ลุงอัจฯ งานเข้า ทนายเกิดผลฟ้องเรียก 1 ล้าน กล่าวหาถูกยึดใบประกอบวิชาชีพ (คลิป)

จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล หลังจากไปรับงานเอ็นเตอร์เทน ชงเครื่องดื่มที่บ้านพักหลังหนึ่งย่านบางบัวทอง ซึ่งพบว่า นายรัชเดช วงษ์ทะบุตร หรือ น้ำอุ่น อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย หลังจากเสร็จงานและพาตัวผู้ตายมาที่ห้องพักในคอนโดย่านท่าพระ ซึ่งผู้ตายมาด้วยสภาพหมดสติตั้งแต่ออกจากบ้านที่จัดงาน ล่าสุดน้ำอุ่นถูกฝากขังแล้วนั้น

ส่วนอีกคดี ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พาพริตตี้สาวชื่อ น.ส.เดียร์ เข้าแจ้งความ หลังจากอ้างว่าเดินทางมาที่งาน หลังลัลลาเบลกลับ แล้วถูกอนาจาร กระทั่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย และได้รับการประกันตัว อยู่ระหว่างการต่อสู้ทางคดี

วันที่ 29 ก.ย. 62 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของลัลลาเบล และคดีของ น.ส.เดียร์ ที่ไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ก็จะมีการพาเดียร์ไปแจ้งความเพิ่มเติม กับโมเดลลิ่งที่ส่งน้องเดียร์มาที่เกิดเหตุ ที่บ้านย่านบางบัวทอง ซึ่งเป็นการขยายผลว่ามีการส่งพริตตี้มาที่บ้านหลังดังกล่าว ตนมั่นใจว่าการกระทำครั้งนี้เป็นขบวนการ ซึ่งมีการแสวงหาผลประโยชน์แอบแฝง

ขณะนี้ มีเหยื่อที่ได้รับการแจ้งติดต่อเข้ามาอีกหลายราย ที่ถูกกระทำจากบ้านบางบัวทอง แต่ยังไม่ประสงค์ที่จะออกสื่อฯ แต่คนเหล่านี้ยินดีที่จะให้เบาะแส ซึ่งก็มีหลักฐานบางส่วน ส่วนเรื่องของลัลลาเบล ต้องแยกกัน เพราะทางครอบครัวเขาได้ใช้ทนายความของกระทรวงยุติธรรม โดยต้องขุดรากถอนโคนขบวนการนี้ออกมาให้ได้ เพราะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม และไม่ต้องการเห็นเด็กสาวพริตตี้ตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรืออนาจาร มีการถ่ายภาพถ่ายคลิป จะไม่ปล่อยให้ขบวนการเหล่านี้อยู่เหนือกฎหมาย

ขณะที่ นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“ใครก็ไม่รู้..บอกมีหลักฐานเด็ดในมือ แต่..ตำรวจ ทั้งโรงพัก ทั้งภาค 1 และ นครบาล 8 หาหลักฐานเด็ดไม่ได้ หลักสูตรสืบสวน สอบสวนของ โรงเรียนนายร้อยฯ ต้องเชิญวิศวกร เป็นอาจารย์สอนพิเศษ แล้วครับ”

ด้าน เพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์ข้อความตอบกลับว่า

“ชมรมทำหน้าที่ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โดยเฉพาะผู้หญิงที่ถูกกระทำแล้วนำหลักฐานมามอบให้ตำรวจ ไม่ใช่ว่าตำรวจหาหลักฐานไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีด้วยซ้ำที่พี่น้องชาวโซเชียลรักความยุติธรรมช่วยกันหาหลักฐานส่งต่อกันเพื่อนำคนกระทำผิดมาลงโทษตามกฏหมาย วันนี้คุณไม่ได้เป็นทนายแล้ว เพราะถูกยึดใบอนุญาต แต่ออกมาพูดแบบนี้ ก็ไม่เข้าใจและอยากถามว่าชมรมผิดอะไร?”

นอกจากนี้ ทนายเกิดผล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุอีกว่า

“ในวันไต่สวนมูลฟ้อง …การพิจารณาจะเป็นไปโดยเปิดเผย ผมยังเป็นทนายความ และ ยังมีใบอนุญาตว่าความ หรือไม่ ? ใครอยากรู้ ค่อยตามไปดูวันไต่สวนมูลฟ้อง เร็วๆนี้ ครับ” ซึ่งจะมีการฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายจากกรณีดังกล่าว 1 ล้านบาท