เจอตัวแล้ว!! พลทหารตี๋ ไปอยู่กับคู่ขาเกย์ อีกฝ่ายปัดชวนหนีทหาร(คลิป)
หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด ข่าว เหตุการณ์ การเมือง เจอตัวแล้ว!! พลทหารตี๋ ไปอยู่กับคู่ขาเกย์ อีกฝ่ายปัดชวนหนีทหาร(คลิป)
กรณีที่นางชไมพร โนรี และนางสาวสุพรรษา สุดสาคร แม่และพี่สาว ออกตามหานายทัศพล โนรี หรือ ตี๋ อายุ 21 ปี ชาวบ้าน ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท หลังจากหายไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 62 ระหว่างเดินทางกลับเข้าประจำการฝึกทหารเกณฑ์ที่กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ จ.ลพบุรี ซึ่งครอบครัวทราบเบาะแสสุดท้าย ตอนที่นายตี๋อยู่ที่ จ.ลพบุรี ว่าอยู่ที่ร้านลาบแห่งหนึ่ง ครอบครัวจึงตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าของร้านอาจมีส่วนรู้เห็นกับการหายไป ขณะที่เจ้าของร้านออกมาตอบโต้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
กระทั่งช่วงคืนวันที่ 1 ก.พ. 62 มีชาวบ้านพบเห็นพลทหารตี๋เดินอยู่ริมทางรถไฟสระบุรี จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรีควบคุมตัว และแจ้งญาติพร้อมประสานทางต้นสังกัดให้มารับตัวกลับค่ายทหาร
โดยนายตี๋เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางมาเที่ยวที่จ.สระบุรี และได้พบรักกับสาวประเภทสองรายหนึ่ง จึงไปเที่ยวด้วยกันอาศัยค้างตามวัด ส่วนที่ไม่ได้ติดต่อกลับไปหาครอบครัวเนื่องจากไม่มีเงิน
กระทั่งช่วงคืนวันที่ 1 ก.พ. 62 มีชาวบ้านพบเห็นพลทหารตี๋เดินอยู่ริมทางรถไฟสระบุรี จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรีควบคุมตัว และแจ้งญาติพร้อมประสานทางต้นสังกัดให้มารับตัวกลับค่ายทหาร
โดยนายตี๋เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางมาเที่ยวที่จ.สระบุรี และได้พบรักกับสาวประเภทสองรายหนึ่ง จึงไปเที่ยวด้วยกันอาศัยค้างตามวัด ส่วนที่ไม่ได้ติดต่อกลับไปหาครอบครัวเนื่องจากไม่มีเงิน
ล่าสุด นายวัน (นามสมมติ) อายุ 40 ปี แฟนของนายตี๋ ที่มาพบรักกันบริเวณสถานีรถไฟ บอกว่า ตัวเองมาเจอกับนายตี๋เพียงแค่ 3 วันเท่านั้น โดยนายตี๋ได้มาพูดคุยและให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลและเป็นแฟนกัน ยอมรับว่าตนเองก็ดีใจที่นายตี๋พูดแบบนั้น
หลังจากที่เริ่มคบหาพูดคุยกัน ก็ได้ไปอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใกล้กับสถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี ซึ่งเป็นวัดที่ตนเองเคยบวชมาก่อน โดยตลอดช่วงที่ผ่านมานายตี๋เพียงแค่บอกว่าเดินทางออกจากค่ายทหารมาเที่ยวที่สระบุรี แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นการหนีค่าย ซึ่งหากตนเองรู้ก็คงจะแนะนำให้กลับไป แต่มีช่วงหนึ่งที่นายตี๋บ่นคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ ซึ่งตนเองก็บอกให้นายตี๋กลับไปแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอม ส่วนความสัมพันธ์ยอมรับว่าก็มีนอนกอด และจูบกันตามปกติ แต่ไม่ถึงขั้นมีอะไรเกินเลย
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้แม้ว่านายตี๋จะเดินทางกลับไปที่ค่ายทหารแล้ว เรื่องของความสัมพันธ์ตนเองให้ขึ้นอยู่กับเจ้าตัว แต่หากจะมีการติดต่อกันอีกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะตัวเองยังคงทำมาหากินอยู่ที่สระบุรี ส่วนนายตี๋ก็ต้องกลับไปที่กรมทหาร
ความคืบหน้าวันที่ 2 ก.พ. 62 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่บ้านของนายตี๋ พบว่าทั้งครอบครัวกำลังคุยวิดีโอคอลที่กองร้อยจัดให้คุยกัน
โดยนางสาวสุพรรษา สุดสาคร พี่สาวนายตี๋ เปิดเผยว่า
