ดราม่าไม่จบ! กลุ่มชาวพุทธฯ ชี้! ภาพพระอุลตร้าแมน หมิ่นศาสนา เจ้าของภาพสวนเดือด
กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดินเกิดได้ไง ใครก่อตั้ง?
จรูญ : "เกิดขึ้นมาเพราะเรามองเห็นสถานการณ์พระพุทธศาสนาถูกย่ำยีหลายเรื่อง เราเลยตั้งกลุ่มขึ้นมาเที่ยวพยายามฟ้องความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับศาสนาทั้งหมด ตอนนี้ฟ้องไป 200 กว่าเรื่องแต่ไม่ดัง"
มองข้ามไม่ได้เลยเหรอ?
จรูญ : "ไม่ได้ อันนี้มันคือเชื้อโรคที่จะลุกลามไปในอนาคต"
ย้อนไปมองเจตนาน้อง คุณมองยังไง?
ฝั่งคุณยืนยันนี่คือทรัพย์สินที่เกิดจากการกระทำความผิด?
จรูญ : "ไม่ได้ผิดเฉพาะพรบ.กับกฎหมาย 206 นะ ไม่เกี่ยวกับคน 206 คือลบหลู่เหยียดหยามศาสนา มันก็ผิดอยู่แลว แล้วมีพ่วงกฎหมายลิขสิทธิ์ ตัวนี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาด้วยจินตนาการของคนๆ เดียว มันเป็นการก็อบภาพสองภาพมาซ้อนกัน อันนึงเป็นอุลตร้าแมน อันนึงเป็นพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นของพระพุทธาสนา กฎหมายลิขสิทธิ์คุณจะทำซ้ำดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ ถ้าเป็นหนังสือผมฟ้องไปแล้ว โรงพิมพ์ขนาดใหญ่ติดคุก"
ยืนยันว่าไปแจ้งความเรียบร้อย 5 คน เด็กที่วาด, อาจารย์ที่ปรึกษา,ผอ.เจ้าของสถานที่ที่ไปโชว์,อาจารย์เฉลิมชัย,ทนายเดชา?
จรูญ : "เรียบร้อยครับ"
ฝั่งนี้เขาเกี่ยวอะไร?
จรูญ : "เกี่ยวสิ อยู่ในคลิปทนายเดชา ทนายเดชาบอกว่าขำ เด็กไม่ผิด เข้ามาตรา 85 ผู้ใดโฆษณาประกาศให้บุคคลทำความผิด มันไม่ได้เกี่ยวทนายมาลบหลู่นะ แต่ผมให้เครดิตว่าทนายเดชาเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม แล้วมาประกาศต่อชาวโลกว่าแบบนี้ไม่ผิด มันเป็นการสร้างสรรค์ เป็นผู้ประกาศโฆษณาให้ผู้อื่นกระทำความผิดต่อไป"
เด็กเองก็กราบขอโทษไปแล้ว น่าจะจบ ทำไมกลุ่มชาวพุทธยังออกมาอีก?
จรูญ : "รูปยังอยู่นี่ ยังไม่จบ"
ต้องเผาเหรอ?
จรูญ : "แล้วแต่ศาลว่าเขาจะสั่งว่ายังไง แต่เราต้องการให้ทำลาย ของละเมิดลิขสิทธิ์หรือของกระทำความผิดมันใช้ไม่ได้อยู่แล้ว"
ปกรณ์ : "ลิขสิทธิ์ภาพอุลตร้าแมนทั้งหลายทั้งปวงที่พี่เอามาอ้าง ถ้าคนจะแจ้งเอาผิดต้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ครับ ไม่ใช่กลุ่มพี่เป็นคนแจ้ง เจ้าของลิขสิทธิ์เขายังไม่ได้ออกมาพูดอะไรเลย มีแต่กลุ่มชาวพุทธที่จำชื่อไม่ได้ พูดไปเอง รอให้เจ้าของเขาออกมาแจ้งก่อนครับ"
จรูญ : "เราชี้ประเด็น แต่เราไม่มีสิทธิ์ไปฟ้องหรอก แต่เรามีเอี่ยวเพราะเราเป็นชาวพุทธ"
แจ้งอะไร?
จรูญ : "แจ้งหมิ่นศาสนา ทำปู้ยี่ปู้ยำ ทำให้เราไม่สบายใจ เวลาเห็นคุณเอารูปเคารพของเรา รูปเป็นเค้าโครงศาสดาของเราไปปู้ยี่ปู้ยำ มันย่ำยีจิตใจ"
น้องบอกเจตนาดี?
