เทียบชัด นาฬิกาคนจ้างงาน คลิป “เบล” สลบ​ แค่คล้าย​ เจ้าตัวปัดมอม​ แต่ห้องเชือดมีพิรุธ (คลิป)

จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล พริตตี้สาว หลังจากไปรับงานชงเครื่องดื่มที่บ้านพักหลังหนึ่ง ย่านบางบัวทอง ซึ่งพบว่า นายรัชเดช วงษ์ทะบุตร หรือ น้ำอุ่น อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย หลังจากเสร็จงานและพาตัวผู้ตายมาที่คอนโดฯ ย่านท่าพระ ซึ่งผู้ตายมาด้วยสภาพหมดสติตั้งแต่ออกจากบ้านที่จัดงานนั้น

วันที่ 21 ก.ย. 62 พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เรียกประชุดทีมสืบสวน ชุดคลี่คลายคดี หลังสอบปากคำเพิ่มเติมพยานรวม 4 ปาก ทั้งหมดให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า น้ำอุ่นเป็นคนรินเหล้าให้ลัลลาเบลดื่ม ทั้งแบบเพียว และผสมน้ำ

ทั้งนี้ จากที่มีข้อมูลว่าผลการตรวจเลือดของลัลลาเบล มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์นั้น จะเป็นเหตุที่จะทำให้เสียชีวิตหรือไม่นั้น ถือว่าเป็นประเด็นสำคัญ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านเกิดเหตุ นายบอล (นามสมมติ) พี่ชายของนายชยพล เจ้าของบ้านที่จัดงานปาร์ตี้ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุภายในบ้านกินเหล้าทั้งหมด 4 กลม 35 ดีกรี ปริมาณ 700 มิลลิลิตร ตั้งแต่ช่วงเที่ยง จนถึง 16.00 น. ซึ่งน้องเบลเป็นคนที่กินเหล้าเก่งมาก ตนสังเกตพบว่าช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. น้องเบลเริ่มมีอาการเมาหนัก แต่ยังคงมีสติ รู้สึกตัวอยู่บ้าง

ส่วนเรื่องการนัดสังสรรค์ ที่บ้านจะมีการนัดรวมตัวบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่ก็จะจ้างพริตตี้มาบริการในบ้าน ยืนยันว่าวันเกิดเหตุไม่มีการมอมผู้ตายแน่นอน เพราะหลายคนที่เคยมาสังสรรค์ก็จะรู้ว่าพวกตนไม่ได้มีการมอมผู้หญิง ส่วนที่จัดสังสรรค์ช่วงเวลากลางวัน ส่วนนายน้ำอุ่นตนเพิ่งรู้จักได้ 1 เดือน เคยเจอหน้า 2-3 ครั้ง เมื่อน้องเบลเมาจนนอนหลับไป ก็ไม่มีใครเข้าไปยุ่ง ยกเว้นน้ำอุ่น ตอนที่น้ำอุ่นอุ้มน้องเบลออกมา ตอนนั้นตนนั่งอยู่หน้าบ้าน อุ่นบอกว่าจะพาเบลไปส่ง ซึ่งเบลยังมีชีวิตอยู่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าในบ้านไม่มีเรื่องมั่วสุม ไม่มีการมั่วเซ็กซ์

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในแชตของลัลลาเบล และน้ำอุ่น พูดถึงการดื่มแอลกอฮอล์ ระหว่างอยู่ในงานปาร์ตี้ ในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งลัลลาเบลระบุว่าดื่มเหล้า 2 ขวด แต่น้ำอุ่นระบุว่าดื่มเหล้า 4 ขวด

ทีมข่าวได้ข้อมูลจากแพทย์ว่า โดยปกติปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด หากวัดจากการดื่มสุรา จะเทียบได้จากการดื่มสุราเพียง 90 ซีซี เท่ากับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

