ทนายเดชา จวก แว่นหัวร้อน ทรยศชาติ เชื่อคุกแน่! ชี้ไม่ป่วย ทำมา 3 ครั้งอยู่ในกมลสันดาน!
รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" พิธีกรสาว "ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" ถึงเรื่องคดีที่จะเกิดขึ้น พร้อมโฟนอินคู่กรณีหนุ่มแว่นขับซีวิค
โฟนอินหา "คุณนันทวัฒน์ กมลรัมย์" ตอนเกิดเหตุคุณกำลังจะไปไหน?
นันทวัฒน์ : "กำลังไปส่งของครับ ผมอยู่ถนนพุทธมณฑลสายสี่ทางตรง เขากำลังกลับรถ เขามาชนผม ผมมาทางตรง เปิดไฟขอทางเรียบร้อย เขาไม่หยุดรถ พยายามออกมาเรื่อยๆ ผมพยายามหักหลบแต่ไม่พ้นจริงๆ"
เขาลงมาปุ๊บ ใส่คุณเลย?
นันทวัฒน์ : "ใช่ครับ เขาด่าเลย ตะโกนว่ามึงชนรถกู ผมก็บอกว่าค่อยๆ คุยกันนะพี่ เรียกประกันมาดีกว่า เขาปรี่มาหาผมด้วย เลยหยิบโทรศัพท์มาถ่ายวิดีโอไว้ดีกว่า"
เข้ามาทำร้ายร่างกายมั้ย?
นันทวัฒน์ : "มีครั้งนึงเขาผลักหน้าอกผม แต่แฟนเขามาขอโทษผมตลอดเวลา วันนั้นรอก็รอประกันทั้งสองฝ่ายมาคุย เขาก็ด่าผมแล้วขับรถออกไป ทิ้งแฟนเอาไว้ ไม่รู้เขาออกไปไหน"
ตอนโดนด่ารู้สึกยังไง?
นันทวัฒน์ : "ก็โมโห แต่ก็ใจเย็นสุดๆ แล้ว ไม่ตอบโต้อะไรเขา"
เอาเรื่องเขามั้ย?
นันทวัฒน์ : "ตร.เขาดำเนินการแล้วครับ จริงๆ ผมอยากให้มันจบ แต่ดูแล้วไม่น่าจะจบง่ายๆ"
คนแชร์คลิปแล้วอินขนาดนี้ รู้สึกยังไง?
นันทวัฒน์ : "คำพูดเขาก็ดูถูกหลายคน หลายคนก็มารอเขาเหมือนกัน"
ถ้าผลสรุปว่าเขาป่วย จะว่ายังไง?
นันทวัฒน์ : "ไม่น่าป่วย ป่วยแต่ขับรถได้ มีใบขับขี่ครบครับ ทำงานก็ที่ดีๆ ทั้งนั้น ถ้าป่วยเขาคงไม่รับทำงาน"
อยากฝากอะไรคนแชร์คลิป?
นันทวัฒน์ : "ขอบคุณที่ให้กำลังใจ ผมก็ไม่เป็นไร ใช้ชีวิตปกติ"
หนุ่มแว่นจะโดนข้อหาอะไรบ้าง?
ทนายเดชา : "ดูจากคลิปโดนเรื่องดูถูกเหยียดหยามภาษากฎหมายเรียกว่าดูหมิ่นซึ่งหน้า ด่าเขาต่อหน้าด้วยคำหยาบคาย เป็นคนชั้นต่ำ ด้อยคำพัฒนา คำพวกนี้เหยียดหยามหมด"
ข้อหานี้ผิดยังไง?
ทนายเดชา : "จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นคดีลหุโทษ อาญา ศาลท่านอาจจำคุกหรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ คำนึงถึงสองส่วน พฤติการณ์การกระทำความผิด อุกอาจไม่น่าให้อภัย ความร้ายแรงคือผลกระทบ วันนี้ส่งศาลตอนเช้า อาจจำคุกหรือกักขัง เป็นไปได้"
ตอนเห็นคลิปครั้งแรกรู้สึกยังไง?
