ญาติชี้พิรุธ อุ้ม สาวหล่อ โยงฆ่าเศรษฐินีโบกปูนยัดตู้เย็น เชื่อหวังเงิน อึ้งตีซี้ตั้งแต่อยู่หอพัก (คลิป)
ส่วนพฤติการณ์ของคนร้ายในการก่อเหตุ คือใช้ผ้าขนหนูรัดคอ และใช้ถุงดำที่ไปซื้อตามร้านสะดวกซื้อคลุมศีรษะของผู้ตาย 3 ชั้น ใช้สก็อตเทปพันทับรอบคอ จับมือผู้ตายไพล่หลังใช้เชือกมัดมือมัดเท้า นำร่างใส่ตู้เย็น ตามด้วยโรยปูนบนศพเพื่อเป็นการชะลอการพบศพ เพราะปูนจะมีฤทธิ์ดูดความชื้นและจะดูดน้ำเหลือต่างๆที่ไหลออกจากศพเพื่อทำให้กลิ่นน้อยลง
พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าภายในบ้านมีทรัพย์สินหายไป ซึ่งทราบจากญาติว่าผู้ตายเคยมีตุ้มหูเพชร แต่ตอนนี้ได้หายไป ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่มีรอยงัดแงะ แต่มีร่องรอยการต่อสู้แค่ชั้น 1 เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะผู้ตายไม่มีความขัดแย้งกับใคร และคาดว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่รู้จักกับผู้ตาย
นอกจากนี้ นายประเสริฐ นันต๊ะเจริญ อายุ 57 ปี ช่างทำกุญแจที่เปิดร้านตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ บอกว่า ผู้ตายมีอุปนิสัยเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยคบหากับใคร ปกติจะปิดบ้านเงียบ และจะเปิดบ้านช่วงออกไปปฏิบัติธรรมที่วัดช่วงเช้าและช่วงบ่ายเท่านั้น มองว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ทรัพย์ ไม่รู้ว่าผู้ตายถูกฆาตกรรมตั้งแต่ตอนไหน เพิ่งมาสังเกตว่าวันที่ 13 ต.ค. มีเลือดไหลออกมาจากใต้ประตูบ้าน และเริ่มมีกลิ่นเหม็น จนวันที่ 19 ต.ค. มีกลิ่นเหม็นรุนแรงจนต้องแจ้งเทศบาล แต่ก็เปิดเข้าไปในบ้านไม่ได้ จึงพยายามติดต่อญาติให้มาดู จนพบเป็นศพ
ทีมข่าวได้ข้อมูลว่าน.ส.วรรณี ใช้ทรัพย์สินส่วนตัวบริจาคให้แก่หลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และเคยถวายรถตู้ป้ายแดงให้กับวัดอีกด้วย นอกจากนี้ น.ส.วรรณี เพิ่งนำเงิน 19 ล้านบาท ไปถวายให้มูลนิธิตึกสงฆ์ โรงพยาบาลสวนดอก จ.เชียงใหม่
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนกำลังติดตามตัวสาวทอมอุ้ม ซึ่งมาสนิทสนมคุ้นเคยกับผู้ตายมากที่สุดได้ประมาณเดือนเศษ และทอมอุ้มคนนี้เป็นคนที่คอยติดตาม น.ส.วรรณี ไปทำบุญอยู่ด้วยเสมอ
นายประจักษ์ พานทอง อายุ 39 ปี ผู้ดูแลอะพาร์ตเมนต์ที่ผู้ตายเคยมาเช่าอยู่ บอกว่า น.ส.วรรณีเคยเช่าอพาร์ตเมนต์ตั้งแต่เดือน ก.ย. 61 ซึ่งผู้ตายพักอยู่กับทอมอุ้ม เคยเห็นรองเท้าหน้าห้องผู้ตายอยู่หลายคู่ เชื่อว่าน่าจะมีคนแวะเวียนมาหาผู้ตายอยู่บ่อยครั้ง แต่พอเกิดเรื่องขึ้นคนที่เคยมากลับหายไปหมด เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ตัวแน่นอน
นายแมน (นามสมมติ) อายุ 59 ปี ญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกับผู้เสียชีวิตมากนัก ซึ่งตนก็เพิ่งเคยมาที่บ้านที่เชียงใหม่เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้พิมพ์แชทบอกว่าจะไปเที่ยวประเทศเวียดนาม ทั้งที่ไม่เคยบอกมาก่อนว่าจะไป นอกจากนี้ยังพบว่าการพูดคุยในแชทของน้องสาวผิดปกติ เหมือนมีคนอื่นพิมพ์แชทแทน กระทั่งติดต่อไปก็ติดต่อไม่ได้
ขณะที่น้องสาวของน.ส.วรรณี บอกว่า คนที่สามารถเข้าใกล้ผู้ตายได้ต้องเป็นผู้ที่สนิทมาก ๆ เพราะเป็นคนรักสันโดษ ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว เพราะที่ผ่านมาน.ส.วรรณีเป็นคนระวังตัว ไม่เชื่อคนง่าย คนร้ายจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจและวางแผนมาก่อน นอกจากนี้ผู้ตายเป็นคนรูปร่างใหญ่ จึงคิดว่าคนร้ายที่สามารถลงมือได้น่าจะมีมากกว่า 1 คน
ส่วนที่สงสัยทอมคนสนิทนั้น ในบรรดาพี่น้องก็มีคนที่พอทราบเรื่องและคิดว่าเป็นคนที่น่าสงสัย แต่ทั้งนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการต่อไป