ตะลึง! เก็บอำพันทะเล 20 ล้านได้ เจ้าของบาร์สมุยรวยเละ ผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วของจริง
จากกรณีที่มีหนุ่มเจ้าของบาร์บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบก้อนประหลาดที่มีลักษณะคล้ายกับอ้วกวาฬ หรือ อำพันทะเล น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ที่กำลังมีกระแสข่าวที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้
วันที่ 1 มี.ค. 62 นายบุญยศ ตาละอุปะระ อายุ 44 ปี หนุ่มเกาะสมุย เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีข่าวออกไป ก็มีเพื่อนฝูงโทรมาสอบถามกันเป็นจำนวนมาก แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดที่แจ้งความประสงค์ที่จะขอซื้อ แต่หากมีสถาบันใดที่มีความเชียวชาญ ที่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ว่า ก้อนประหลาดที่พบนั้นเป็นอำพันทะเลของแท้หรือไม่ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ก็ยินดีจะแบ่งบางส่วนไปให้พิสูจน์
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากภาพข่าวที่นำเสนอ คาดว่าน่าจะเป็นอำพันทะเล โดยอำพันทะเลเป็นสิ่งที่อยู่ภายในตัววาฬเพียงชนิดเดียว คือ วาฬสเปิร์ม หรือ วาฬหัวทุย สามารถพบได้ในทะเลจีนใต้ แถบประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย รวมทั้งไทย แต่วาฬหัวทุยเป็นสัตว์หายาก ขนาดตัวอาจยาวได้ถึง 18-20 เมตร
ส่วนสาเหตุที่ทำให้วาฬหัวทุยมีอำพันทะเลาในตัว เนื่องจากวาฬหัวทุยเป็นวาฬที่ไม่กินแพลงตอนเป็นอาหาร แต่จะกินหมึก เมื่อกินเข้าไปแล้ว ปากหมึก ที่มีลักษณะแข็ง ๆ จะติดอยู่ภายในท้อง ร่างกายของวาฬจะปล่อยสารบางอย่างเพื่อมาเคลือบปากหมึกไม่ให้บาดท้อง จากนั้นก็จะพอกพูนมากขึ้น และอยู่ในตัววาฬโดยไม่สามารถอ้วก หรือขับถ่ายออกมาได้ ส่วนที่มีข่าวว่าเรียกชื่ออำพันทะเลอีกชื่อหนึ่งว่า อ้วกวาฬ ส่วนตัวมองว่าที่เรียกเช่นนั้น เพราะคนมองว่าก้อนไขมันนี้จะหลุดออกมาทางปาก ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่ แต่อำพันทะเลจะออกจากตัววาฬต่อเมื่อวาฬเสียชีวิต เมื่อศพเน่า ท้องแตก ชิ้นส่วนที่เป็นไขมันในท้องก็จะหลุดลอยขึ้นไปตามท้องทะเล แต่ทั้งนี้ อำพันทะเลไม่สามารถพบได้ในวาฬหัวทุยทุกตัว ตามข้อมูลสามารถเจออำพันทะเลได้ในวาฬหัวทุย 1 ต่อ 100 เท่านั้น ทำให้อำพันทะเลกลายเป็นสิ่งหายากยิ่งขึ้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธรณ์บอกว่า ประโยชน์ของอำพันทะเล มีเพียงอย่างเดียวคือนำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม ซึ่งจะทำให้น้ำหอมติดทนนาน ในอดีตก็จะทำให้บริษัทน้ำหอมรับซื้อในราคาที่สูงมาก ซึ่งปัจจุบันอาจมีสารสังเคราะห์ที่ทำมาใช้แทนอำพันทะเล แต่ถือว่าอำพันทะเลก็ยังมีมูลค่าที่สูงอยู่ ตามข้อมูลเมื่อปี 2015 มีผู้ประมูลอำพันทะเลก้อนขนาด 1.1 กิโลกรัม เสนอราคา 11,000 ปอนด์ หรือราว 500,000 บาท โดยผู้ที่ประมูลไปเป็นบริษัทผลิตน้ำหอมในฝรั่งเศส
การพบอำพันทะเลครั้งนี้ไม่ได้เป็นดัชนีสะท้อนระบบนิเวศ เพราะอาจมาจากวาฬในประเทศอื่น เนื่องจากอำพันทะเลเป็นสิ่งที่ลอยอยู่ในทะเลได้นานนับปี กว่าจะไปขึ้นฝั่ง ลอยน้ำได้หลายพันกิโลเมตร
ส่วนการที่ชาวบ้านไปเจอนั้น ถือว่าเป็นทรัพย์สินของผู้ที่เจอ ส่วนตัวมองว่าไม่ได้มีความผิดอะไรทางกฎหมาย แม้ว่าวาฬหัวทุยเป็นสัตว์คุ้มครอง แต่หากมองมุมกฎหมาย อำพันทะเลเป็นส่วนของเลือด น้ำเชื้อ หรือสารหลั่ง ซึ่งไม่ได้ถูกระบุไว้ในกฎหมายที่ต้องตีความเรื่องคำว่า “ซากสัตว์” การพบครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถือเป็นโชคดีของผู้พบ และทำให้ประชาชนเข้าใจ รู้จักสิ่งต่าง ๆ ในทะเลมากขึ้น