“เน โฮฟาทูร่า” ซวย เหยื่อเด็กอีก 2 รายโผล่แฉ ถูกสั่งแก้ผ้าเอาเลือดทา

จากกรณี นายเวฒสุวรรณลักษณา เมฆาจันนัฒกาจ หรือ "เน โฮฟาทูร่า" หนุ่มคนดังในโลกโซเชียล ผู้ชอบแต่งชุดคอสเพลย์ และตั้งตัวเป็นปรมาจารย์สำนักดาบทาบูราชิ ถูกตำรวจจับกุมเหตุพยายามข่มขืนลูกศิษย์หญิงวัย 10 ขวบ ที่มาเรียนฟันดาบ โดยถูกตั้งข้อหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุด วันนี้ (28 ม.ค.) ทีมข่าวเดินทางไปยังสำนักดาบทาบูราชิ บ้านที่นายเนและพวกลูกศิษย์เคยเช่าอยู่อาศัยและใช้เป็นสถานที่สอนฟันดาบให้แก่เด็กนักเรียน พบว่า ของภายในบ้านถูกเก็บออกไปหมด คาดว่าผู้อยู่อาศัยซึ่งเป็นลูกศิษย์ของนายเน ได้ย้ายออกไปแล้ว

ทางด้าน นางติ๋ม (นามสมมติ) แม่ของน้องเอ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนทราบว่า ลูกสาวไปเรียนฟันดาบที่สำนัก ซึ่งมีการสอนฟันดาบ และวาดรูป จึงไม่รู้สึกแปลกใจ จนมาวันหนึ่ง ตนไปเรียกลูกที่บ้านหลังดังกล่าว ใช้เวลาเรียกนานร่วม 10 นาที ลูกสาวถึงออกมา ยอมรับว่า หลังจากวันนั้นเริ่มแปลกใจ

----
จนมาทราบภายหลังว่า นายเน กรีดเลือดที่ข้อมือ แล้วนำมาผสมสี และน้ำเปล่า นำมาเขียนตามตัวลูกตน ก่อนจะพยายามให้ลูกตัวเองถอดเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ โดยตนได้พาลูกเดินทางไปแจ้งความเมื่อวานที่ผ่านมา (27 ม.ค.)

แม่น้องเอ เปิดเผยอีกว่า ส่วนสภาพจิตใจของน้องเป็นปกติแล้ว แต่กลัวว่าในวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) ไปโรงเรียน จะมีเพื่อนถามลูกสาวว่าเรื่องราวดังกล่าวเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เริ่มมีคนเข้ามาถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวเหมือนกัน ตนค่อนข้างลังเลที่จะให้ลูกสาวไปโรงเรียน เพราะหากมีคนเข้ามาถามลูกตนมากๆ กลัวว่าสภาพจิตใจจะไม่ดี และตั้งแต่เกิดเรื่องตนก็ไม่กล้าให้ลูกออกจากบ้านเช่นเดียวกัน

หลังจากที่ตัวเองทราบว่า นายเน ถูกจับกุมตนก็รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น พร้อมยอมรับว่า ยังไม่เคยเห็นลูกศิษย์คนอื่นๆ ของนายเน แต่เชื่อว่า ทุกคนน่าจะทราบเรื่อง แต่ยังไม่เห็นมีใครออกพูดอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเป็นคนที่ถูก นายเน พยายามทำอนาจารน้อยที่สุดในบรรดาทุกคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ เนื่องจาก ตนไม่ยอมแก้ผ้าออก ตามที่ นายเน อ้างว่า เป็นพิธีกรรมรับเข้ามาเป็นลูกศิษย์ที่สำนักดาบ แต่ตนไม่ยอมถอดเสื้อผ้า โดยให้เหตุผลว่า หากคนที่สั่งให้แก้ผ้า ไม่ใช่พ่อแม่ ตนไม่ยอมถอดเด็ดขาด

