กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง กรณีคลิปภาพเหตุการณ์บุคคลในเครื่องแบบทหารเต็มยศพูดข่มขู่ชาวบ้านว่า "หากมีการมาพาตัวไปขึ้นรถก็อย่าร้องขอชีวิต" กับเจ้าของร้านเสื้อผ้ากลางเมืองเมืองยะลา ที่มีการเผยแพร่อย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์
วันนี้ (16 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา ว่าในสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์ซึ่งมีผู้บันทึกไว้ ขณะที่มีนายทหารท่านหนึ่งแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารเต็มยศ อ้างว่าเป็นระดับยศนายพันมาพูดจา และใช้คำพูดข่มขู่เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่บริเวณร้านขายเสื้อผ้าเซนเตอร์พ้อย ถนนรวมมิตร ตัดถนนจงรักษ์ เขตเทศบาลนครยะลา เหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างกว้างขวาง
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเผยให้เห็นช่วงเวลาของการสนทนาระหว่างนายทหาร กับหญิงสาวเจ้าของร้าน ในเชิงของการเจรจาว่าไม่ให้เกียรติต่อตำแหน่งหน้าที่ของตนเอง จากนั้นนายทหารก็พูดในเชิงข่มขู่ว่าหากมีการมาพาตัวไปขึ้นรถก็อย่าร้องขอชีวิต จนทำให้ชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นแฟนของเจ้าของร้านเกิดหมดความอดทน และได้ต่อว่านายทหารคนดังกล่าวจนมีเพื่อนบ้านเข้ามาห้ามซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีการแชร์คลิปที่มีการบันทึกเหตุการณ์ไว้ลงในสื่อออนไลน์ เพื่อสอบถาม และค้นหาตัวชายในเครื่องแบบที่ใช้วาจาไม่เหมาะสมข่มขู่ประชาชน
ต่อมาทางเจ้าของร้านรายดังกล่าวได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทีแรกพันเอกรายนี้มาพูดคุยทำนองจีบน้องสาวเจ้าของร้าน บอกว่าหุ่นดีๆแบบนี้ไม่อยากใส่เครื่องแบบทหารหญิงเหรอ? จะช่วยให้ได้ทำงาน เซ็นช่วยไปหลายคนแล้ว ทำงานนั่งโต๊ะห้องแอร์สบายๆ พอถูกเจ้าของร้านถามกลับว่าจะจีบน้องสาวหนูเหรอ? ก็บอกว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องจีบใคร ระดับตัวเองมีแต่สาวอยากเข้าหา ตั้งแต่หนุ่มถึงตอนนี้มีเมียมาไม่ต่ำกว่า 200 คนแล้ว จากนั้นก็แสดงความไม่พอใจหาว่าเจ้าของร้านพูดแขวะ ไม่ให้เกียรติตนเอง ถัดมาอีกวันต่อมาจึงกลับมาที่ร้านพร้อมกับแต่งเครื่องแบบนายทหารเต็มยศ และมีเหตุการณ์ดังที่ปรากฎในคลิป
เมื่อผู้สื่อข่าวว่าเข้าไปส่องดูในเฟซบุ๊คส่วนตัวของพันเอกรายดังกล่าว ชื่อพันเอกขจรเดช สมิตะโยธิน ทำงานเป็นสัสดีจังหวัดยะลา โดยก่อนที่จะมาประจำที่จ.ยะลา เคยประจำอยู่ที่จ.ชุมพรมาก่อน พบว่ามีทหารสาวๆหน้าตาดีๆทำงานอยู่หน่วยทหารในจ.ชุมพร มาพูดคุยทักทายกับพันเอก ข.รายนี้ด้วย และมีหญิงสาวหน้าตาดีอีกรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความทำนองขอบคุณพันเอกรายดังกล่าวที่ช่วยดูแลเรื่องงานให้ เมื่อเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวของหญิงสาวรายดังกล่าว พบว่ามีการแต่งเครื่องแบบทหาร และระบุว่าตนเองทำงานที่สัสดี จ.ยะลา สังกัดเดียวกับพันเอกขจรเดช จึงเป็นที่น่าสังเกตุว่ากระบวนการคัดเลือกคนเข้าทำงานทหารเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่
เช้าวันนี้(16ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่เกิดเหตุ พบว่า ยังคงปิดเงียบสนิท และร้านค้าใกล้เคียงยืนยันว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริงในช่วงค่ำคืนของวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทางด้าน พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่าขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาใน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อหาบุคคลในคลิป หากพบตัว ยืนยันว่าจะต้องดำเนินคดีทางวินัยขั้นเด็ดขาดอย่างแน่นอน ขอเวลาตรวจสอบให้ชัดเจนคาดว่าจะสามารถดำเนินการทางวินัยขั้นร้ายแรงอย่างแน่นอนเร็วๆ
ล่าสุดมีรายงานว่าพันเอกขจรเดช ได้ถูกนำตัวไปสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง โดยเจ้าตัวได้ส่งข้อความชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้กับกลุ่มไลน์ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ว่าเป็นเพียงการโต้เถียงกันปกติ ไม่ได้มีอะไรเกินเลย และไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน และอ้างว่าผู้ถ่ายคลิปพยายามใช้คำพูดให้ดูเหมือนตัวเองถูกข่มขู่เพราะรู้ว่ามีการถ่ายคลิป