จรูญ : "เจตนาคนละเรื่อง กฎหมายเขาขีดเส้นให้อยู่ คุณจะอธิบายยังไงก็ช่าง"
ทนายเดชา ว่าไง เด็กวาดรูปแบบนี้?
เดชา : "มันไม่มีความผิดอะไรเกี่ยวกับการเหยียดหยามศาสนา เพราะมาตรา 206 มันเขียนไว้ชัด ไม่ต้องไปตีความหรอก เขาบอกว่าผู้ใดกระทำการใดๆ แก่วัตถุ พระพุทธรูป วัด ศาลาก็ว่าไป ภาพวาดมันไม่มีนี่ การตีความกฎหมายอาญาก็ตีความเคร่งครัด"
เขาชี้แจงมาแบบนี้?
จรูญ : "คนตัดสินไม่ใช่เราสองคน เป็นศาล"
เดชา : "เขาไม่เรียกผมหรอกเชื่อดิ เดี๋ยวก็สั่งไม่ฟ้อง ชัดเจนอยู่แล้ว คนเรียนจบเนติบัณฑิต กองปราบหลายคนก็จบเนติบัญทิต เขาตีความจากตัวบทกฎหมาย จากศาลฎีกา มันไม่ครบองค์ประกอบภายนอก ไม่มีการกระทำกับวัตถุที่เขาเรียกว่าศาสนวัตถุ ก็ไม่ต้องดูหรอกน้องเขาทำไปเพื่ออะไร เจตนาเพื่ออะไร ใครจบเนติบัณฑิตก็รู้อยู่แล้ว มันก็จบที่กองปราบ"
ฝั่งดร.บอกว่าไม่เหมาะ ไม่ควรมันเกิดขึ้น กับภาพที่ออกไป ต่อไปอาจมีเด็กวาดแบบนี้ได้อีก?
เดชา : "คำว่าเหมาะสมไม่เหมาะสมต้องให้วิญญูชนทั่วไป ไม่ใช่องค์กรนี้หรือองค์กรใดมาชี้ว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ไปดูความเห็นในโซเชียลสิ"
เขาไปประมูล 6 แสน อีกหน่อยก็สร้างมาอีกและเอามาขายอีก ?
เดชา : "มันก็เป็นเสรีภาพของเด็กเยาวชนก็เป็นหน้าที่ครูบาอาจารย์ไปอบรมสั่งสอน อันไหนไม่ดีก็ตัดออก แนะนำตักเตือนไป ไม่ใช่พอเด็กวาดรูปอะไรผิดพลาดแล้วไปแจ้งตร.จับ ผมไม่เห็นด้วยนะ หลักศาสนาพุทธต้องมีเมตตาธรรม"
จรูญ : "พูดแบบนั้นไม่ได้ เวลาทำผิดแล้วไม่ให้เราเอาผิด บอกว่าเมตตาธรรมไม่ได้ ต้องบอกทนายอย่างนี้ ดุลยพินิจของศาลหรือตร.จะบอกว่าศาลสั่งไม่ฟ้องจะบอกว่าถูกทั้งหมดไม่ได้ ตอนนี้ผมฟ้องตร.ชุดจับกุมพระ 7 องค์ อันนี้เราฟ้องตร. 17 นาย"
แต่ความผิดมันต่างกัน?
