เปิดใจชายคลิปด่า ตร. ขอตรวจ ปัดพูดเป็นลูกอัยการ ขอโทษที่เมาเลอะเทอะ (คลิป)

จากกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปวิดีโอ หนุ่มเมากร่างและด่าตำรวจ เหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นภาพผู้ชายกลุ่มหนึ่งประมาณ 3-4 คน อยู่ในอาการลักษณะคล้ายกับคนเมาสุรา ชายเสื้อขาวหนึ่งในนั้นกำลังโวยวายตำรวจ สน.ห้วยขวาง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกเรียกตรวจ

หลังจากนั้นชายกลุ่มนี้ได้ถูกตำรวจควบคุมตัวมาที่ สน.ห้วยขวาง โดยชายเสื้อสีขาวยังคงมีการด่าทอเจ้าหน้าที่ มีการอ้างตัวว่าเป็นลูกอัยการ และจะขู่ย้ายตำรวจทั้งโรงพัก

วันที่ 28 ต.ค. 62 พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ เปิดเผยว่า วันที่ 27 ต.ค. เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารในคลิปลงจากรถ ซึ่งวันนั้นมีชาย 4 คนรวมคนขับเป็น 5 คน แต่ปรากฏว่าผู้โดยสารไม่ยอมที่จะลงจากรถ และโวยวายโดยใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อว่าเจ้าหน้าที่ และตำรวจที่ตั้งด่านวันนั้นก็เป็นฝ่ายป้องกันปราบปรามดีเด่นของ สน.ห้วยขวาง การที่หนุ่มคนนั้นพูดไปอาจจะมาจากความมึนเมา หรืออาจไม่ชอบตำรวจ และหงุดหงิดเพราะอยากจะกลับบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวมาที่โรงพักเพื่อให้มาสงบสติอารมณ์เพียงเท่านั้น

โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหาชายเสื้อขาวในคลิปคือดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนชายเสื้อเทา เนื่องจากพยายามขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ใส่กุญแจมือเพื่อน จึงโดนข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 138 ผู้ใดต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตำรวจจึงใส่กุญแจมือและคุมตัวเข้าห้องขังทั้ง 2 คน

หลังจากเกิดเหตุคืนนั้น ก็มีการให้ประกันตัวไปเพื่อที่จะนัดหมายไปศาล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามให้ความเป็นธรรม และขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลด้วย โดยในคลิปไม่ได้มีใครเป็นลูกอัยการ ล่าสุดก็ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุแล้ว ผู้ก่อเหตุก็เข้าใจเหตุการณ์ดี ตนอยากฝากประชาชนให้แสดงความบริสุทธิ์ใจ รวมถึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่ อยากให้มีการเคารพกฎหมาย เคารพเจ้าหน้าที่ และตนอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนในสังคมไม่ให้กระทำแบบนี้ ไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน และเหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งดูดาย และผู้ก่อเหตุเองก็ให้การยอมรับผิดแล้ว ตนก็อยากให้สังคมให้อภัยด้วย

ด้านนายศราวุฒิ บุตตาแย้ม หรือ แป๊บ อายุ 28 ปี ชายใส่หมวกในคลิป ยอมรับว่า คืนดังกล่าวไปกันทั้งหมด 4 คน หลังดื่มจนเมาก็นั่งแท็กซี่ ตำรวจก็มีการเรียกตรวจ ตอนนั้นพี่ชายของตนคือชายเสื้อขาว ด้วยความเมาก็ลงจากรถ และเริ่มมีคำพูดหยาบคายต่อว่าเจ้าหน้าที่ ตนก็ได้ลงมาจากรถและไปห้ามพี่ชาย พยายามขอโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่พี่ชายตนเองไม่ฟัง จากนั้นตำรวจก็เริ่มเอากุญแจมือมาคล้องพี่ชายตน ตนก็เลยสงสัยว่าทำไมถึงต้องมีการใส่กุญแจมือ จึงพยายามที่จะห้ามพี่ และห้ามตำรวจด้วย ก่อนที่ตำรวจเชิญไปคุยกันต่อที่โรงพัก

ส่วนกรณีพี่ชายตนเองพูดคำว่าจะย้ายตำรวจทั้งโรงพักด้วย ซึ่งเกิดจากความมึนเมาเท่านั้นไม่ได้มีอะไรทั้งสิ้น ส่วนในสำนวนที่ตนทราบตำรวจเขียนคำว่าพี่ชายพูดว่าเป็นลูกของอัยการด้วย แต่ข้อความนี้ตนเองก็ไม่ทราบว่าพี่ชายพูดออกไปตอนไหน คืนนั้นตำรวจก็ได้ให้ตนดูสำนวนที่กำลังพิมพ์อยู่ ตนก็ได้อ่านดูจนไปสะดุดข้อความที่ว่าพวกตนเสพยามา ตนก็เลยทักท้วงไปว่าไม่ได้มีใครเสพยา ตำรวจก็ให้เหตุผลว่าสำนวนนี้ยังไม่ได้มีการแก้ไข ตนยังไม่ได้พูดอะไรต่อ ตำรวจก็เข้ามาใส่กุญแจมือทันที ทั้งที่ตนแค่ถามไม่ได้มีการขัดขวางเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ยอมรับว่าขณะนั้นตนก็เริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง แต่ก็พยายามควบคุม และจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พาพวกตนทั้งสองคนเข้าไปยังห้องขัง ซึ่งตอนที่กำลังจะเข้าห้องขังนั้นก็เริ่มรู้สึกโมโหเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ พวกตนถูกขังอยู่ในห้องขังประมาณ 5-6 ชั่วโมง จนถึงเกือบเที่ยงจึงได้มีการประกันตัว

ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนที่มาจากการเมา ทำให้ได้รู้ว่าหากเมาก็ไม่ควรเลอะเทอะ และควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ ซึ่งหากตนนิ่งไปทุกอย่างมันก็น่าจะดีกว่านี้ ล่าสุดวันนี้หลังจากศาลพิจารณาคดีแล้วก็ได้มีการพูดคุยกับตำรวจ และได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้ขอโทษและจับมือเพื่อยุติเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น