลอด วันนั้นที่สัญญาณจีพีเอสไปอยู่ที่โรงแรมแห่งนึง ผมนั่งดูอยู่ครับ ก่อนนอนก็หยิบมาดู วันนั้นเป็นเวลากลางคืน เห็นรถคันนี้จอดอยู่ที่โรงแรมม่านรูด ทั้งที่ควรอยู่ รพ. มันบอกพิกัดหยุดเมื่อไหร่ สตาร์ทรถเมื่อไหร่ หยุดตรงไหน เวลาไหน หยุดกี่นาที บอกรายละเอียดหมดเลยครับ
โอ : ตามครับ ตอนนั้นโมโห ทำไมไม่หย่าให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าหย่าจะไปนอนโรงแรมไหนก็ไป
โอ : ไม่มีครับ ผมก็กลัวเขาครับ แต่ความโมโห ตอนนั้นไปเวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ไปถึงเจ้าหน้าที่โรงแรมไม่ให้เข้าไปในห้องพัก ผมก็บอกว่าผมตามจีพีเอสรถภรรยาผมมา ผมก็นั่งรออยู่ตรงหน้าห้อง เขาให้ผมอยู่ตรงนั้นได้ แต่ห้ามเข้าห้อง
เคาะห้องมั้ย ?
โอ : สักพักก็เคาะห้อง ผมก็สตาร์ทรถว่านี่รถภรรยาผมจริงๆ
เปิดรถไป เจออะไร ?
โอ : ชุดทำงานของชู้ ก็ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน สีเดียวกัน
คุณเคาะประตู สตาร์ตเครื่อง ?
โอ : ผมนั่งรถในรถเลยครับ แล้วก็ โทร. แจ้งความ 191 ว่าภรรยาผมอยู่ในโรงแรม
ทนายแก้ว : แต่ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา เขาสมัครใจกันเข้าโรงแรม
โอ : ตร. ก็มา เขาก็ไม่ยอมออก ตร. ก็ โทร. ไปในห้องโรงแรม โทร. เจรจา ยังไงเขาก็ไม่ยอมออก เป็นสิทธิ์ของเขา เขาอยู่ในโรงแรม
ทนายแก้ว : เมียถูกทำร้ายหรือเปล่า พฤติกรรมนี้เมียสมัครใจเข้าไปจุดนั้น ตร. เข้าไปเกี่ยวข้องอาจไม่ได้ และต้องดูว่าคุณบุกรุกมั้ย มีเหตุมั้ย เท่าที่ฟังเหตุบุกรุกไม่มี คุณมีเหตุสุจริตให้ติดตามภรรยาอยู่แล้ว
เมียไม่ยอมออกมาแล้วยังไงต่อ ?
โอ : เจ้าหน้าที่ให้ผมอยู่หน้าห้องได้ แต่ห้ามไปรบกวน หรือไปอาละวาด เฝ้าถึงเกือบตี 3
ทนายแก้ว : มันไม่มีการลักพาตัว ไม่มีเสียงผิดปกติข้างใน จะบุกเข้าไปไม่ได้ครับ
ยังไงต่อ ?
โอ : เกือบ ๆ ตี 3 มีชายฉกรรจ์ประมาณ 4 คน ขับรถมาจอด มอเตอร์ไซค์มาอีก 2 คนเป็น 6 คน ลงมาบอกว่าจะมารับน้องกลับ แล้วก็ไปเคาะเรียกกัน ผมเห็นแล้วว่าภรรยาชะเง้อหน้ามานิดนึง ผมก็ไม่ได้ตะโกนอะไร ก็บอกว่ามึงออกมา เขาก็พาภรรยาผมขึ้นรถกระบะ ผมโดนชายฉกรรจ์ล็อกไว้ 2 คน ให้เขาพาเมียผ่านหน้าไป ลักพาตัวหนีไปเลย
ไม่เรียกลักพาตัว เมียเอ็งยินยอมไปกับเขา คนจับก็เฮียจริง ๆ แล้วมันเป็นใคร ที่มาจับ ?
โอ : น่าจะเพื่อนของชู้ครับ
นี่ผัวเขา แต่มึงมาอ้างรับน้องมึง ซึ่งน้องมึงเป็นชู้ของเขา โอ้โห อดไม่ไหว ขึ้นเลย น่าโมโห ?