ดังนั้นหากคำนวณสุรา 1 ขวด ที่มีปริมาณ 700 มิลลิกรัม หากดื่มเพียวเข้าไปในร่างกาย จะส่งผลให้มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูง 388.89 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และหากกินเพียว 2 ขวด ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดอาจสูงถึง 777.78 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงเกิน 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อาจส่งผลให้หมดสติ ไม่รู้สึกตัว และหากสูงเกิน 350 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เป็นอันตรายต่อชีวิต เนื่องจากสมองไม่ทำงาน ศูนย์ควบคุมการหายใจเป็นอัมพาต และจะกดการหายใจมากยิ่งขึ้น หากมีการผสมยานอนหลับ หรือยา GHB เข้าไปด้วย

โดยอีกวิธีการพิสูจน์เวลาที่ลัลลาเบลเสียชีวิต คือนาฬิกา Smart Watch ที่ลัลลาเบลสวมใส่ สามารถวัดการทำงานของร่างกาย หรือจังหวะชีพจรของผู้สวมใส่ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดขณะน้ำอุ่นอุ้มลัลลาเบลไปที่คอนโดฯ พบว่าลัลลาเบลยังคงสวมใส่นาฬิกาอยู่

นอกจากนี้ คลิปที่น้ำอุ่นถ่ายลันลาเบลขณะที่นอนไม่ได้สติ ภายในคลิปมีมือผู้ชายเข้าไปลูบไล้ใบหน้าของลันลาเบล มีการตรวจสอบคลิปอย่างละเอียดพบว่า มือผู้ชายที่สวมนาฬิกาเรือนโลหะ เทียบกับอีกคลิปตอนที่น้ำอุ่นอุ้มร่างของลันลาเบลไปที่คอนโดฯ สวมนาฬิกาคนละเรือนกัน ซึ่งตัวเรือนเป็นสีดำ ซึ่งสันนิษฐานได้หรือไม่ว่า เป็นมือของคนอื่นที่ไม่ใช่น้ำอุ่นในคลิปดังกล่าว

ซึ่งจากการสังเกต พบว่านาฬิกาของนายบอล พี่ชายเจ้าของงานที่จัดปาร์ตี้ สวมใส่นาฬิกาเรือนโลหะคล้ายกับในคลิป โดยไม่มีการยืนยันว่าเป็นเรือนเดียวกันหรือไม่

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้ข้อมูลว่า หลังมีการตรวจสอบคลิปวิดีโอดังกล่าว เชื่อว่าผู้ก่อเหตุที่มีการลวนลามพริตตี้สาวไม่ได้มีเพียงคนเดียว อีกทั้งพบว่าการจัดปาร์ตี้ 15 วันต่อเดือน ก็อาจจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้ และผู้ก่อเหตุมากกว่านี้ แต่ขณะนี้ผู้เสียหายที่เคยถูกลามยังไม่กล้าออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะอาจจะมีความกังวล และความอับอาย ตนเองจึงอยากให้พริตตี้ที่เคยตกเป็นเหยื่อมาแสดงตัวกับตนเอง โดยไม่ต้องเปิดเผยก็ได้ เป็นการช่วยน้องเบลที่เสียชีวิตจะได้ไม่ตายฟรี และช่วยสังคมต่อไป ทั้งนี้ วันจันทร์ที่ 23 ก.ย. 62 จะทราบผลชันสูตรจากแพทย์อีกครั้ง

โดยหลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง เดินทางไปตรวจค้นห้องที่จัดปาร์ตี้ ล่าสุด พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า หลังจากการตรวจห้องดังกล่าว และบริเวณรอบบ้าน พบว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหลายจุด โดยในห้องมีกล้องวงจรปิด ประมาณ 3-4 ตัว ซึ่งกล้องบางตัวมีลักษณะแหงนมุมกล้องไปด้านบน เจ้าของบ้านอ้างว่ากล้องเสีย แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงมีการเก็บกู้ข้อมูลกล้องวงจรปิดทั้งหมด ส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.