เดชา : "ไม่เหมือนกันเลย คนละเรื่องกันเลย"
จรูญ : "ที่พูดให้ฟัง เราจะบอกว่าตร.สั่งไม่ฟ้องแล้วไม่ผิดมันไม่ได้ ตอนนี้สังคมทั่วประเทศดราม่ามาเรื่องนี้ น้องเขารู้ตัว ถ้าไม่รู้ตัวเอาออกทำไมล่ะ"
จรูญ : "แสดงว่าผู้ใหญ่พวกนั้นก็ทำผิดกฎหมาย"
ปกรณ์ : "เขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่เขาใช้จริตส่วนตัวไปพิพากษาเด็กเรียบร้อยแล้ว พวกนี้ลากเด็กมาเผากลางแจ้ง มันคือการล่าแม่มด ซึงมันไม่แฟร์กับเด็กคนนี้ เอาเด็กมานั่งขอโทษร้องห่มร้องไห้ออกทีวีทั่วประเทศ ผมมองว่าผมสะเทือนใจมาก แต่พระผู้ใหญ่ที่โคราชก็ดีนะ ก็ไม่ได้ว่าอะไร เป็นการให้ทานอีกรูปแบบนึง ให้กลับไปใช้ชีวิตต่อไป สิ่งที่เหลือคือพวกผมคือผู้ใหญ่ที่เป็นคนซื้อภาพ จากนี้จะเป็นการเยียวยาเด็กคนนี้ มาใช้ชีวิตได้ต่อ การโดนเอามาประจานแบบนี้ไม่แฟร์ พวกผมจะดูแลน้องเอง"
จรูญ : "ก็แล้วแต่จะคิดยังไง เรากับเขามันคนละมุมมองอยู่แล้ว"
ปกรณ์ : "พี่ต้องใช้คำว่าคนละเจน จะใช้ความเป็นผูใหญ่ไปขีดเส้นให้เด็กเดินตามไม่ได้ เด็กรุ่นใหม่ต้องมีสิทธิ์เลือกนับถือของเขาเอง"
จรูญ : "ถ้าคุณเขียนเรื่องอื่น เขียนนวนิยายเรื่องอื่นผมจะไม่ยุ่ง แต่นี่คุณมาก้าวก่ายศรัทธาของเรา"
ปกรณ์ : "ผมย้อนถามนิดนึง พระพุทธรูปแรกเกิดหลังพระพุทธองค์เสียไปแล้ว 500 กว่าปี สิ่งที่พระพุทธองค์ทิ้งไว้มีแค่คำสอน มีแต่มนุษย์สมมติขึ้นมาและกราบไหว้กันขึ้นมา สองพันกว่าปีที่ผ่านมา พระพุทธรูปมีปางต่างๆ มากมาย พี่ก็ไหว้ตามที่คนโบราณบอกให้ไหว้ตามกันมา แต่ถ้าเด็กรุ่นใหม่เขาจะกำหนดอัตลักษณ์พระพุทธองค์ตามความเข้าใจของเขา เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขา พระพุทธองค์ทิ้งไว้แค่คำสอน ไม่ได้ทิ้งสรีระหรือรูปลักษณ์ไว้ให้"
จรูญ : "รูปลักษณ์ต่างๆ ชาวพุทธเขาสมมติกันขึ้นมาและสร้างมาเพื่อกราบไหว้ศรัทธา เขาจะสร้างอะไรก็ได้ แล้วสมมติเพื่อเป็นตัวแทนของเขา จะบอกว่าแต่ก่อนไม่มี แล้วทำปู้ยี่ปู้ยำ แล้วจะมาฟ้องอะไร"
ปกรณ์ : "คนละเรื่องแล้วพี่ นัยยะพุทธองค์คือการละ พระพุทธองค์ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ นอกจากคำสอนอย่างเดียว"
คุณจะส่งภาพไปให้คนประมูลเมื่อไหร่?
ปกรณ์ : "ต้องคุยกับพี่ท่านที่ได้ก่อน เขาอยากได้ลายเซ็นต์น้องคนที่วาด มีหลายขั้นตอนมาก น้องต้องมาจากโคราช ผมต้องไปหาพี่เขาที่บ้าน ภาพอื่นๆ ก็ค่อยๆ ทยอยเอาออกมาประมูล ขออนุญาตทางรายการเปิดประมูลผ่านรายการโหนกระแสเลย ท่านสนใจร่วมทำบุญ รายได้จากภาพนี้จะให้เด็กตาบอดในที่ห่างไกล เพราะเจ้าของภาพเป็นช่างภาพระดับโลกท่านนึง เขาซื้อไป 6500 บาท เฟซบุ๊กตามชื่อผมเลยครับ พี่เขาเป็นช่างภาพระดับโลกเขาอยากเอาไปให้เด็กตาบอดในที่ห่างไกล และบริจาคให้รพ.สงฆ์ในที่ขาดแคลน10 เปอร์เซ็นต์ของภาพก็ให้น้องคนที่วาด ปิดประมูลบ่ายสามพรุ่งนี้"
ได้เหรอ?
จรูญ : "ก็ถามทนายแล้วกัน ตากมฎหมายลิขสิทธิ์มันไม่ได้อยู่แล้ว"
จะมาแจ้งความผมมั้ย?
จรูญ : "ไม่รับประกัน"
ได้มั้ย?
เดชา : "ไม่เห็นมีปัญหา ไม่ได้มีอะไรผิดกฎหมาย"
ปกรณ์ : "ผู้ชนะการประมูลภาพทั้งสองภาพ คุณจะได้รับสิทธิพิเศษ ถ่ายรูปจากกล้องฟิล์มกระจกจากช่างภาพระดับโลกท่านนี้ ภาพละหนึ่งแสนบาทฟรีๆ"