โอ : เขาล็อกผมครับ ผมก็แจ้งความวันนั้นเลย มีผู้ชายคนนึงเข้าไปรถภรรยาผม แล้วรื้อชุดทำงานชู้ออกไป เอากลับไปด้วยครับ
ตอนแรกฟีลก็ให้บรรยากาศไม่เครียด เห็นคลิปนี้เครียดเองเลย มันเกินไป คนที่มาล็อกคุณ คุณแจ้งความ ตร. ว่าไง ?
โอ : ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ผมบอกว่าชายชู้คือคนนี้ แจ้งที่ สน.บางพลัด ตั้งแต่ 29 มิ.ย.ปี 66 ออกหมายเรียกไป 2 ครั้งแล้ว เขาออกหมายเรียกชู้แต่ไม่มา
โอ : 3 ที่ครับ ไปร้องที่กระทรวงกลาโหม ศูนยืดำรงธรรม ต้นสังกัดเขาก็ไปร้องครับ สามที่เงียบ มีแค่หัวหน้าเขา โทร. มาบอกว่าถ้าขอจ่าย 3 แสนจบได้มั้ย
โอ : หัวหน้าชายชู้ ขอจบทั้งสองคดี ขอยุติเพียงเท่านี้
ถ้าผู้บังคับบัญชาสูงสุดกองนี้ทราบเรื่อง ผมว่าผู้ชายคนนี้ไม่รอด แล้วโดนหนักด้วย ชายชาติทหารต้องเคลียร์ ต้องคุยกับผัวเขาเลย ผัวเขาจะเอาตีนเหยียบหน้าคุณก็ต้องยอม ยกมือไหว้เขา กราบเขา แต่นี่กลับพาเมียเขาหนีไป ?
ทนายแก้ว : ตอนนี้หย่าหรือยัง
โอ : หย่าแล้วครับ ผมอยากให้ลงโทษวินัยทางทหารกับผู้ชายครับ และดำเนินคดีที่กักขังหน่วงเหนี่ยวผม ค่าเสียหายที่ผมฟ้องหย่า
สักครู่นี้พยายามประสานหาท่านโฆษกกองทัพ ท่านติดงานอยู่ แต่ท่านให้รองโฆษกบอกว่าทราบเรื่องแล้ว ท่านอยากพูดด้วยตัวเองแต่ตอนนี้อยู่ในงานสำคัญ ท่านรับทราบเรื่องนี้แล้ว และจะตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด จะเร่งดำเนินการให้โดยเร็ว ไม่ปล่อยเรื่องนี้ ส่วนเรื่องคดีความ สน.บางพลัด อาจต้องแอ็กชั่นแล้ว เขาถูกล็อกตัว กักขัง มีบาดแผลมั้ย ?
โอ : มีรอยช้ำตามตัวเขาล็อกแน่นครับ
เห็นว่ามีภาพจากวงจรปิดตอนรุมทำร้าย ?
โอ : ตอนภรรยาไล่ตีผมครั้งแรก ผมออกจากบ้าน ไม่อยากอยู่กับเขา เขามาอาละวาดที่ทำงานผม แล้วบอกผมมีเมียน้อย
วันรุ่งขึ้นเกิดอะไรขึ้น หลังชายชู้พาเมียออกไป ?
โอ : เขามาตามเอารถ บอกผมขโมยรถเขา ผมขับรถเขากลับและมาจอดที่ทำงาน เขาตามมาด่าทอ เสีย ๆ หาย ๆ ด่ายันแม่ผม ด่าที่ทำงาน และทำร้ายผม ไม่รู้เอาอะไรตีผม น่าจะเป็นกุญแจ ตีที่คิ้วแตก เขาไม่ตกใจ เหมือนยิ่งสะใจ
สิ่งที่คุณพูดวันนี้ ไม่ได้ติดใจเรื่องเมีย เพราะหย่าไปแล้ว ?
โอ : อโหสิกันไป ต่างคนต่างอยู่
ที่ฝั่งน้องไม่สบายใจ ตอนขึ้นศาลเจอชายชู้ ?
โอ : ตอนสืบพยาน เขาไม่ได้พูดอะไร ตอนผมขึ้นบัลลังก์เดินผ่านเขา มองหน้าเขาเขาก็ยักคิ้วให้ผม เยาะเย้ยครับ ผมก็นิ่งเฉย
โอ : สองปีแล้วครับ ลูกเจอแล้วก็กลัวพ่อ กลายเป็นกลัวพ่อไปเลย รู้สึกพ่อเป็นคนไม่ดี ผมเดินผ่านแล้วน้ำตาไหล (ร้องไห้)