ตอนนี้แม่ยิ้มได้ทุกคนในครอบครัวโล่งใจ แม่สุขภาพเริ่มดีขึ้น กินอิ่มนอนหลับเหมือนปกติแล้ว เรื่องที่น้องชายไปเที่ยวกับสาวประเภทสองนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ไม่มีอะไรเกินเลย แต่ถ้าหากน้องชายจะพามาบ้านก็ยินดีไม่มีปิดกั้น พร้อมสอนน้องไปว่าจะไปไหนมาไหนให้โทรบอก ถ้าหายไปแบบนี้อีกจะวุ่นวายกันทั้งบ้านทั้งเมือง
หลังจากที่เริ่มคบหาพูดคุยกัน ก็ได้ไปอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใกล้กับสถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี ซึ่งเป็นวัดที่ตนเองเคยบวชมาก่อน โดยตลอดช่วงที่ผ่านมานายตี๋เพียงแค่บอกว่าเดินทางออกจากค่ายทหารมาเที่ยวที่สระบุรี แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นการหนีค่าย ซึ่งหากตนเองรู้ก็คงจะแนะนำให้กลับไป แต่มีช่วงหนึ่งที่นายตี๋บ่นคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ ซึ่งตนเองก็บอกให้นายตี๋กลับไปแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอม ส่วนความสัมพันธ์ยอมรับว่าก็มีนอนกอด และจูบกันตามปกติ แต่ไม่ถึงขั้นมีอะไรเกินเลย
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้แม้ว่านายตี๋จะเดินทางกลับไปที่ค่ายทหารแล้ว เรื่องของความสัมพันธ์ตนเองให้ขึ้นอยู่กับเจ้าตัว แต่หากจะมีการติดต่อกันอีกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะตัวเองยังคงทำมาหากินอยู่ที่สระบุรี ส่วนนายตี๋ก็ต้องกลับไปที่กรมทหาร
ความคืบหน้าวันที่ 2 ก.พ. 62 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่บ้านของนายตี๋ พบว่าทั้งครอบครัวกำลังคุยวิดีโอคอลที่กองร้อยจัดให้คุยกัน
โดยนางสาวสุพรรษา สุดสาคร พี่สาวนายตี๋ เปิดเผยว่า
ตอนนี้แม่ยิ้มได้ทุกคนในครอบครัวโล่งใจ แม่สุขภาพเริ่มดีขึ้น กินอิ่มนอนหลับเหมือนปกติแล้ว เรื่องที่น้องชายไปเที่ยวกับสาวประเภทสองนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ไม่มีอะไรเกินเลย แต่ถ้าหากน้องชายจะพามาบ้านก็ยินดีไม่มีปิดกั้น พร้อมสอนน้องไปว่าจะไปไหนมาไหนให้โทรบอก ถ้าหายไปแบบนี้อีกจะวุ่นวายกันทั้งบ้านทั้งเมือง
ส่วนเรื่องการขอขมาลาโทษเจ้าของร้านลาบนั้น ครอบครัวจะหาโอกาสไปขอขมาแน่นอน แต่ตอนนี้อยากขอขมาผ่านสื่อไปก่อน และขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเป็นสื่อกลางในการค้นหาน้องชายนางชไมพร โนรี แม่นายตี๋ บอกว่าตอนนี้รู้สึกดีใจ สบายใจที่ลูกกลับมาปลอดภัย ตนเองไม่ต้องทนทรมานกินไม่ได้นอนไม่หลับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไปบนบานศาลกล่าวไว้ ตอนนี้ก็กำลังไปตามแก้บน ส่วนเรื่องเจ้าของร้านลาบ ตนคงไม่เดินทางไปขอโทษที่เคยสงสัย แต่อยากขอโทษผ่านสื่อที่เข้าผิด สื่อสารกันผิด ตอนนี้เป็นห่วงลูกมาก ไม่รู้ว่าทางกองร้อยจะทำโทษอย่างไร ขอให้อย่าซ้อมลูกเหมือนที่ข่าวเคยออก ๆ กันไปก่อนหน้านี้ พร้อมขอบคุณสื่อที่ช่วยตามหาลูก ส่วนตัวไม่มีอะไรให้ นอกจากคำขอบคุณ เพราะบุญคุณครั้งนี้เป็นความสุขที่ได้เจอลูก จะได้ไม่ต้องมานั่งทุกข์นอนทุกข์อีกต่อไป
ขณะที่ นางจิดาภา โชติมณีสินธุ หรือ จิน เจ้าของร้านลาบ บอกว่า หลังจากรู้ความจริงแล้ว อยากให้ครอบครัวของนายตี๋ มากราบขอขมาที่มีการมากล่าวหาตน เพราะที่ผ่านมากว่าจะทำร้านจนมีชื่อเสียง มีลูกค้าขนาดนี้ ต้องทำการตลาดเยอะมาก ลงทุน ลงแรง จนได้ฉายาว่า "แม่จิน ขวัญใจแนวหน้า" และยังบอกอีกว่า แม่จินคนจริง 2 พันปี เอาคืนแน่ ถ้าไม่มาขอโทษไม่จบ เรื่องเงินเรื่องทองตนไม่สนใจ แต่ต้องการศักดิ์ศรีคืน
รับชมคลิป
VVVVVV
VVVVVVV
VVVVVV
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น