จากนั้น นายเน ได้กรีดเลือดที่ข้อมือ แล้วนำมาผสมสีและน้ำเปล่า ก่อนจะนำมาเขียนตามตัวตน และพยายามถลกกางเกงตนขึ้นจนเห็นอวัยวะเพศ ก่อนจะบอกให้ไปอาบน้ำล้างตัว แต่ตนไม่ยอมวิ่งออกมาล้างตัวนอกบ้าน จึงถูก นายเน ใช้มือดึงคอเสื้อ แต่ตนวิ่งออกมาได้ทัน ก่อนที่ นายเน จะพาเพื่อนอีกคนเข้าไปในห้อง คาดว่าน่าจะเรียกเข้าไปกระทำแบบเดียวกับตน

ที่ผ่านมา น้องเอ ยอมรับว่า ไม่เคยเห็น นายเน ทำพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนเจอ ปกตินายเน จะพาตนไปเรียนวาดรูป และสอนฟันดาบ

หลังจากนี้ ตนจะไม่กลับไปเรียนแล้ว ส่วนที่เรียกอาจารย์ ไม่ใช่เพราะเคารพ แต่เรียกเพราะความเคยชินเท่านั้น ตอนนี้ รู้สึกดีที่นายเน ถูกจับกุมตัว แต่ตนยังไม่กล้าออกไปเล่นข้างนอกเหมือนเดิม เนื่องจาก แม่ยังกลัวว่า หากออกไปจะเจอกับลูกศิษย์ที่อยู่ในบ้านของเน

ด.ญ.เอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย

----
นอกจากนี้ ด.ญ.เอ บอกอีกว่า น้องฝ้ายผู้เสียหายอีกราย ได้นำตุ๊กตามาให้กำลังใจ พร้อมเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้กำลังรอผลตรวจร่างกายอยู่ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเพื่อนจะไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้หรือไม่ แต่ตนจะไปเรียนตามปกติ

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวเดินทางต่อไปพบกับ นางอ้อย (นามสมมติ) แม่ของ ด.ญ.บี (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ตนเคยสั่งห้ามไม่ให้ลูกสาวไปเรียนฟันดาบ จนมาทราบภายหลังว่า ลูกตัวเองถูกกระทำอนาจารด้วยการถูกสั่งให้แก้ผ้า ก่อนปิดตาและใช้เลือดเขียนตามตัว

ลูกสาว นางอ้อย เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุ ตนเห็นว่าลูกสาวยังไม่กลับบ้าน จึงเดินทางไปที่สำนักด้วยความไม่สบายใจ ตนยืนเรียกลูกประมาณ 10 นาที ลูกสาวตนจึงออกมา ด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ ก่อนบอกว่า กำลังจะกลับบ้านพอดี ระหว่างนั้นลูกสาวไม่ได้พูดจาอะไรกับตน

ภายหลังจากมีข่าว ลูกจึงบอกว่า นายเน เคยสั่งให้แก้ผ้าออกจนหมด พร้อมกับสั่งให้นอนปิดตา จากนั้นนำเลือดมาเขียนตามตัว ลูกสาวพยายามปกปิดของลับเอาไว้ และนายเน สั่งให้ไปอาบน้ำ พร้อมบอกว่าเป็นพิธีการรับศิษย์

นางอ้อย บอกอีกว่า "ตนขอเอาเรื่อง นายเน ให้ถึงที่สุด เรื่องดังกล่าวตนมองว่าเป็นภัยกับสังคม เพราะหากตนรู้ช้ากว่านี้เรื่องราวจะเป็นอย่างไร แล้วอะไรจะเกิดกับลูก"

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสุรวิทย์ (สงวนนามสกุล) ตาของน้องฝ้าย (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ช่วงเช้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ นายธารา และกลุ่มลูกศิษย์นายเน ย้ายออกจากบ้านหลังที่เกิดเหตุไป เพราะพ่อของหนึ่งในผู้เสียหาย ไม่ต้องการที่จะให้กลุ่มนี้อยู่ในบ้านหลังเดิม เกรงว่าจะทำให้ผู้อื่นเสียหายไปด้วย อีกทั้งไม่เชื่อว่ากลุ่มลูกศิษย์จะไม่ทราบเรื่องที่นายเน ก่อเหตุกับเด็กผู้หญิง

