ช็อค!!เหยื่อโผล่แฉ “บอย” ลวงมีเซ็กส์ ทิ้งป่า อาจติดโรค(คลิป)

จากกรณีที่เฟซบุ๊ก "แหม่มโพธิ์ดำ" ได้โพสต์แชร์เรื่องราวพฤติการณ์ ของมิจฉาชีพหัวหมอรายหนึ่งใช้ยูเซอร์ในทวีตเตอร์ว่า "บอย" ทำงานรับราชการที่กระทรวงสาธารณสุข หลอกวัยรุ่น และเยาวชนไปมีเซ็กส์ พร้อมแอบอัดคลิปเอาไว้ เพื่อเรียกเงินแบลคเมล์ภายหลัง โดยพบว่า ที่ผ่านมามีเหยื่อถูกหลอกหลายราย และมีบางกระแสบอกว่า มิจฉาชีพรายดังกล่าวติดเชื้อเอชไอวี อีกด้วย เมื่อเรื่องราวถูกแชร์ลงไปในโลกออนไลน์ ทำให้สังคมเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

ล่าสุด วันนี้ (12 ธ.ค. 60) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี จึงได้เดินทางมาไปยัง กระทรวงสาธารณสุข บริเวณตึกกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงดังกล่าว และได้พูดคุยกับ หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ ของสภาการแพทย์แผนไทย กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า นายบอย เป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในสภาการแพทย์แผนไทยจริง ซึ่งยังอยู่ในช่วงทดลองงานอยู่ และยังไม่มีการประเมินการผ่านงานใดๆ เบื้องต้นนายบอย ได้ทำงานที่นี่มาประมาณ 4 เดือนแล้ว นิสัยดี เข้ากับคนอื่นได้ง่าย และทราบว่าเป็นชายรักชาย

หลังจากทราบข่าวดังกล่าว เมื่อช่วงเช้าวันนี้(12 ธ.ค.) ผ่านเพจชื่อดัง เจ้าหน้าที่รู้สึกตกใจ จึงรีบโทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะนายบอย อยู่ระหว่างลากิจ 2 วัน จะมาทำงานตามปกติในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ส่วนตนไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่อยากไปก้าวก่าย และไม่อยากพูดอะไรมาก ซึ่งทางผู้บริหารได้ทราบเรื่องแล้ว และจะมีการเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับเรียกเจ้าตัวมาให้ข้อเท็จจริงต่อไป แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเรื่องวันและเวลา เชื่อว่าถ้าเจ้าตัวพร้อมชี้แจงเมื่อไหร่ คงจะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเอง

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ยังได้เดินทางไปบ้านของ "บอย" ย่านดอนเมือง ได้พบกับคุณยายของคุณบอย และเด็กอีก 2 คนนั่งอยู่ภายในบ้าน กำลังดูโทรทัศน์อยู่ ทีมข่าวจึงได้ร้องเรียกคุณยายอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับถามว่า ใช่บ้านของคุณบอย ที่ทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข สภาการแพทย์แผนไทย หรือไม่ คุณยายหันมาทำหน้าตึงเครียด ตอบว่า "ใช่ มีอะไร" (แต่ไม่เดินออกมา)

จากนั้นทีมข่าวได้ถามต่อไปว่า "ทราบไหม ว่าคุณบอยอยู่ที่ไหน" คุณยายตอบกลับมาว่า "ไม่รู้ ไม่กลับมา ไม่รู้อยู่ไหน ไม่ตอบคำถาม" ซึ่งทีมข่าวก็พยายามเรียกให้คุณยายออกมาคุย บริเวณหน้าบ้าน เพื่อสอบถามข้อมูล แต่คุณยายปฎิเสธ และไม่ตอบคำถามทีมข่าว

ขณะที่ทีมข่าวยืนรออยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้พบกับ คนขับวินรถจักรยานยนต์ จึงถามว่า "นี่ใช่บ้านของคุณบอย ใช่ไหม ทราบไหมว่า คุณบอยอยู่ที่ไหน แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่" คนขับวินรถจักรยานยนต์ ตอบเพียงไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อทีมข่าวถามว่าเป็นอะไรกับคุณบอย คนขับวินรถจักรยานยนต์ ตอบกลับมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า "ผมนี่ละเป็นพ่อเขา ! คุณจะมาเอาอะไรกับผม ผมเป็นพ่อ ผมยังติดต่อลูกไม่ได้เลย ผมทุกข์ใจ ไม่น้อยกว่ากว่าใคร" ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป ด้วยความเครียด

