แม่ร่ำไห้ชี้ตร. ทำเกินกว่าเหตุถีบรถลูกล้มดับ วอนให้ตร.มาขอขมาศพลูก (คลิป)
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา น้องวินั้นได้ขี้รถจักยานยนต์ออกไปข้างนอกกับเพื่อน และเวลาต่อมาแม่ของน้องได้รับแจ้งว่าลูกชายของตนเองนั้นประสบอุบัติเหตุบริเวณวัดบ้านโป่ง เมื่อตนเองเดินทางดูก็พบว่าน้องวินั้นศรีษะกระแทกกับกำแพงประตูวัด และเพื่อนที่มาด้วยกันได้รับบาดเจ็บ ตนจึงสอบถามเพื่อนของน้องวิว่าเกิดอะไรขึ้น
เพื่อนน้องจึงเล่าว่าน้องกับตนนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์กันมาแล้วมีตำรวจนายหนึ่งขี่รถไล่กวดเพื่อขอตรวจรถเพราะท่อดัง น้องวิและตนเองนั้นตกใจจึงขับหนี เมื่อตำรวจขับตามมาทันจึงใช้เท้าถีบ ทำให้รถน้องวิและตนเองนั้นเสียหลักล้มเสียชีวิต
หลังจากที่เกิดเหตุนั้นคู่กรีรีคือตำรวจนายนั้น ไม่มีการรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น และแม่นั้นต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้านแม่เผยว่า
"ระยะเวลาที่ให้โอกาสตำรวจนายนี้ มัน 4เดือนแล้วแต่คดีไม่ไปถึงไหนเลย และอยากได้รับความเป็นธรรม ลูกชายตนนั้นอายุแค่ 16 ปีถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถีบแต่ทำไมต้องไล่กวดจนน้องตาย อยากให้เข้ามาคุยว่าเหตุผลคืออะไร หรือเข้ามาขอโทษสักคำก็ยังดี"
สาเหตุการตายของน้องคืออะไร ?
"จากที่รู้มาก็คือจากเพื่อนที่ไปด้วย บอกว่าตำรวจไล่กวดน้อง จนไปถึงที่เกิดเหตุ ตำรวจก็ถีบรถน้อง ทำไมรถน้องเสียหลักชนกำแพง"
โดย พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทร์ปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง เปิดเผยว่า เนื่องจากในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง มักมีเรื่องร้องเกี่ยวกับวัยรุ่นจับกลุ่มรวมตัวแข่งรถ อีกทั้งมีการดัดแปลงสภาพรถ แต่งท่อเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนโดยทั่วไป
สภ.บ้านโป่ง จึงมีมาตรการกวดขันวินัยจราจร มีการตั้งด่านและจุดสกัดจับและขอให้ผู้ปกครองควรจะดูแลบุตรหลานด้วย และเคสนี้ตำรวจก็ให้ความเป็นธรรมเต็มที่
"ตนเป็นเพื่อนกับวิมาหลายปี ซึ่งวิเป็นคนดีมาก และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด บุหรี่ก็ไม่สูบ เป็นคนขยัน ช่วยพ่อแม่ทำงานมาตลอด และทำงานเก็บเงินซื้อรถมอเตอร์ไซค์ด้วยตนเอง อย่างวันเกิดเหตุ ก็เชื่อว่าวิขี่หนีเพราะตกใจเพราะว่าเป็นรถแต่ง และมีเสียงท่อดังมาก อันนี้ก็ยอมรับ และตนก็คิดว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุเพราะแค่ท่อใบเดียวดังถึงกับต้องฆ่าคน ตนก็เสียใจที่เพื่อนดี ๆ ต้องมาตายแบบนี้"
โดย ส.ต.ท.ธนกฤต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะเตรียมปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร บริเวณหน้าโรงเรียนวัดบ้านโป่ง หลังจากนั้นได้ยินเสียงเบิ้ลเครื่องท่อรถจักรยานยนต์ดังมาจากในวัดบ้านโป่งหลายครั้ง จึงได้ขี่รถเข้าไปตรวจสอบ จนพบกับนายอนุชาและเพื่อนบริเวณซุ้มประตูวัด จึงได้ขี่รถขวางไว้ พร้อมแจ้งให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ แต่นายอนุชากลับบิดรถหลบหนีไปด้วยความเร็ว พฤติกรรมส่อมีพิรุธ จึงตัดสินขี่ไล่ตาม สุดท้ายนายอนุชาได้ขี่รถเสียหลักไปเอง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ถีบรถตามที่ถูกกล่าวอ้าง
นอกจากนี้แม่ของน้องวิยังบอกอีกว่าอยากให้นายตำรวจท่านนี้มาขอขมาเรื่องที่เกิดขึ้นหน่อย เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องนายตำรวจท่านนี้ไม่เคยมาขอขมาศพลูกเลย