ชีวิตบรรลัย! หนุ่มถูกใช้รูปแอบอ้างทารุณแมว กวนประสาทกลัวคนปองร้าย
จากกรณีผู้ชายคนนึงที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า เสี่ยใหญ่ ฆ่าแมวหั่นครึ่งท่อน โพสต์ท้าทายไม่กลัวถูกจับ จนทำให้โซเชียลเดือดแตกประกาศล่าตัว ล่าสุดโหนกระแสวันที่ 12 มี.ค. โดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์- ศุกร์ เวลา 13.45 - 14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "คุณกอล์ฟ พรชัย สุวโจ" ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าถูกนำรูปไปแอบอ้าง ไม่ใช่คนฆ่าแมวล้านเปอร์เซ็นต์ มาพร้อมกับ "แม่บีม" ผู้เสียหายจากการกระทำของเพจดังกล่าวอีกรายหนึ่ง และ "ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต" ทนายความ
เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น?
กอล์ฟ : "ผมเข้าไปอยู่ในเพจๆ นึง นานแล้ว ใบแจ้งความตั้งแต่ตุลาคม แต่ผมไปอยู่ในนี้ก่อน มันก็โพสต์หมิ่นบ้าง โพสต์ด่าคนอีสานบ้าง ผมก็ทนไม่ไหวตอนที่มันโพสต์หมิ่นนี่แหละ แต่มันเอาหน้าผมไป ผมไปว่ามันก่อนว่าคนในนั้นอย่าไปไลค์ไปแชร์ให้ เพราะพวกนี้มันจะเอายอดไลค์ยอดแชร์ไปขายแม่ค้าออนไลน์ ผมก็เอาไปบอกในนั้น ตัดทางทำมาหากินมัน มันคงโมโหผม เอารูปผมมาใส่"
มันคนนั้นใช้ชื่อเพจว่าเสี่ยใหญ่ ตอนแรกโพสต์อะไรถึงเป็นจุดเริ่มต้น?
เคยติดต่อไปเพจเสี่ยใหญ่มั้ย?
กอล์ฟ : "เคยเข้าไปด่ามัน ไม่ต่อล้อต่อเถียง ส่งรูปขี้หมาไปให้อย่างเดียว กวนประสาท พวกนี้มันไม่ฟังหรอก มันสะใจมัน ถ้าเปิดดูจะเห็นผมทะเลาะกับมัน มันพูดไรมาผมก็ส่งขี้ให้ตลอด ผมกวนประสาท จนมันโมโห"
ความลำบากเกิดอะไรขึ้น หลังเขาเอารูปคุณไปลง?
กอล์ฟ : "เยอะ เวลาไปไหนมาไหนคนมองผิดปกติ มองเยอะเกินไป มองเหมือนสงสัย ไม่ว่าจะกลางวันกลางคืน เวลาไปกินข้าว คนมันมองจัง มันเปลี่ยนรูปไปเรื่อย ในนี้มีอยู่ 6-7 รูปมั้ง"
แม่น้องบีมก็เป็นผู้เสียหายจากเพจเสี่ยใหญ่เหมือนกัน โดนอะไร?
แม่บีม : "เขาเอาเบอร์โทรเราไปลง ตอนแรกเอาเบอร์โทร แต่วันต่อมาเอาชื่อที่อยู่เราไปลง ตอนเอาเบอร์โทรเราไปลง มีคนโทรมาหาเราวันละสองสามร้อย พอเอาที่อยู่ไปลง กลางคืนมีมอเตอร์ไซค์มาป้วนเปี้ยนหน้าหมู่บ้าน แต่หมู่บ้านเรามีรปภ. เขาก็จะมาถามหาน้องบีม แต่รปภ.บอกว่าเป็นเวลากลางคืน ตองแจ้งลูกบ้านก่อน เขาก็ขับไปเลย เขาเอาแขวนเบอร์เราไปแขวน บอกว่าแมวตัวนี้จะฆ่านะ ถ้าใครอยากไถ่ชีวิตให้โทรมาหาเบอร์นี้ แล้วให้เบอร์เราไป โทรวันนึง 200 กว่าสาย พอเรารับสายเขาถามก่อนเลย มึงคือเสี่ยใหญ่ใช่มั้ย เราก็บอกว่าใจเย็นๆ นะ ฟังก่อน เพจเสี่ยใหญ่เอาเบอร์พี่ไปแขวนเพื่อให้คนมาด่าพี่ บางคนก็เข้าใจ แต่ก็ไม่จบ เขาเอาที่อยู่เราไปลง"
คุณมีปัญหาอะไรกันมาก่อน?
