แฉครูสั่งเด็กเดินขอเงินชาวบ้านจริง อ้างทำบุญ แต่เก็บไปทัวร์นอก รร. เพิ่งตื่นสั่งสอบ (คลิป)

คืบหน้ากรณี มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมบรรยาข้อความ ถึงกลุ่มเด็กนักเรียน ที่ตระเวนเรี่ยไรขอรับเงินบริจาค โดยจะนำเงินไปปลูกปะการังและนำเงินไปช่วยเหลือตามบ้านเด็กอ่อน โดยมีการขอรับบริจาคตามป้ายรถเมล์และคนที่เดินผ่านไปมาละแวกอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยภายหลังหลายคนเริ่มสงสัยว่าเด็กเหล่านี้มาจากโรงเรียนใด เพราะชุดที่เด็กใส่ ไม่มีโลโก้ประจำโรงเรียน และบางส่วนก็มองว่าเด็กถูกบังคับจากโรงเรียนหรือไม่ นำเงินที่ได้รับบริจาคไปใช้ในจุดประสงค์ใด

น.ส.ทราบทอง ตรีสัตยกุล ผอ.โรงเรียน เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนได้รับทราบปัญหาแล้ว และได้ทำหนังสือไปยังต้นสังกัดเพื่อดำเนินการต่อ และตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยจะมีผลใน 1-2 วันนี้ ส่วนครูคนที่เป็นข่าว ทำหน้าที่ตามปกติ แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องคนผิด ทั้งนี้ ที่ผ่านมายังไม่เคยรับรายงานว่ามีนักเรียนหรือผู้ปกครองมาแจ้งกับทางโรงเรียน

ส่วนพฤติกรรมครูเกี่ยวกับการบังคับและใช้ความรุนแรงกับนักเรีบน ตนเองยังไม่ขอเปิดเผย ไม่อยากก้าวก่ายการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ แต่เชื่อว่ามีมูลความจริง อย่างไรก็ตาม อาจมีการให้เด็กที่เรียนไม่ผ่านในรายวิชาทำกิจกรรมชดเชย

ทีมข่าวสอบถามกลุ่มเด็กนักเรียน ระบุว่า "เป็นความจริง และเคยโดยสั่งไปเดินกล่อง เพื่อเอามาใช้ในกิจกรรมชมรม และเอาไปดูงานต่างประเทศ ทั้งที่ยังไม่มีกำหนดการต้องไป แต่ยังพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะยังเรียนอยู่ กลัวจะกระทบต่อสถานะนักเรียนและผลการเรียน"

แฉครูสั่งเด็กเดินขอเงินชาวบ้านจริง อ้างทำบุญ แต่เก็บไปทัวร์นอก รร. เพิ่งตื่นสั่งสอบ (คลิป)

ด้าน นายกาแฟ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ศิษย์เก่า เปิดใจว่า การถูกสั่งให้เด็กนักเรียนออกไปเดินถือกล่องขอเงินบริจาค เป็นพฤติกรรมของครูในชมรมดนตรีเท่านั้น แต่ไม่ใช่ของโรงเรียน ซึ่งเคยเกิดขึ้นมานานหลายรุ่นแล้ว ยอมรับว่าที่ผ่านมานักเรียนไม่เคยมีปากเสียง ต้องทำตามที่ครูบอก แต่ปัจจุบันมีโลกโซเชียล จึงทำให้ข่าวเหล่านี้มีคนช่วยเป็นกระบอกเสียง สำหรับการเดินกล่องบริจาคเรี่ยไร ครูจะให้ออกไปเดินกล่องตามสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ตลาด ชุมชน ริมถนน ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ในยุคของตนเองจะเดินกล่องตลาดใกล้โรงเรียน มีการเขียนข้างกล่องว่า "รับบริจาคเพื่อบำรุงกิจกรรมชมรมดนตรี" จนกระทั่งเด็กออกไปยืนบ่อยครั้ง ทำให้ชาวบ้านไม่ยอมบริจาค ก็จะมีการย้ายไปยังจุดอื่น หรือเปลี่ยนข้อความข้างกล่องเป็น "สนับสนุนเพื่อปลูกป่าชายเลน, ปลูกปะการัง, ช่วยเหลือเด็กอ่อน" โดยแต่ละครั้ง ได้เงินร่วม 4,000-8,000 บาท แต่สุดท้ายเงินที่ได้ ไม่รู้ว่าใช้จ่ายไปอย่างไร

ขณะที่พฤติกรรมของครูเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรง และขู่ไม่ให้ผ่าน ตกชั้น เรียนช้ำชั้นนั้น เพียงแค่เด็กแต่งกายไม่เรียบร้อย ผมยาว ครูก็จะตบหรือตีหัวอย่างรุนแรง ตนมองว่าทำเกิดกว่าเหตุ เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับโรงเรียน และตนอยากให้มีการแก้ไข