หัวหน้าเผย “น้องเมย์” แชตฟ้องก่อนตาย โดนแฟนเก่านั่งทับอก มาทำงานรอยเขียวทั่วตัว (คลิป)
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้สอบถามนางมาดาม (นามสมมติ) หัวหน้างานของผู้เสียชีวิต บอกว่า ช่วงดึกของคืนวันที่ 27 ส.ค. เมย์ส่งข้อความมาหาว่าถูกทำร้ายจากนายเกรียง ซึ่งเข้ามาทำร้ายในห้องพักที่เกิดเหตุ โดยถูกนั่งทับร่างของเมย์ไว้ เมย์บอกตนว่าขณะนั้นหายใจไม่ออกเหมือนคนจะตาย โทรหาใครไม่ได้เพราะถูกยึดโทรศัพท์ ซึ่งขณะนั้นเมย์กับนายเกรียงได้เลิกรากันไปแล้ว แต่ฝ่ายชายไม่ยอม สาเหตุที่เลิกเพราะเมย์รู้ว่าฝ่ายชายมีหญิงใหม่ ซึ่งก็ทำงานอยู่ที่เดียวกัน เคยเตือนเมย์ให้เลิกกับผู้ชายคนนี้ ต่อมาช่วงเช้าก็เจอเมย์ที่ทำงานแต่ตามร่างกายมีบาดแผลบริเวณมือ ลักษณะเป็นรอยข่วน และรอยช้ำที่คอ ซึ่งนายเกรียงเป็นคนทำร้าย หลังจากนั้นเมย์ก็ยังมาทำงานปกติ กระทั่งวันที่ 30 ส.ค. ถึงทราบว่าเมย์เสียชีวิต
หากย้อนไทม์ไลม์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. จะพบว่าเมย์ก็ได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆหลายคน ว่าถูกนายเกรียงทำร้ายร่างกาย จากนั้นวันที่ 30 ส.ค. นายเกรียงได้ลงมาหารปภ.ตึก แล้วยืนดูกล้องวงจรปิดข้างล่างตึกอยู่สักพัก พร้อมกับขอเบอร์กู้ภัยกับรปภ. และก็ขึ้นลิฟต์กลับเข้าไปในห้อง โดยไม่ให้รปภ.ตามขึ้นไป รปภ.เห็นว่านายเกรียงมีพิรุธจึงตัดสินใจตามขึ้นไปที่ห้อง แต่ก็เข้าห้องไม่ได้ จึงได้โทรแจ้งตำรวจและกู้ภัยมาที่ตึก ก่อนจะพบว่าน้องเมย์นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง จากนั้นพฤติกรรมของนายเกรียงก็เปลี่ยนไปจากเดิมทีที่นิ่งเฉย ก็ร้องไห้ฟูมฟายกระโดดขึ้นเตียงเขย่าร่างเมย์คล้ายเพิ่งรู้ว่าเสียชีวิต
ด้านนพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ "หมอกอล์ฟ" แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม และเจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ ให้ข้อมูลว่า หากมีการนั่งทับหรือกดทับหน้าอก แรงของคนทั่วไปไม่น่าจะทำให้เสียชีวิตได้ ต้องมีแรงกระแทกอย่างหนัก หรือมีอะไรกดทับหน้าอกจนปอดไปกดทับหัวใจ เช่นเดียวกับถ้ามีคนทำให้เกิดการตกใจสุดขีด ประกอบกับบุคคลนั้นมีโรคหัวใจอยู่แล้ว ก็อาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้