ช่อหัวเราะถูกเทียบเด่นเหมือนอั้ม-ไม่ถือสาปารีณาแขวะ ยันไม่มีปัญหาหมอพรทิพย์

ช่อ พรรณิการ์ : เจอค่ะ เพราะในสภามีอยู่ 500 บวก ส.ว. มาเป็น 750 ก็จริง แต่พื้นที่ก็แคบ ยังไงก็อยู่ในห้องประชุมเดียวกัน แน่นอนยังไงก็มีสวนกัน เดินเข้าห้องน้ำก็สวนกันบ้าง ออกมาเซ็นชื่อก็สวนกันบ้าง แต่ว่าก็ไม่ได้สวนกันในระยะประชิด

ช่อ พรรณิการ์ : จริง ๆ ก็อยากเข้าไปทักทาย แต่มันระยะไกลกัน ไม่ได้เป็นจังหวะเหมาะที่จะทักทายกัน แต่ถ้าครั้งหน้าเจอกันในจังหวะที่พอดี ก็ทักทายได้ ไม่มีปัญหาอะไร

ช่อ พรรณิการ์ : อันนี้ก็ลำบากใจเหมือนกัน เราก็ไม่อยากดูเหมือนว่าไปหาเรื่องหรืออะไร เพราะมันก็คงปฏิเสธไม่ได้ ตอนนี้ทุกคนก็จับจ้องอยู่ เช่น คุณปารีณาลุกขึ้นอภิปราย คนก็จ้องว่าเอ๊ะ พรรณิการ์จะลุกขึ้นประท้วงหรือเปล่า จนเรารู้สึกว่าเราไม่อยากทำอะไรให้มันส่งเสริมภาพลักษณ์ว่าสองคนนี้เป็นศัตรูกันมากไปกว่านี้ เพราะในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นศัตรูอะไรกัน ยังไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ คนไม่เคยพูดกันสักคำไม่น่าจะสามารถเป็นศัตรูกันได้

ช่อ พรรณิการ์ : เรื่องที่คุณหญิงจะพูดถึงหรือไม่พูดถึงช่อ เราไม่พูดถึงแล้วกันนะคะ ถ้าคุณหญิงท่านบอกว่าไม่ได้พูดถึงก็ไม่ได้พูดถึง เพราะช่อเองที่ต้องตอบเรื่องนี้เพราะว่าลงมาจากประชุมสภาแล้วเจอนักข่าวเข้ามารุมถามเรื่องนี้ ช่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นประเด็นอยู่ ก็ถือว่าตอบนักข่าวตอบประชาชนแล้วกัน ถามว่าชุดนี้เหมาะสมหรือไม่ ต้องเท้าความว่า หนังสือแจ้งประชุมสภาบอกมาชัดเจนจริง ๆ ตามที่มีการโพสต์กันนั่นแหละค่ะ ว่าผู้ชายให้ใส่เชิ้ตขาว ไทดำ สูทดำ สุภาพสตรีให้ใส่ชุดสีดำ อันนี้พูดเลยนะว่าตั้งใจ เพราะคิดว่าถ้าผู้ชายใส่ขาวได้ ผู้หญิงก็น่าจะใส่ขาวได้หรือเปล่า ช่อก็โทร. ไปถามเจ้าหน้าที่สภาด้วยค่ะ เจ้าหน้าที่สภาก็บอกว่าเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะว่าที่ชัดเจนมีแค่ระเบียบสำนักนายกฯ เรื่องการไว้ทุกข์ของข้าราชการ ซึ่งข้าราชการให้ใส่ดำล้วน

ช่อ พรรณิการ์ : เคยค่ะ อันนี้สื่อที่เป็นเจ้าใหญ่เหมือนกันฉบับหนึ่งไปลง ซึ่งปราศจากข้อเท็จจริงอย่างแทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์เลย

