เปิดใจอาม่า วอนลบคลิปหลานคลั่งเกม ถือมีดฟัน – เพื่อนบ้านแฉ โอ๋จนเสียคน ขู่โดดตึกตาย (คลิป)
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นางศรี (นามสมมติ) อายุ 66 ปี อาม่าของเด็กหัวร้อน บอกว่า ก่อนเกิดเหตุนอนหลับไปแล้ว แต่ได้ยินเสียงหลานโวยโวย ทุบตีข้าวของ จึงตกใจตื่นขึ้นมา กระทั่งหลานไปหยิบมีดมา ขู่จะทำร้ายแม่ จึงรีบเข้าไปห้ามและเอามีดไปเก็บ ไม่คิดว่าคลิปจะถูกเผยแพร่ไปแบบนี้ ที่ผ่านมานิสัยของหลานชายไม่เป็นแบบนี้ เป็นเด็กปกติ ยืนยันว่าหลานไม่คิดจะทำร้ายใคร เข้าใจว่าหลานเป็นโรคไฮเปอร์ ต้องไปหาหมอ กินยาปรับอารมณ์ หากไม่กินยาอารมณ์จะรุนแรง แต่หายเร็ว เวลาอยู่กับเพื่อนก็ปกติ ไม่มีอารมณ์แบบนี้ หลังจากนี้คงไม่ห้ามหลานให้หยุดเล่นเกมส์ แต่จะกำชับให้เล่นน้อยลง พร้อมฝากขอโทษสังคม และอยากให้ลบคลิปดังกล่าว
ด้าน นายอิทธิเดช รามวินิจ อายุ 22 ปี หรือ มาลีสวยมาก นักแคสเกมส์ บอกว่า สาเหตุที่น้องหัวร้อนและมีอารมณ์รุนแรง เพราะว่าน้องมักจะโดนคนในเกมส์แกล้ง และยั่วโมโห ขณะเกิดเหตุก็ได้โทรไปบอกและห้ามน้องอย่าทำแบบนี้ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ดี และได้บอกคนในเกมที่ชอบไปแกล้งว่าอย่าไปแกล้งน้องอีก บางเรื่องตนอาจจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี อยากฝากคนที่เล่นเกมส์อย่าเอาแบบอย่าง ยืนยันว่าหลังเกิดเรื่องตนเป็นคนพยายามห้ามเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาไปยุยง หรือปลุกปั่นให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ไม่คิดว่าจะกลายเป็นกระแสสังคมที่รุนแรงแบบนี้
ขณะที่ นายชัย (นามสมมติ) อายุ 61 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า เด็กที่ปรากฏอยู่ในคลิปมีนิสัย 2 บุคคลิก หากอารมณ์ปกติ ก็จะช่วยแม่ขายของที่ห้าง แต่หลังจากได้จับคอมพิวเตอร์เล่นเกมส์ ก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน มีความก้าวร้าว ไม่ฟังใคร แม้แต่คนในครอบครัว แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายถึงกับขาดสติ ยังมีความเกรงใจผู้ใหญ่ เชื่อว่าเกิดจากการถูกเลี้ยงแบบตามใจ ทำอะไรผิดหรือต้องการอะไร ก็มีคนให้ท้ายตลอด จึงไม่แปลก ที่เด็กจะมีพฤติกรรมแบบนี้ บางครั้งเด็กมักจะแสดงอาการเอาแต่ใจ สร้างความเดือนร้อนไปทั่ว เวลาไปห้าง เข้าห้องน้ำก็จะเล่นและทำข้าวของกระจัดกระจาย แม่บ้านไปดุด่า เด็กก็จะไปฟ้องแม่ ซึ่งแม่ก็จะเข้าข้างลูก จนมีเรื่องกับแม่บ้าน บางครั้งก็ขู่จะทำร้ายแม่ หรือจะทำร้ายคนอื่นๆ รวมถึงยังเคยขู่จะฆ่าตัวตาย หากวันหนึ่งโตขึ้นไป อาจไม่ใช่แค่ขู่ ต้องมีก่อเหตุแน่นอน
โดยมีอาการสำคัญ ดังนี้ 1. ใช้เวลาเล่นนานเกินไป 2. ขาดการควบคุมตนเองในการใช้ชีวิตปกติ เช่น การกิน การนอน และ 3. เสียหน้าที่ การเรียน และการงาน เรื่องติดเกมไม่ใช่เป็นปัญหาของแค่ตัวเด็ก แต่เป็นปัญหาของทั้งครอบครัวที่ต้องร่วมกันจัดการ หากไม่สามารถจัดการได้ ให้ปรึกษาจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นในสังกัดกรมสุขภาพจิต หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง