เปิดวงจรปิด !! ชนวนเหตุฆ่าลูกน้อง “แจ๊ส ชวนชื่น”(คลิป)
หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด ข่าว เหตุการณ์ การเมือง เปิดวงจรปิด !! ชนวนเหตุฆ่าลูกน้อง “แจ๊ส ชวนชื่น”(คลิป)
คดีฆ่าลูกน้อง “แจ๊ส ชวนชื่น” แม้ว่าเวลานี้ผู้ต้องหาจะเข้ามอบกับตำรวจแล้ว แต่คำให้การของทั้ง 2 ฝ่าย ยังมีรายละเอียดหลายจุดที่ไม่ตรงกัน ทีมข่าวพีพีทีวี พยายามค้นหาข้อเท็จจริง จนไปพบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นชนวนเหตุของการทะเลาะวิวาท
วงจรปิดชุดนี้ทีมข่าวพีพีทีวีได้รับมาจากการลงพื้นที่วันนี้ ตามภาพได้บันทึกเหตุการณ์ ไว้เมื่อเวลา 23.04 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคม 2562 ปรากฏรถยนต์จำนวน 3 คัน กำลังรอกลับรถพร้อมกันบริเวณจุดกลับรถถนนนิมิตใหม่ใกล้กับซอยนิมิตรใหม่ 6/1 คันแรก คือรถกระบะขับมาปกติ ส่วนอีก 2 คันเป็นรถเก๋งคล้ายกับวิ่งแข่งกันมาเมื่อมาถึงจุดกลับรถบริเวณนี้ รถทั้ง 2 คัน พยายามแย่งกันกลับรถ จังหวะนี้ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันขึ้น
ทีมข่าวพีพีทีวีได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่ารถของนายเสฎฐวุฒิ จิรัฐยารังษี ผู้ต้องหา คือ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ ที่สามารถกลับรถได้ก่อนและใช้ความเร็วพุ่งออกไป ส่วนคันที่วิ่งตามหลังคือ ฮอนด้า ซิตี้ รถของเพื่อนผู้เสียชีวิต พยายามเร่งเครื่องตามไปและจังหวะนี้ได้หลุดออกจากรัศมีกล้องวงจรปิด
ทีมข่าวพีพีทีวีนำภาพชุดนี้ไปประกอบกับข้อมูลที่ได้รับพบว่า หลังเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบริเวณจุดกลับรถ นายเสฎฐวุฒิ ผู้ต้องหา ไม่ได้หยุดลงรถเพื่อลงไปเจรจากับเพื่อนผู้เสียชีวิตที่เป็นคู่กรณี โดยอ้างว่า ในเวลานั้นอยู่ในอาการมึนเมา กลัวความผิด จึงเร่งรีบหลบหนีเข้าบ้าน
สาเหตุที่ตัดสินใจรีบหลบหนีเข้าบ้าน โดยตรงไปตามถนนนิมิตใหม่ และจึงกลับรถเข้าซอยนิมิตรใหม่ 14 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านตัวเองและแจ็ส ชวนชื่น โดยช่วงทางเข้าหมู่บ้านสังเกตเห็นว่ามีเพื่อนของคู่กรณีหลายคน นั่งดื่มเหล้าอยู่ที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้าน เรื่องนี้ฝ่ายผู้ต้องหาไม่ได้ขยายความ แต่หากเป็นไปตามนี้ก็เป็นได้ว่า ผู้ต้องหา รู้ว่ารถตัวเองเฉี่ยวชนกับใครมาก่อน และรู้จักเพื่อนของคู่กรณีเป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่จุดชนมาถึงจุดนี้ ผู้ต้องหายืนยันว่า ไม่ได้หยุดรถลงไปเจรจากับคู่กรณีเลย
ขณะเดียวกันคู่กรณีซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต สังเกตุเห็นผู้ต้องหาขับรถหนีเข้าไปในหมู่บ้าน จึงรีบไปบอก นายพรชัย ดีเสือ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกน้องของแจ๊ส ชวนชื่น ที่นั่งดื่มเหล้าอยู่กับกลุ่มเพื่อนหน้าหมู่บ้านให้ตามเข้าไปช่วยเจรจา
บริเวณหน้าบ้านจุดเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่จุดที่สามารถเห็นเหตุการณ์ได้ทั้งหมด 3 ตัว แต่น่าเสียดายกล้องวงจรปิดของแจ๊ส ชวนชื่น ไม่สามารถบันทึกภาพได้ ซึ่งก่อนหน้านี้แจ๊สอ้างว่าหนูกัดสายไฟ จึงไม่เห็นเหตุการณ์ที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนผู้ตายจะเสียชีวิต
แต่หากเป็นไปตามข้อมูลของฝั่งผู้ต้องหา ได้อ้างว่า ผู้เสียชีวิตเข้ามาหาเรื่องภายในบ้านและมีการใช้ถ้อยคำที่หยาบคายรุนแรง พร้อมกับพยายามเข้ามาทำร้ายร่างกาย จึงจำเป็นต้องป้องกันตัว เพราะมีภรรยา ลูก และแม่ที่อยู่ภายในบ้าน ส่วนกระถางต้นไม้ผู้ต้องหาปฏิเสธว่า ไม่ได้ใช้ทุบใส่ผู้ตายจนเสียชีวิต แต่เวลานั้นอยู่ในอาการเมาและบันดาลโทสะ จึงหยิบจับของทุกอย่างใกล้ตัว เขวี้ยงใส่ผู้ตาย
ขณะที่การเคลื่อนย้ายศพจากหน้าบ้านตัวเองไปที่หน้าบ้านของ “แจ๊ส ชวนชื่น” แม่ของผู้ต้องหาอ้างว่าพยายามพาผู้บาดเจ็บ ซึ่งขณะนั้นยังมีชีวิตไปถามคนในบ้านของ แจ๊ส ว่า รู้จักผู้บาดเจ็บหรือไม่ แต่คนในบ้านบอกว่าไม่รู้จัก จึงให้ลูกสะใภ้โทรศัพท์แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือและกลัวว่าลูกชายของตัวเองจะมาก่อเหตุและทำรุนแรงกับผู้เสียชีวิตซ้ำอีก
ขณะที่การเคลื่อนย้ายศพจากหน้าบ้านตัวเองไปที่หน้าบ้านของ “แจ๊ส ชวนชื่น” แม่ของผู้ต้องหาอ้างว่าพยายามพาผู้บาดเจ็บ ซึ่งขณะนั้นยังมีชีวิตไปถามคนในบ้านของ แจ๊ส ว่า รู้จักผู้บาดเจ็บหรือไม่ แต่คนในบ้านบอกว่าไม่รู้จัก จึงให้ลูกสะใภ้โทรศัพท์แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือและกลัวว่าลูกชายของตัวเองจะมาก่อเหตุและทำรุนแรงกับผู้เสียชีวิตซ้ำอีก
ประเด็นนี้คนในบ้านของแจ๊ส บอกว่าไม่เป็นความจริง เพราะผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่คนในบ้านว่าอย่าเข้ามายุ่งไม่งั้นจะใช้ปืนยิง จึงไม่มีใครกล้าออกไปช่วยเหลือ รอจนตำรวจและกู้ภัยมา จากนั้นก็พบว่าผู้ต้องหาได้หนีไปแล้ว
ขณะที่วันนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้มาเชิญดวงวิญญาณในจุดเกิดเหตุ และขออโหสิกรรมให้ผู้ต้องหา โดยภรรยาของผู้เสียชีวิตบอกว่าสามีเป็นเสาหลักของบ้าน
หลังจากนี้คงลำบากเพราะต้องเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว ส่วนแม่ของผู้เสียชีวิตอยากให้ผู้ต้องหาไปมาขอขมาศพลูกชาย
หลังจากนี้คงลำบากเพราะต้องเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว ส่วนแม่ของผู้เสียชีวิตอยากให้ผู้ต้องหาไปมาขอขมาศพลูกชาย
ชมคลิป
VVVVV
V
VVVVV
V
VVV
VVV
VV
VV
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น