ช่อ พรรณิการ์ : ถ้ามีทีมช่วยเหลือแบบนั้นจริง ๆ เราคงไม่โดนเฟกนิวส์ถล่มมากขนาดนี้นะคะ พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่โดนถล่มด้วยเฟกนิวส์ ถล่มด้วยข่าวที่ไม่เป็นจริง ข้อความตัดต่อต่าง ๆ เยอะมากถ้าเรามีทีมไซเบอร์เข้มแข็งแบบนี้จริง ๆ คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น กลุ่มที่มีไซเบอร์เข้มแข็ง น่าจะเป็นกลุ่มที่ปล่อยเฟกนิวส์ใส่เรามากกว่า ไม่ว่าจะข่าวตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง จนหลังเลือกตั้งก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ เราอ่านข่าวนี้ เรามีทีมมอนิเตอร์ข่าวคอยกลั่นกรอง เพราะเราอ่านข่าวทั้งประเทศคงไม่ไหวแน่นอน ก็เจอข่าวนี้เขาส่งมาในกรุ๊ปทันทีว่า โอ้โห นี่มันหนังไซไฟมากเลย คนทำงานมันตลก เพราะทีมสื่ออนาคตใหม่มีกันแค่ 10 กว่าคน และคนที่ทำโซเชียลมีเดีย ให้ทายว่ามีกี่คน

ช่อ พรรณิการ์ : (หัวเราะ) ทีมสื่อ 10 กว่าคน นี่รวมโซเชียลมีเดียแล้ว ในทีมสื่อก็จะมีช่างภาพ มี บก. มีคนดูเนื้อหา ประสานงานสื่อ ทีมโฆษก ทีมที่ทำโซเชียลมีเดียมีทั้งหมดทั้งสิ้น 3 คน

ช่อ พรรณิการ์ : หนึ่ง การแสดงความคิดเห็นของบุคคลต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดีย เป็นสิทธิ์ของเขาจริง ๆ เราคงห้ามไม่ได้จริง ๆ ได้แต่ขอร้องว่าเราไม่เห็นด้วยกับการใช้เฮตสปีช สร้างความเกลียดชัง การปล่อยเฟกนิวส์ การแชร์อะไรต่าง ๆ ควรที่จะดูให้ดีว่าตกลงมันจริงหรือปลอม ถ้าปลอมมันเสียหายแล้วแพร่เร็ว ทำให้คนที่เป็นต้นตอที่เป็นข่าวไม่จริงเขาเสียหายและกู้กลับคืนมายาก ก็ขอร้องมาโดยตลอด

ถ้าพูดถึงองครักษ์พิทักษ์ช่อ ช่อไม่รู้นะว่ามีถึงขนาดนั้น แต่ว่าองครักษ์พิทักษ์อนาคตใหม่ เรื่องนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มาพอสมควรเหมือนกันว่า เอ๊ะ พรรคนี้ บรรดาผู้ที่ชื่นชอบอนาคตใหม่แตะไม่ได้เลยนะ พอว่าอนาคตใหม่ก็มีคนไปตอบโต้รุนแรง ช่อว่าส่วนใหญ่ของชาวอนาคตใหม่ตอบโต้ด้วยเหตุผล และเนื้อหาสาระ เฟกนิวส์มาก็โยนข้อมูลจริงไปเป็นชุด ๆ ซึ่งเราชื่นชมในเรื่องนี้มาก จะมีก็ส่วนน้อยมากที่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ไม่ได้ไปตบตีอะไรกันนะคะ ส่วนน้อยนี้ก็กังวลและขอร้องจริง ๆ เราอยากเล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์

ช่อ พรรณิการ์ : (หัวเราะ) ไม่ได้กลัวค่ะ เพียงแต่ว่าพรรคเราเป็นพรรคใหม่ เพิ่งสร้างมาใหม่ ช่อก็ถือว่าเป็นรุ่นแรก ๆ ที่อยู่ในพรรคมาตั้งแต่ยังไม่มีชื่อพรรค เพราะฉะนั้นเวลาทำงานช่อเป็นคนพูดตรง ๆ ก็น่าจะเห็นคาแรกเตอร์เราเป็นแบบนี้ พูดตรง ๆ แรง ๆ นิดนึง เวลามีอะไรที่เราไม่เห็นด้วย ไม่ชอบ เราก็บอกว่าอันนี้ไม่ถูกต้องนะ อันนี้คุณตัดสินใจผิด ก็จะบอกตรง ๆ เลย เป็นสไตล์แบบนี้ แต่ว่าไม่ใช่แค่ช่อคนเดียวนะ ในพรรคก็ทำงานกันแบบนี้ เวลามีอะไรที่ไม่ใช่ ไม่ถูกต้อง ไม่เห็นด้วย ก็จะพูดกันตรง ๆ