ทนายเดชา : "ผมก็โกรธ ในฐานะเป็นคนไทย มาบอกว่าชาติกำเนิดเรา และชาติกำเนิดตัวเขาเป็นคนชั้นต่ำ มันดูไม่เป็นธรรม เหมือนทรยศเนรคุณต่อแผ่นดินเกิด ยอมไม่ได้ ผมก็ไม่ยอม ผมถือว่าเป็นผู้เสียหายคนหนึ่ง คุณบุ๋มก็เป็นผู้เสียหายนะ"
ถ้าแค้นจะทำยังไง?
ทนายเดชา : "ทำใจให้สงบ (หัวเราะ) ถ้าไปด่าแม่เขา ทำร้ายร่างกายเขา เราก็โดนเหมือนกัน คนละประเด็น คนละเรื่อง แฟนเขาก็ห้าม ไม่ได้มีส่วนร่วม แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่สามีตัวเองกระทำความผิด และขอโทษคือยอมรับว่าสิ่งที่ทำคือสิ่งที่ผิด"
ทนายเดชา : "จริงๆ ก็มีความผิด แต่ผู้เสียหายเขาคงไม่เอาโทษ เพราะมองว่าสามีก็ทำร้ายประเทศไทยหนักหนา แต่ถ้าพูดถึงตร.จะเอาเรื่อง ก็เอาเรื่องได้ แต่เชื่อว่าตร.ไม่เอาเรื่องหรอก"
บริษัทได้มีการไล่ออก เขาทำได้?
ทนายเดชา : "ครับ เป็นไปตามกฎหมายแรงงาน 119 ก่อนหน้านี้ก็มีเยอะแยะไป ที่พวกไปประท้วง ไปด่าอะไรต่างๆ ทางการเมืองก็โดนไล่ออก เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดระเบียบข้อบังคับของบริษัท คือพนักงานบริษัทต้องไม่ทำตัวให้เป็นภัยต่อสังคม หรือขัดต่อศีลธรรมอันดี ขัดต่อกฎหมาย ไล่ออกได้เลย โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า จ่ายค่าชดเชย ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ไล่ออกได้ทันที เป็นสิทธิ์โดยชอบ"
หนุ่มแว่นทำมาสามครั้งแล้ว ศาลท่านนำมาพิจารณาร่วมได้มั้ย?
ทนายเดชา : "แน่นอน ต้องส่งฟ้องไปพร้อมพฤติกรรมในอดีต ถ้าทำมาหลายครั้ง ภาษากฎหมายเขาเรียกว่าทำเป็นสันดาน ความผิดซ้ำซาก อยู่ในกมลสันดาน ภาษากฎหมายนะ ถ้าพฤติกรรมทำซ้ำๆ ซากๆ โอกาสถูกจำคุกมีสูง ไม่ควรปราณี"
ถ้าเขาบอกว่าเขาป่วย เหมือนที่คุณแม่บอกว่ามียากิน รักษาอยู่?
ทนายเดชา : "ป่วยก็อ้างได้ สามารถนำมาประกอบได้ แต่ต้องป่วยถึงขนาดไม่รู้ตัว ไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ แต่ดูแล้วเขารับผิดชอบตัวเองได้ ผมว่าไม่น่าเอามาลดโทษอะไรได้"
คุยกับ "คุณสมชาย" คู่กรณีอีกคน กรณีที่ไปทะเลาะกับหนุ่มแว่น เกิดขึ้นเมื่อไหร่?
