เปิดใจมนุษย์กินฉี่ เชื่อ! แข็งแรง-สวยใส อวดสรรพคุณรักษาโรคชะงัด (คลิป)

จากกรณีโลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจและถกเถียงกันเกี่ยวกับโพสต์ของสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่โพสต์ลงกลุ่ม มหัศจรรย์น้ำปัสสาวะ ยาดีที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 61 เกี่ยวกับการนำปัสสาวะมาหยอดตา และอาบน้ำเพื่อการรักษา

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 62 - ดร.ใจเพชร กล้าจน ประธานมูลนิธิแพทย์วิถีธรรมแห่งประเทศไทย และสมาชิก ได้ร่วมพูดคุยในรายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศทางอมรินทร์ทีวี ช่อง 34 โดยอ้างว่าใช้ปัสสาวะเพื่อดื่มเป็นยารักษาโรค

ทั้งนี้ มีผลการวิจัยจาก 20,000 กว่าคน ที่ใช้ปัสสาวะในการรักษาโรค แต่ยังไม่มีการรับรองทางวิทยาศาสตร์ โดยผู้ที่ใช้ปัสสาวะมีหลากหลายอาชีพ รวมถึงศิลปิน ดารา ไฮโซ นักบิน นักศึกษาปริญญาเอก ทนายความ อัยการ ผู้พิพากษา โดยใช้รักษาได้หลายโรค

เปิดใจมนุษย์กินฉี่ เชื่อ! แข็งแรง-สวยใส อวดสรรพคุณรักษาโรคชะงัด (คลิป)

ขณะที่ นายใจถึงพุทธ เสียงแจ่ม ผู้ใช้น้ำปัสสาวะรักษาโรค เตรียมปัสสาวะบรรจุขวดแก้วใสมาดื่มระหว่างรายการพักโฆษณาแทนการดื่มน้ำ โดยบอกว่ารู้สึกสดชื่น รวมถึงมีขวดที่บรรจุน้ำปัสสาวะของตัวเอง ผสมกับปัสสาวะของ ดร.ใจเพชร ซึ่งเป็นอาจารย์ที่นับถือ เนื่องจากเชื่อว่าปัสสาวะของผู้ที่เข้าถึงทางธรรมเป็นสิ่งดี

ขณะที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์นักคิด พระวัดสร้อยทอง กล่าวว่า ผู้ที่อ่านหนังสือแล้วเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนให้กินปัสสาวะเพื่อรักษาโรค เป็นความเชื่อที่ผิด ความจริงแล้วต้องเป็นปัสสาวะของวัวที่ผ่านการหมักกับลูกสมอ ไม่ใช่ปัสสาวะของมนุษย์

นางดวงพร ช่วยคงมา ผู้ใช้น้ำปัสสาวะรักษาโรค เปิดเผยว่า ตนเคยดื่มน้ำปัสสาวะเพื่อรักษาอาการไทรอยด์ และใช้ต่อเนื่องมาตลอด ทั้งนี้ ที่สังคมแชร์ภาพของตน มีการเปรียบเทียบใบหน้าตั้งแต่ปี 2554 ที่ตนยังไม่ได้เริ่มใช้ปัสสาวะ กับภาพปัจุบัน แล้วมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและหยาบคายนั้น ตนไม่รู้สึกโกรธ และเชื่อว่าที่ใบหน้าดีขึ้นเพราะการดื่มปัสสาวะ

นอกจากนี้ นางดวงพร เปิดเผยหลังจบรายการต่างคนต่างคิดว่า จากที่มีกระแสคนที่ไม่เห็นด้วย มาคอมเมนต์รูปของตน ส่วนมากเป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ตนคือผู้ปฎิบัติธรรมที่ถูกฝึกให้จิตแกร่ง และสิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดา ตนคิดเสมอว่าสิ่งที่ตนได้เผยแพร่ลงโซเชียลนั้น ถือเป็นความจริงที่ตนได้ปฎิบัติ และไม่ได้ไปบังคับให้ใครต้องทำตาม

และการนำเสนอเรื่องของน้ำปัสสาวะ ก็คือธรรมมะอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ การแชร์ความรู้และแบ่งปันความจริงที่ตนสัมผัสเพื่อให้ทุกคนอ่าน แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญานของแต่ละบุคคล และตนมองว่าเขายังไม่เข้าใจในเรื่องบุญมากพอ

