พลิกอีกมุม สนบ.เชียงใหม่ งัดกล้องโต้ หนุ่มแกร็บคาร์โวย ถูก จนท.ล็อคตัวทำร้าย
โดยนายสุชาติ ไชยประยา อายุ 39 ปี เล่าว่า ขับแกร็บคาร์ไปรับผู้โดยสารต่างชาติภายในสนามบินเชียงใหม่ ต่อมาถูก รปภ.สนามบินเชียงใหม่พร้อมเจ้าหน้าที่การท่า มาเคาะกระจกและล้อมรถตนไว้ ซึ่งตนก็ไม่ยอมลดกระจกลง และไม่ยอมลงจากรถ ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปเรียกพนักงานการท่าอากาศยานเชียงใหม่ใหห้มาพูดคุยกับชาวต่างชาติที่โดยสารรถตนให้ลงจากรถ ก่อนจะควบคุมตัวตนเองไปสอบสวนที่ห้องศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยภายในการท่านานกว่า 3 ชั่วโมง
ตนรู้สึกว่าความผิดตนเองไม่ร้ายแรง ถึงขนาดต้องกักขังกันขนาดนี้ ตนจึงพยายายามหลบหนีและยอมรับผิด แต่เมื่อเห็นตนหลบหนีทางเจ้าหน้าที่ รปภ. จึงได้ช่วยกันคุมตัวตนเองลากเข้ามาในห้องก่อนจะลงมือซ้อมตนเองทั้งแตะและต่อยจนตนเองได้รับบาดเจ็บพกช้ำตามร่างกาย โดยตามร่างกายมีรอยพกช้ำ คอมีรอยแผล ด้านหลังมีร่องรอยช้ำ ซึ่งแพทย์ได้นำตัวไปเอกซเรย์ 2 รอบแล้วและให้นอนดูอาการว่ากระดูกด้านหลังจะหักหรือไม่เนื่องจากตนมีอาการปวดหลังมาก อย่างไรก็ตามตนก็ยอมรับผิดว่าตนเข้าไปรับผู้โดยสารในสนามบิน แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่สมควรที่จะทำร้ายตนขนาดนี้ จึงอยากร้องขอความเป็นธรรม
ล่าสุด นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ชี้แจงว่า ช่วงเกิดเหตุ จนท.ได้แสดงตัวขอตรวจสอบแต่นายสุชาติไม่ยินยอมและขับรถหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตาม โดยนายสุชาติได้ด่าทอดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่และมีการขัดขืน จึงนำตัวไปแจ้งข้อหา นำยานพาหนะโดยสารที่ไม่มีผู้โดยสารเข้ามาในเขตท่าอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาต จอดรถกีดขวางทางจราจรภายในเขตท่าอากาศยาน และแนะนำให้ผู้โดยสารใช้ยานพาหนะรับจ้างที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ทอท.
แต่นายสุชาติปฏิเสธการจ่ายค่าปรับ และส่งเสียงดังสร้างความรำคาญภายในอาคารผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์มารับตัวไป เพื่อแจ้งข้อหาและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ขอยืนยันว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายหรือข่มขู่คุกคามนายสุชาติแต่ประการใด โดยมีภาพทั้งจากกล้อง CCTV และภาพวิดีโอที่เจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้พบเห็นเหตุการณ์บันทึกไว้หลายคลิป ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่จะได้นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป