น้องเฟรนยันถูก 4 โจ๋ลวนลาม เจอหลักฐานสลับเสื้อ ถอดบ็อกเซอร์ทิ้ง – พ่อโจ๋โฮลูกติดคุก (คลิป)
โดยวันนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวฝากขังต่อศาล ล่าสุดญาติของนายโอมและนายพีท ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวคนละ 3.5 แสนบาท ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 12.00 น. ขณะที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายโต๋ พี่ชาย น.ส.เฟรน ได้มาสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งพี่ชายของน.ส.เฟรนได้พูดกับผู้ต้องหาขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนขึ้นไปนั่งบนรถควบคุมตัวว่า "พวกมึงไปรอตายในคุก ไอ้สั_ว์" ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดออกไปจาก สน.ดินแดง
โดยนายโต๋ยืนยันว่า น้องสาวตนยังมีสติก่อนจะไปร้านเหล้าร้านที่ 2 ไม่ได้เมาหนักตั้งแต่ร้านแรก และได้ไปดื่มต่อที่ร้านที่ 2 โดยดูได้จากคลิปที่น้องตนถ่ายว่ามีมิกเซอร์ครบทั้งเหล้า โซดา จึงยืนยันว่าน้องตนดื่มต่ออย่างแน่นอน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ต้องหาทั้ง 4 คนรับแล้วว่ามีการถอดเสื้อผ้า และลวนลาม เช่น การใช้ลิ้นและนิ้ว ส่วนเรื่องการสอดใส่อวัยวะเพศนั้นต้องรอดูผลทางการแพทย์ แต่ตนยังมีหลักฐานที่สามารถมัดตัวผู้ต้องหาได้ เพราะตนมั่นใจว่าผู้ต้องหาทำมากกว่าการลวนลามตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง
ทั้งนี้ น้องสาวตนระบุว่าช่วงก่อเหตุน้องตนมีสติ แต่ไม่มีเรี่ยวแรง โดยเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาสนุกสนานกันมาก เหมือนทำกันเป็นเรื่องปกติ โดยตนได้ข้อมูลมาว่าทั้ง 4 คนไม่ได้ก่อเหตุครั้งแรก มีผู้หญิงอีกหลายคนที่ถูกกระทำดังกล่าวแต่ไม่กล้าออกมา ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่วันนี้หลังจากเห็นว่าผู้ต้องหา 4 คนได้ฝากขัง น่าจะเป็นวันแรกที่นอนหลับ ซึ่งตนได้สาปแช่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คนว่า "ขอให้ไปตายในคุก" ใจอยากทำมากกว่านี้เพราะผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุถึง 4 คนซึ่งมากเกินไปเหมือนเดรนรก ส่วนสภาพจิตใจน้องค่อนข้างแย่ แต่ครอบครัวก็ให้กำลังใจ โดยน้องรู้สึกกลัวเกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีขั้นต่อไป เช่น การชี้ตัวผู้ต้องหา กลัวว่าจะชี้ผิด โดยพยายามบอกน้องสาวให้ตั้งสติ
ด้านนายแจ็ค (นามสมมติ) เพื่อนผู้เสียหาย บอกว่า ตนเองขึ้นไปเจอผู้เสียหายที่ห้อง แต่ประตูเปิดทั้งบานไม่ได้ เพราะมีโซ่คล้องจากด้านใน เห็นแค่เงาตะคุ่มคร่อมร่างผู้เสียหายอยู่ ตนเองจึงลงไปด้านล่างเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ระหว่างที่กำขึ้นมาก็สวนทางกับ 4 ผู้ต้องหา ตอนนั้นตนเองยังไม่รู้ว่าเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ซึ่งเมื่อเปิดห้องเข้าไป ตนเองจึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน
โดยขณะนี้หลักฐานดังกล่าวกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจได้เก็บรวบรวมไปเป็นหลักฐานแล้ว โดยพบว่าเพื่อนของตนนอนอยู่ในสภาพขาดสติ สวมใส่เสื้อสีดำมีลวดลายสกรีน ซึ่งเป็นคนละตัวกับที่สวมใส่มาดื่มกินที่ร้านแรก และกางเกงที่สวมใส่ กระดุมไม่ได้ติดเอาไว้ 1 เม็ด ขณะที่เสื้อชั้นในไม่ได้ติดตะขอ
นอกจากนี้ ยังพบกางเกงบ็อกเซอร์สีกรมท่า ขนาด XXL ซึ่งไม่ใช่ของคนภายในห้อง แต่เชื่อว่าเป็นของ 1 ใน 4 ผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่าเป็นของนายโอม เพราะเป็นบุคคลเดียวที่มีรูปร่างใหญ่
ทั้งนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ยังได้รับคลิปเสียงสำคัญ ซึ่งเป็นการพูดคุยระหว่างเพื่อนกับ น.ส.เฟรนในวันเกิดเหตุ ก่อนที่จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยเป็นคลิปเสียงสั้น ๆ ที่บางช่วงบางตอนเพื่อนได้สอบถามผู้เสียหาย หลังจากที่เข้าไปเจอสภาพนอนอยู่บนเตียงว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาทำอนาจารหรือไม่ ซึ่งผู้ต้องหาก็ยืนยันว่าถูกกระทำจริง แต่จำไม่ได้ว่ากี่คน
ด้านพ่อนายมิว หนึ่งในผู้ต้องหากล่าวว่า ตนและญาติของนายเติ้ลยังไม่ได้ประกันตัวลูกชาย เนื่องจากไม่มีเงิน โดยหลังจากนี้จะไปปรึกษาญาติเพื่อหาหลักทรัพย์ในการประกันตัวลูกชายต่อไป ขณะที่พี่สาวนายมิว กล่าวทั้งน้ำตาว่าเสียใจที่ไม่มีเงินพอจะประกันตัวน้องชาย โดยตนบอกน้องชายให้สู้ เพราะเชื่อว่าน้องไม่ได้ก่อเหตุตามที่ถูกกล่าวหา และน้องชายก็ยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ต้องรอดูหลักฐานของอีกฝ่าย เพราะการข่มขืนต้องมีหลักฐานที่มากกว่าการตรวจอวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วพบว่าฉีกขาด แต่เท่าที่ศึกษามาพบว่าต้องตรวจไปถึงดีเอ็นเอและอสุจิของฝ่ายชาย เพราะเรื่องอวัยวะเพศฉีกขาดนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไปกระเทือนถึงบริเวณดังกล่าว
ส่วนที่มีข่าวว่ากลุ่มผู้ต้องหารับเรื่องลวนลามผู้เสียหาย โดยใช้นิ้วและใช้ลิ้นนั้นตนไม่ทราบ แต่มองว่าหากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับไม่ได้รุมข่มขืน เนื่องจากไม่ได้สอดใส่อวัยวะเพศ และหากมีการลวนลามในลักษณะดังกล่าวจริง คิดว่าน้องชายตนทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ตนคิดว่าอยากให้มองว่าทั้ง 2 ฝ่ายเป็นคนที่ไปเที่ยวด้วยกัน