แม่บีม : "ไม่ได้มีปัญหากับเสี่ยใหญ่ แต่มีคนนึงสนิทกัน มีการยืมเงิน แม่คิดดอกมั้ย ไม่คิด ขอแค่เดือดร้อนจริงๆ ถึงเวลายืมไปก็เอามาคืน เสร็จแล้วก็ยืมใหม่ได้ พอยืมเสร็จปุ๊บก็คืน ก็ยืมมาเรื่อยๆ ไม่มีปัญหา แต่ก่อนสิ้นปี อวตารตัวนี้มีปัญหาส่วนตัว ซึ่งเราไม่รู้ว่ามีปัญหาส่วนตัวอะไร เขาหายจากเราไป กลุ่มอวตารด้วยกันเราก็ถามว่าเขาหายไปไหน"
อวตารคือใครไม่รูสร้างเฟซมาแบบไม่มีตัวตน?
แม่บีม : "ใช่ค่ะ เราก็ถามคนรอบข้างเขาว่ามีปัญหาอะไร อย่าหายไปแบบนี้ ให้คุยกันตรงๆ ถ้ายังหายไปแบบนี้แม่บีมประกาศตามหานะ เขาก็บอกว่าอย่าเพิ่งใจเย็นๆ ถ้ายังหายเดี๋ยวจะไปแหกเอง แล้วเหมือนผู้ชายคนนี้ไปสื่อให้เขาฟัง จู่ๆ เขาก็ติดต่อมา เขาบอกมีปัญหานะ เงินขอทยอยคืนนะ"
แม่บีม : "มีปัญหากับคนนี้คนเดียว เพื่อนเสี่ยใหญ่เป็นเพื่อนกับคนนี้ ไม่พอใจ พอไม่พอใจก็มารุมด่าเราเราไม่ตอบโต้เพราะคิดว่าสักพักเขาคงเบื่อและไปหาเป้าหมายใหม่ แต่ปรากฏว่ายิ่งรุนแรงมากขึ้นๆ ถามว่าเดือดร้อนมั้ยก็ระดับหนึ่ง หนักกว่านั้นคือลูกอายุ 13 ปีเรียนอยู่ม. 1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง โรงเรียนแห่งนี้ระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างดี แต่มีส่งรูปลูกเข้ามาในอินบ็อกเรา มึงดูสิ กูคนไหน อีกวันส่งมาใหม่ อยู่ในตึกบริเวณตึกลูกเรา"
เขาไปถ่ายรูปโรงเรียนลูกคุณ แต่หน้าเป็นคุณกอล์ฟ ตอนแรกคิดว่าเป็นเขามั้ย?แม่บีม : "ไม่คิดค่ะ คิดว่าเขาคงไม่กล้าเอารูปหน้าตัวเองมาลงหรอก"
กอล์ฟ : "คนจะทำผิดจะเอารูปตัวเองมาลงทำไม"
แม่บีม : "ถ้าคนเก่งจริง กล้าจริงก็คงเอารูปตัวเองลง แต่นี่เลือกเอารูปคนอื่นมาลง"
แม่บีมถึงขั้นถูกแขวนเลขที่บัญชีเหรอ?
แม่บีม : "ใช่ค่ะ เขาบอกว่าแมวตัวนี้กำลังจะถูกฆ่าถ้าใครไม่อยากให้ฆ่าให้โอนเงินมาแสนห้า แล้วกูจะไม่ฆ่าแมวตัวนี้ โดยการโอนเลขบัญชีนี้นะ ไทยพาณิชย์ เป็นเลขบัญชีเรา"
ถ้าตำรวจตามสืบคุณก็โดน เล่นถึงคุกเลยนะ?
ทนายเจมส์ : "ใช่ครับ เข้าข่ายหลอกลวง ฉ้อโกง คุณแม่มีสิทธิ์ซวย อย่างน้อยแก้ต่างได้ แต่ต้องเสียเวลาไป"
แม่บีม : "อวตารพวกนี้เขาก็มี ค่าบริการ 200-500 เอาเบอร์ไปแขวน เพจนี้แหละ"
ทนายเจมส์ : "เท่าที่มองเบื้องต้น คือหนึ่งผิดพรบ.คอมพ์ การนำเข้าข้อมูลเป็นเท็จเพราะเรื่องที่เกิดไม่มีข้อมูลจริงละทำให้ประชาชนเสียหาย เพราะมีการทิ้งเลขบัญชีไว้ อย่างกรณีทาสแมว เขารักแมว เขาก็ต้องโอนไป อย่างการนำภาพพี่เขา เป็นการหมิ่นประมาทได้ด้วย กรณีที่สามจะเข้าข่ายเรื่องการถูกข่มขู่คุกคาม อะไรก็ตามทำให้เราเดือดร้อนรำคาญ แรงมากคือการยักยอกทรัพย์ เรียกเงินเพื่อแลกกับการทำลายชื่อเสียง อันนี้เป็นการเรียกรับเงินเพื่อไม่ให้ชื่อเสียงเสียหาย"
เสี่ยใหญ่ติดต่อคุณกอล์ฟ แท็กหาคุณ?
กอล์ฟ : "ผมเข้าไปคุยกับเฟซเขา พอเห็นเขาโพสต์ ผมก็เข้าไปด่า"
เขาบอกว่าซื้อบัตรทรูมูฟให้กูพันนึง เดี๋ยวกูจะเลิกเล่นรูปมึง คุณก็ส่งรูปตีนไก่ให้เขาดู ไม่ยอมจ่ายให้?
กอล์ฟ : "ไม่เอา อยากเจอหน้า ชาตินี้ขอให้ได้เห็นหน้าเถอะ อยากพูดเรื่องสื่อมาก มีสื่อบางสื่อเอารูปผมไปโพสต์เรื่องฆ่าแมว ผมอยากจะรู้ว่าคุณเช็กข่าวมาหรือยัง การเอารูปคนๆ นึงไปลงว่าฆ่าแมว แล้วไม่มีการเบลอหน้าผมเลยเห็นเต็มๆ เลย แล้วมันเดือดร้อนผม ผมทำมาหากินไม่ได้ ออกไปไหนก็ออกไม่ได้ อันตราย กลัวคนปองร้าย คนจะทำผมมันก็ไม่บอกก่อนมั้ง เดี๋ยวเจอกันนะครับไอ้สื่อตัวนี้ เอาเรื่องอยู่แล้ว ผมไม่ยอม เอารูปผมมาขึ้นเต็มหน้าเต็มจอเลย"
ทนายเจมส์ : "นักข่าวเขาเสนอข่าวตามความเป็นจริงแหละ แต่ข่าวเขายังไม่ได้เช็ก ถ้าเบลอหน้าไว้ก่อนก็ไม่เป็นไร เราเป็นลักษณะฟังข้อเท็จจริงข้างเดียว ส่วนเรื่องเฟซ ถ้าเจอลักษณะแบบนี้รายงานไปที่เฟซบุ๊กให้ระงับไปก่อนเพื่อไม่ให้เสียหายเยอะ และไปแจ้งความ เผื่อมีผู้เสียหายที่เขาไปหลอกเรื่องเงินเรื่องทอง ถ้าเจอแบบนี้เลขที่บัญชีปิดไปก่อน ไปเปิดใหม่เอา"
อยากพูดอะไร?
กอล์ฟ : "อยากพูดถึงสื่อแหละ เน้นสื่อก่อนเลย ตัวที่ทำให้ผมเดือดร้อนคือสื่อ พอโพสต์ปุ๊บเขารู้กันหมดเลย เพื่อนไม่รู้กี่สายโทรมาหาผม ส่งคลิปมาเต็มเลย ออกไปไหนก็ไม่ได้ คุณหัดเช็กให้ดีก่อน น่าจะมีมันสมองนะ เฟซจริงเฟซปลอม ผมไม่ใช่เสี่ยใหญ่ล้านเปอร์เซ็นต์"