สมชาย : "วันศุกร์ที่แล้ว วันที่ 18 ต.ค. สดๆ ร้อนๆ ก่อนมีคลิปลง ผมเลิกงาน ทำงานอยู่รพ. แล้วขึ้นทางด่วนตรงอโศก ขึ้นไปรถติดมาก ผมจะไปต่างจังหวัด ไปรับหลาน ขับรถไปเรื่อยๆ ชิลๆ รถมันติดก็กระดึ๊บๆ ไป อยู่เลนขวาสุด มีคันนี้ที่ขับมาจะแทรกผม ที่เท่าหมานอนตายจะแทรกได้ยังไง ผมก็ไม่ยอม พอรถเคลื่อนเขาก็กดแตรรัวๆ ชูนิ้วกลางใส่ผม แล้วก็ด่าเสียๆ หายๆ รถติดด้วย ลองคิดสภาพ ถ้าเจอคนใจร้อน คนนี้ตาย แต่ในใจผมไม่อยากมีเรื่อง อยากกลับบ้านไปรับหลาน หลานรออยู่ ในหัวผม กูจะไหวมั้ย เขาชูนิ้วกลาง กวักมือเรียกผมไปคุยกับเขาตลอด"
เขาด่าเหมือนคลิปกระบะมั้ย?
สมชาย : "โห มันแรงพี่ ไม่อยากพูด อารมณ์เหมือนเขาดีดเอาง่ายๆ ด่าหยาบคาย ไม่ได้อวดรวย นิ้วกลางโชว์ตลอด ผมเมื่อยแขนแทนเลยพี่"
เห็นคนมาโกรธแทนหนุ่มกระบะ รู้สึกยังไง?
สมชาย : "เมื่อวานผมสงสาร ดีนะที่ผมไม่ลง ไม่งั้นคนจะด่าว่าผมทำร้ายน้องมัน มีคนถามว่าเป็นยังไง ผมพูดแล้วอยากจะร้องไห้ (ร้องไห้) มีดก็อยู่ในมือผม ผมอยากลงไปนะ แต่ในหัวผม หลานๆ พ่อกับแม่รออยู่ ไม่มีเรื่องดีกว่า ผมเลยวางมีด"
รู้เลยว่าคุณแค้น โมโห มีอารมณ์กับมัน?
สมชาย : "แค้นจริง ผมใจเย็นได้ขนาดนี้เพราะในหัวผมมีแม่รออยู่ หลานรออยู่ ถ้าผมลงไปมีเรื่องกับมัน เป็นข่าวหน้าหนึ่ง ผมคงไม่ได้กลับบ้าน ผมซื้อล็อตเตอรี่ด้วย ถ้าถูกรางวัลที่ 1 จะซื้อเครื่องมือแพทย์ให้รพ. ทะเบียนรถมึงติดกับเครื่องมือแพทย์เลย ว่ามึงเป็นคนบริจาค"
วันนี้ให้อภัยเขาได้มั้ย?
สมชาย : "ผมให้อภัยได้ ผมสงสารน้องเขา มีคนส่งมาให้ดู ผมสงสาร ทำไมบ้านเรามันแรงขนาดนี้ ไปขุดคุ้ยจนเขาออกจากบริษัท ผมสงสารน้องเขา มันอาจมีอะไรสักอย่างทำให้เขาเป็นแบบนั้น"
พ.ต.อ. กฤษณะ : "มีการดำเนินการอยู่แล้ว การปฏิบัติหน้าที่ของตร. ถ้าไม่ปฏิบัติหน้าที่จะถูกตั้งข้อกล่าวหาฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นความผิดส่วนใด เราดำเนินการในส่วนนั้นอยู่แล้ว"
เขาเอาเรื่องการรักษา ยา มาให้ตร.ดู เป็นข้ออ้างในการทำให้เขาพ้นโทษได้มั้ย?
พ.ต.อ. กฤษณะ : "เป็นเรื่องการสอบสวน มีสองส่วน การสั่งฟ้องผู้ต้องหา กับไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหา ต้องไปดูองค์ประกอบความผิดด้วย ไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นการชี้นำไป ไม่สามารถแทรกแซง ต้องกระทำด้วยความเป็นธรรม"
กรณี 112 ใครต้องดำเนินการ?
ทนายเดชา : "เป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการแห่งชาติ และสำนักอัยการสูงสุด ต้องมาร่วมกัน เพราะเป็นประเด็นอ่อนไหว เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน ต้องใช้เวลา เป็นอาญาแผ่นดิน"
สั่งให้เขาไปรักษาได้มั้ย?
ทนายเดชา : "ถามผมคงไม่สั่งไปรักษา อาจห้ามขับรถ ใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัยก็ทำได้ กรมการขนส่งทางบก ถ้าพบว่าคนไหนขับขี่รถแล้วมีลักษณะอย่างนี้ อาจพักใบอนุญาต หรือเพิกถอนก็ทำได้"
สอบถาม "นพ.สุริยะ" หรือ "หมอเดล" กรณีหนุ่มแว่น เขามีสุขภาพจิตรุนแรงไปหรือเปล่า?
นพ. สุริยะ : "ความหัวร้อนแม้แต่คนปกติทั่วไปก็มากขึ้น เพราะชีวิตเข้าสู่ลักษณ์ฟาสไลฟ์ ไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ กลายเป็นภาวะความเครียดและจัดการความเครียดไม่ได้ ก็ปรากฎทางกายและจิตใจมาได้ หลักการง่ายๆ คนแวดล้อมที่ดูได้ อันนี้หลุดโลกไปหรือเปล่า ถ้าดูแล้วไม่สมเหตุสมผล สิ่งที่กำลังพูด ดูไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่ อย่างโอ้อวดเกินควร ฟุ้งเฟ้อเกินไปเหล่านี้ ล้วนเป็นสัญญาณส่งต่อเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์ได้ ปัญหาคือเขามักไม่รู้ตัวว่าเขาป่วย แม้แต่คำว่าสมาธิสั้น ไม่ใช่ไม่ปรากฎในผู้ใหญ่นะ แต่ของผู้ใหญ่มีบวกเพิ่มเรื่องบุคลิกภาพแปรปรวน เรื่องพวกนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลและบำบัดรักษา ถ้ารู้สึกเครียดและหยุดยั้งอารมณ์ตนเองไม่ได้ เราพาตัวเองไปพบแพทย์ได้เลย แต่ถ้าไม่ คนรอบข้างต้องช่วยดูด้วย"
เหมือนอยู่ในช่วงสีเทา ก็มีความผิดได้?
ทนายเดชา : "ส่วนใหญ่คนใกล้ชิดบอกสามีเป็นคนบ้า เขาก็คงไม่ยอมรับ นี่ พอติดคุกก็สติมา มีที่ปรึกษาให้เอาซองยาไปด้วย ถ้าพาหมอไปด้วยยิ่งดี เวลามีเรื่องไม่ได้โชว์ซองยา พอใกล้ติดคุกก็เอาซองยามาด้วย ที่ปรึกษาดี บ้าต้องบ้าถึงขนาดไม่สามารถรู้ผิดชอบชั่วดี ต้องบ้าจริงๆ"
พ่อจะช่วยเขาได้ยังไง?
ทนายเดชา : "ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเยียวยา ได้ข่าวว่าเยียวยาไปแล้ว"
เขาแชร์ให้ช่วยลบคลิป เพราะคนนอกไม่ได้เป็นคู่กรณี ฟ้องหมิ่นปนระมาทได้มั้ย?
ทนายเดชา : "ก็ฟ้งได้ แต่โซเชียลพลังมหาศาล ใครจะควบคุมได้ ใครอยากลบก็ลบ ใครอยากแชร์ก็แชร์ มันสั่งไม่อยู่ โซเชียล เปิดหน้าพ่อแม่ ครอบครัว สถานทูต มันควบคุมอะไรไม่ได้สำหรับโซเชียลมีเดีย"