ด้าน นางณัฐพร คงประเสริฐ หรือ ต้อม จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม อดีตพยาบาลวิชาชีพ เปิดเผยว่า ตนใช้ปัสสาวะมา 7 ปีแล้ว เคยมีปัญหาสุขภาพ ไขมันในเส้นเลือดสูง น้ำหนักตัวมาก เสี่ยงเป็นเบาหวาน โรคหัวใจ ความดัน จึงมาเข้าค่ายแพทย์วิถีธรรมใช้ปัสสาวะปรับสมดุลร้อนเย็นของร่างกาย แล้วใช้ดื่มปัสสาวะ และสวนล้างลำไส้ใหญ่ ไขมันในเส้นเลือดสูงก็ดีขึ้น ภายใน 1 เดือน รวมถึงใช้กับบาดแผลสด มีดบาด แผลพุพอง มดกัดก็ได้

ทั้งนี้ ตนดื่มเป็นประจำทุกวัน ดื่มได้ทั้งวัน โดยเฉพาะตอนเช้าก็จะไม่พลาด ทำให้ร่างกายสดชื่น รวมถึงใช้ทาหน้า สระผม และอาบน้ำแปรงฟันตอนเช้า หยอดตา ปาก หู จมูก ทาผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย โดยไม่เคยใช้ยาปฏิชีวนะ ส่วนในค่ายก็ใช้ปัสสาวะรักษาคู่กับหลักธรรมะด้วย

น.ส.สุวรรณา ทิพวรรณ หรือ ออน จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม อดีตพยาบาลวิชาชีพ เปิดเผยว่า ตนใช้ปัสสาวะมานาน 7 ปี หลังเข้าค่ายแพทย์วิถีธรรม อบรม 5 วัน เริ่มใช้ทาหน้า ตื่นเช้ามาหน้านุ่มขึ้น ใช้อาบน้ำสระผม แทนสบู่และแชมพู ใช้ดื่มทุกวัน ตนเคยใช้รักษาตาแดง ตากุ้งยิง หยอดตาเช้าเย็น 1-2 วันก็หาย รวมถึงสายตาสั้น ก็ทำให้สายตาดีขึ้น และใช้ล้างแผลด้วย

ทั้งนี้ ตนเชื่อในหลักการของพระพุทธเจ้าที่บอกว่าใช้เป็นยารักษาโรค ส่วนการที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ แล้วทำให้เกิดความกลัวเรื่องเชื้อโรค ก็อยู่ที่สภาพจิต หากมีความกลัว แล้วปัสสาวะออกมา ก็จะส่งผลต่อคุณภาพของน้ำปัสสาวะด้วย

น.ส.พยอม ขวัญเชื้อ หรือ เป็ด จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม อดีตพยาบาลวิชาชีพ เปิดเผยว่า ตนใช้น้ำปัสสาวะมา 4 ปี ตั้งแต่ยังเป็นพยาบาล ใช้ดื่ม และหยอดตา จมูก สวนล้างสำไส้ ซึ่งเริ่มจากการอ่านหนังสือที่พระพุทธเจ้าให้พระภิกษุดื่มเพื่อรักษาตัวเอง ตนเคารพศรัทธา และดื่มน้ำปัสสาวะโดยไม่ลังเล แล้วใช้รักษาริดสีดวงทวาร ตนมีอาการถ่ายเป็นเลือด รู้สึกปวดบวม แต่รู้สึกอายที่จะไปหาหมอ จึงใช้น้ำปัสสาวะแช่ก้น อาการบวมอักเสบก็ลดลง เลือดก็หยุดไหล

ทั้งนี้ มีครั้งหนึ่งที่ตนทำงานเป็นพยาบาลอยู่ แล้วไอเป็นเลือด จึงเข้าห้องน้ำไปปัสสาวะเพื่อนำมาดื่ม อาการก็ดีขึ้น เลือดหยุดไหลทันที นอกจากนี้น้ำปัสสาวะยังช่วยขับเสมหะได้ดี และยืนยันว่าไม่เคยใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งหมอก็ให้ยาพ่น แต่ตนไม่ใช้