เงียบกริบ! ฝรั่งสีลมหาย ผวา! บึ้มกลางกรุง ต่างชาติมองขัดแย้งการเมือง (คลิป)
จุดที่พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณทางขึ้น BTS สถานีศาลาแดง ถนนสีลม โดยพบเป็นวัตถุลักษณะทรงสี่เหลี่ยมบริเวณทางขึ้นบันไดเลื่อน ภายหลังตรวจแล้วพบว่าเป็นเพียงกล่องใส่นาฬิกา จากเหตุที่เกิดขึ้นทำให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส สั่งให้มีมาตรการเพิ่มความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง ห่างจากจุดพบระเบิดที่บริเวณสถานีช่องนนทรี ไม่มากนัก โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศจุดบริเวณช่วงดังกล่าวหลังเกิตเหตุค่อนข้างเงียบเหงา ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจร ต่างจากในปกติที่ผ่านมา
โดยนายอ้วน คนดูแลคิวรถตู้ ซึ่งประจำตรงป้ายรถห่างจากจุดเกิดเหตุราว 50 เมตร ระบุว่า วันนี้ถือว่าคนมาใช้บริการน้อยลง บรรยากาศค่อนข้างเงียบ มีลูกค้าหลายคนสอบถามว่าปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งตนก็ต้องให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่ายังคงให้บริการตามปกติ ส่วนเหตุที่ยังคงให้บริการอยู่ เนื่องจากห่วงลูกค้าจะเดินทางกลับบ้านด้วยความยากลำบาก
สำหรับบริเวณใต้สถานีศาลาแดง ซึ่งปกติถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติมาจำนวนมาก วันนี้พบว่ามีนักท่องเที่ยวบางตาลง รวมทั้งบรรยากาศบนท้องถนน การจราจรไม่ติดขัด ซึ่งผิดกว่าช่วงปกติของถนนสีลม ที่รถจะติดเป็นประจำ
ส่วนสถานประกอบการ รวมทั้งแผงค้าส่วนใหญ่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เช่นเดียวกับนางทิพย์รัตน์ ฉัตรแก้วสมบูรณ์ ผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์ ระบุว่า เหตุการณ์ความไม่สงบส่งผลต่อการท่องเที่ยวแน่นอน ทำให้นักท่องเที่ยวบางตาลงเห็นได้ชัด ซึ่งส่วนตัวยังคงมาเปิดแผงค้าเนื่องจากถ้าตนไม่มาทำ ก็ไม่มีรายได้ ยอมรับว่ากลัว ครอบครัวก็ห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่ตนก็ทิ้งไม่ได้ หากไม่ทำก็ไม่มีกิน
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัย ตลอดถนนนราธิวาส ต่อมาจนถึงถนนสีลม ไม่พบมีการตั้งด่านตรวจรถเข้าออกพื้นที่แต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก เดินตรวจพื้นที่สร้างความมั่นใจให้กับนั่งท่องเที่ยว กระจายทั่วพื้นที่สีลมตลอดทั้งคืน
สำหรับความคืบหน้าเหตุวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย คือ นายลูไอ แซแง และนายวิลดัน มาหะ
โดยจากการสืบสวนหลังก่อเหตุพบว่าได้เดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าในบริเวณใกล้เคียงเพื่อเปลี่ยนชุดที่สวมก่อเหตุ ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่ไปที่สวนจตุจักร หลังจากนั้นต่อรถไปที่หมอชิตเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะเดินทางต่อไปภาคใต้ กระทั่งถูกจับกุมตัว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สื่อต่างประเทศรายงานข่าวออกไปทั่วโลก เช่น เดลี่เมล์วิเคราะห์ ถึงสถานการณ์เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยว่าเป็นไปอย่างหละหลวม เนื่องจากประเทศไทยอยู่ระหว่างการจัดประชุมผู้นำอาเซียน
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ วิเคราะห์ว่า สถานการณืที่เกิดขึ้นอาจทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทย (อ่านรายงานข่าวจากเว็บไซต์รอยเตอร์
ด้านเซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ วิเคราะห์ว่า ปมที่เกิดขึ้นมาจากความขัดแย้งทางการเมือง (อ่านรายงานจาก เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์