นายสุรวิทย์ ระบุว่า กลุ่มของลูกศิษย์จะมีผู้ชาย 3 คนและผู้หญิงอีก 2 คน ก่อนหน้านี้ เคยมีแฟนของนายเน มาอยู่ด้วยแต่ย้ายออกไปแล้ว ลูกศิษย์เหล่านี้อายุประมาณ 30 ปี อาศัยอยู่ด้วยกันทุกคืน จึงทำให้ตนคิดว่ากลุ่มลูกศิษย์น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับนายเน และเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้เรื่องดังกล่าว ตนทราบมาว่า วันเกิดเหตุลูกศิษย์อยู่ในบ้านแต่อ้างว่าอยู่คนละห้อง และแกล้งไม่รู้ไม่เห็นว่ามีเรื่องดังกล่าว

เบื้องต้น นายสุรวิทย์ ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกกลุ่มลูกศิษย์ไปสอบปากคำ ตนเห็นเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถามและเข้าไปพูดคุยในบ้านเท่านั้น ขณะนี้ตนเองก็รู้สึกสบายใจที่กลุ่มลูกศิษย์ย้ายออกไป เพราะคิดว่ากลุ่มคนพวกนี้ค่อนข้างอันตราย

นอกจากนี้ นายสุรวิทย์ ยังเปิดเผยอีกว่า นายเนจะเลือกเฉพาะเด็กผู้หญิงหน้าตาดีไปเรียนด้วย บางครั้งมีการชักชวนเด็กที่สนามเด็กเล่นไปเข้าเรียนกับสำนักดาบของตัวเอง

ทางด้าน น้องโกโก้ (นามสมมติ) อดีตนักเรียนฟันดาบของอาจารย์เน เล่าว่า เมื่อเดือนธันวาคม เคยได้เรียนฟันดาบกับอาจารย์เน ได้ประมาณ 5 วัน ขณะนั้น มีเพื่อนที่เรียนด้วยกันเป็นผู้หญิง 8 คน ผู้ชาย 6 คน โดยตนไม่เคยเห็นมีพิธีกรรมฝากตัวเป็นศิษย์ มีเพียงแต่การเคารพอาจารย์ คือให้ตั้งจิต ท่องคำว่า "วิชา-อาจารย์-ตัวเรา" และก้มลงกราบอาจารย์เน เพื่อทำความเคารพ

ส่วนเรื่องของการใช้สีทาบนตัว ตนไม่เคยเห็น และไม่เคยเห็นว่ามีการเรียกศิษย์ไปอยู่ด้วยสองต่อสอง หรือพูดจาลวนลามเด็กผู้หญิง โดยปกติแล้ว อาจารย์เน เป็นคนรักเด็ก เล่นกับเด็กตามปกติ สามารถพูดคุยกันได้อย่างเป็นกันเอง ส่วนที่ตนไม่ไปเรียนต่อเพราะเบื่อจึงเลิกเรียน

ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ไม่มีเด็กผู้ชายไปเรียน เหลือเพียงเด็กหญิงสามคนที่เป็นข่าว ตอนนี้ตนรู้สึกขาดความเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ และไม่น่าเชื่อว่าอาจารย์จะทำแบบนี้

น้องโกโก้ คิดว่า การเรียนฟันดาบค่อนข้างอันตราย เพราะเพื่อนตนเคยเป็นแผลจากอุบัติเหตุระหว่างเรียนด้วย มีอาจารย์เน เพียงคนเดียวเป็นผู้สอน ส่วนลูกศิษย์อาจารย์เน ตนยังไม่เคยเห็น หลังเกิดเหตุผู้ปกครองในละแวกนี้ก็ทราบเรื่องและตักเตือนไม่ให้ไปเรียนกับอาจารย์เนอีก

น้องโกโก้ (นามสมมติ) อดีตนักเรียนฟันดาบของอาจารย์เน

>>>
Cr:::amarintv.com