จากนั้นทีมข่าวสอบถามเพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ปกติก็จะเห็นคุณบอย กลับบ้านทุกวัน แต่ช่วงหลัง จะไม่ค่อยเห็น ไม่รู้ว่าไปทำอะไรอยู่ที่ไหน เพราะเป็นแค่เพื่อนบ้าน แต่พบว่า คุณบอยเปลี่ยนรถยนต์บ่อย และไม่ค่อยเห็นผู้ชายมาบ้าน เพราะไม่ค่อยได้คุยกัน เพียงแต่บ้านอยู่ใกล้กันเท่านั้น

ขณะเดียวกันที่ สน.บางกอกใหญ่ นายเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เคยถูกนายบอยอัดคลิป ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดี นายบอย กรณีที่ถ่ายคลิปวิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์กับตน ไปเผยแพร่ โดยระบุว่า ตนไม่ได้เป็นเยาวชน และไม่ได้ติดเชื้อ HIV เหตุที่มาแจ้งความเพราะอยากให้อีกฝ่ายลบคลิปวิดีโอดังกล่าวเท่านั้น

โดยนายเอ ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเดินจูงมือเพื่อนชายอีกราย ออกมาจากห้องสอบสวน และรีบวิ่งออกไปจากโรงพักอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุ เบื้องต้นนายเอ เข้ามาให้ปากคำ และนำหลักฐานมามอบให้เจ้าหน้าที่ หลังจากนี้จะมีการนัดหมายเพื่อสอบปากคำผู้เสียหาย เพิ่มเติมอีกครั้ง

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายโอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ผู้เสียหายที่เคยถูก นายบอย ถ่ายคลิปขณะมีอะไรกัน เปิดเผยว่า ตนเคยรู้จักนายบอย ผ่านแอปพลิเคชั่นในมือถือ ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. ปี 2559 ได้พูดคุยประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนนัดเจอกัน โดยนายบอย ขับรถเก๋งสีดำมารับตนหลังมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต ก่อนขับรถพาไปที่เปลี่ยว สองข้างทางเต็มไปด้วยป่ารก แล้วได้มีเพศสัมพันธ์กัน ระหว่างนั้นตนถามนายบอยว่า มีถุงยางอนามัยหรือไม่ แต่อีกนายบอย ไม่ตอบ พร้อมกับยกโทรศัพท์มือถือ เปิดแฟลชด้านหลังโทรศัพท์ ส่องบริเวณใบหน้าตน ขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์ โดยให้เหตุผลว่า เป็นการส่องไฟฉาย ตนจึงไม่ได้เอะใจ

เมื่อเสร็จภารกิจ นายบอยได้ขับรถออกมาห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 150 เมตร ก่อนให้ตนลงจากรถ และบอกว่า จะขอกลับบ้านก่อน หากแม่ไม่อยู่บ้านจะกลับมารับตนไปนอนค้างด้วยกัน ตนจึงยอมลงจากรถ

จากนั้นประมาณ 20 นาที ตนไม่สามารถติดต่อนายบอย ได้อีกเลย จึงเข้าไปดูในแอพฯ ที่แชทคุยกัน พบว่า นายบอยบล็อคตนไปแล้ว จึงยอมเดินไปขึ้นรถรับจ้างกลับห้องพัก

หลังจากวันเกิดเหตุ ตนก็ไม่ได้ติดต่อ นายบอย อีกเลย จนวันนี้เห็นข่าวในโลกโซเชียล จึงจำได้ว่า รูปที่แชร์กัน คือ นายบอย และคาดว่า การยกโทรศัพท์ขึ้นมาสาดแสงแฟลชใส่หน้าตน คงเป็นการถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้

อย่างไรก็ตาม นายโอ เปิดใจว่า กังวลกับข่าวที่ นายบอย ติดเชื้อ HIV โดยกลัวว่า ตัวเองจะได้รับเชื้อดังกล่าว พร้อมยอมรับตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เคยไปตรวจเลือด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต อยากฝากให้ทุกคนระมัดระวังตัวเอง อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงเพียงแค่ความสนุกเพียงข้ามคืน พร้องปลงว่าหากติดเชื้อ HIV จากนายบอย คงเป็นเพราะตัวเองสิ้นบุญ

>>>>>>>>>
Cr::::amarintv.com