ช่อ พรรณิการ์ : ไม่กลัวหรอก คุณธนาธรเป็นคนฟัง คนที่ทำงานด้วยก็จะฟังช่อ ฟังหลาย ๆ คน เวลามีใครทักท้วงอะไรก็จะชอบบ่นว่า โอ้โห หัวหน้าพรรคนี้ไม่มีอำนาจทำอะไรเลยนะ ก็บอกว่าใช่ค่ะ คุณไม่มีอำนาจอะไรค่ะ พรรคเราจะกลายเป็นพรรคเผด็จการ (หัวเราะ) ก็เป็นแบบนี้ค่ะ บรรยากาศในการทำงาน แลกเปลี่ยนกันได้ ไม่ใช่กลัวหัวหน้าพรรค กลัวเลขาฯ

ช่อ พรรณิการ์ : เรื่องนี้ขอบคุณมากที่คุณหนุ่มถามมา มีสื่อฉบับหนึ่งไปพาดหัว ซึ่งบอกเลยว่าเป็นพาดหัวที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด ส.ส. เราคนหนึ่งที่มาพูดถึงตัวเลข 120 ล้าน คือคุณเท่าพิภพ เขาบอกว่าให้ 120 ล้าน คุณเท่าพิภพก็พูดจริง ๆ แต่เขาบอกว่าเขาไม่เชื่อหรอกว่าจะมาให้จริง ๆ 120 ล้าน ถึงเวลาก็จ่าย 5 ล้าน 10 ล้าน ซึ่งก็มีหนังสือฉบับหนึ่ง ใหญ่ด้วยนะคะ ไปพาดหัวว่า ส.ส.อนาคตใหม่ กลับลำ ตอนแรกบอก 120 ต่อมาบอก 10 ล้าน ความเป็นจริงก็คือ คุณเท่าพิภพพูดว่า เขามาเสนอ 120 แต่ไม่เชื่อหรอก ถึงเวลาไม่มีตังค์มาจ่ายหรอก ให้เต็มที่ก็ 10 ล้าน ซึ่งสื่อฉบับนี้ไปพาดหัวแบบนั้น ก็ต้องตำหนิ

ช่อ พรรณิการ์ : คุณศรีสุวรรณไม่ใช่ กกต. นะคะ ไม่มีอำนาจในการเรียกช่อไปให้ถ้อยคำ คุณศรีสุวรรณไปร้อง กกต. แล้ว ถ้า กกต. เห็นว่าเรื่องนี้มีมูล กกต. จะเรียกคนที่เกี่ยวข้องไปสอบเอง ไม่ใช่หน้าที่คุณศรีสุวรรณ แต่ดิฉันก็เคารพในสิทธิคุณศรีสุวรรณที่จะไปร้องอะไรต่าง ๆ มากมายเต็มไปหมด เพียงแต่ว่าบางทีสังคมรวมถึงสื่อก็ต้องให้น้ำหนักด้วย

บางเรื่องเป็นแค่บัตรสนเท่ห์ที่ไม่มีมูลอะไรเลย เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำไม่มีอะไรขัดต่อกฎหมาย ไม่มีอะไรขัดต่อ กกต. คุณศรีสุวรรณไปร้องเดี๋ยวมันก็ตกไปเอง ไม่ต้องไปให้น้ำหนักอะไรมาก กับเรื่องที่ไม่ได้เช็กกฎหมายมาก่อน เรามีทีมกฎหมาย เราเป็นพรรคการเมือง เรารู้ว่าอะไรถูกกฎหมาย อะไรผิดกฎหมาย เราเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดไม่ได้ เพราะว่า ส.ส. เราจะไม่ปลอดภัย ผู้ซื้องูเห่าล้วนเป็นผู้มีอิทธิพล เราอยู่ในที่แจ้ง คนของเราจะโดนทำอะไรก็ได้ เพราะคนเหล่านี้มีอิทธิพลทั้งหมด ฉะนั้นความปลอดภัย ส.ส. เราก็สำคัญ