เปิดใจ!! หลวงพี่ฮีโร่ ถือปืนลูกซองวิ่งช่วยตัวประกัน (คลิป)

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.เพจเฟซบุ๊ก "โม่งดำ-Black Hood Tactical" ได้มีการเผยแพร่คลิปภาพมีความยาวประมาณกว่า 10 วินาที ซึ่งภายในคลิปดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ขณะที่มีพระภิกษุรูปหนึ่ง วิ่งผ่านกล้อง และภายในจีวรของพระรูปดังกล่าวมีการทำท่าลักษณะกำลังถือปืนยาว พร้อมกับข้อความ ระบุว่า "เวลาแอดใส่จีวรถือลูกซองวิ่งตามคนร้ายจี้ตัวประกัน มันไม่ถนัดเลยจริงๆ มีจีวร แบบTacticalขายบ้างไหมแอดว่าจะซื้อมาใส่จีวรแบบเก่าใส่วิ่งแล้วรู้สึกจะบินตลอดเลย #หลวงพี่12เกจ #พรุ่งนี้สึกแล้ว #ไม่ได้ตั้งใจไปเจอ #เวรกรรมพาไปล้วนๆ #โม่งดำ" จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากในโลกออนไลน์

 

จากการตรวจสอบพบว่าพระที่อยู่ในคลิป แท้จริงเป็นตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจ.นครสวรรค์ แต่ขอลาไปบวชศึกษาธรรมะเป็นเวลา 20 วัน และช่วงในระหว่างนั้นได้ไปเจอกับเหตุการณ์ ของสามีหึงหวงภรรยาบุกเอามีดไปจี้คอภรรยาของตัวเองภายในสำนักงานปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ทำให้พระรูปดังกล่าวต้องเข้าให้การช่วยเหลือในการไล่ติดตามจับกุมคนร้าย

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เป็นเหตุกาณ์ที่ นายเอื้อน อัตถะ อายุ 60 ปี สามีใช้มีดปลายแหลมบุกจี้ นางสำเริง วงษ์มณี อายุ 58 ปี ภรรยา ที่แยกกันอยู่เพื่อขอคืนดี  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครสวรรค์ได้เข้าระงับเหตุ ระหว่างนั้นหลวงพี่คนดังกล่าวซึ่งเป็นพระในคลิป และเป็นตำรวจของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ บวชเป็นพระแห่งหนึ่งในอ.โกรกพระ ได้มาซื้อปัจจัย และอยู่ในเหตุการณ์พอดี ขณะที่ตำรวจได้เกลี้ยกล่อมคนร้ายอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ พระดังกล่าวจึงตัดสินใจเข้าร่วมปฏิบัติการ และยืมปืนลูกซอง และเสื้อเกราะของเพื่อนในหน่วยเข้าช่วยเหลือตัวประกัน กระทั่งสุดท้ายนายเอื้อนจึงยอมปล่อยตัวภรรยาออกมาจากสำนักงาน ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจถือมีดที่พกมา วิ่งหนีฝ่าวงล้อมตำรวจ จนทำให้ต้องไล่จับกันอย่างจ้าละหวั่นตามในคลิป และสามารถควบคุมตัวไว้ได้ และนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านหลวงพี่ในคลิป ซึ่งทราบว่าเป็นตำรวจระดับยศจ่า  เปิดเผยเพียงชื่อเล่น ชื่อ "ก๊อฟ" ซึ่งเป็นตำรวจในสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.นครสวรรค์ กล่าวว่า วันนั้นตนยังบวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.โกรกพระ  ขณะซื้อปัจจัยอยู่ ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนจึงได้อาสาขอช่วย ถึงแม้ตนจะยังบวชเป็นพระอยู่แต่ก็อยากทำตามหน้าที่ด้วย สัญชาตญาณของตำรวจ  ตอนนั้นก็เข้าใจว่าเป็นพระอยู่นะ แต่ภายในจิตใต้สำนึก หากไม่เข้าช่วย แล้วเกิดความสูญเสียขึ้นมาจะรู้สึกว่าผิดมาก ถ้าหากมีโอกาสแล้วไม่เข้าไปช่วยเหลือซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น ก็ได้กลับวัดไปทำอาบัติ ส่วนตอนนี้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษเหมือนเดิม เนื่องจากเพิ่งสึกออกจากพระไปเมื่อวานนี้( 10 ก.ค.)และต้องขอปิดหน้าในการให้สัมภาษณ์เพราะผมเป็นตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในเชิงลับ