มะนาวถูก “แม่มณี” หลอก ยันไม่คิดเอาสมบัติจ่ายคืน– อึ้งขุมทรัพย์มณี ขายคืนเหยื่อยังไม่พอ (คลิป)

หน้าแรกTeeNee คลิปเด็ด ข่าว เหตุการณ์ การเมือง มะนาวถูก “แม่มณี” หลอก ยันไม่คิดเอาสมบัติจ่ายคืน– อึ้งขุมทรัพย์มณี ขายคืนเหยื่อยังไม่พอ (คลิป)

จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ แม่มณี อายุ 30 ปี และ นายเมธี ชิณภา หรือบอส อายุ 20 ปี แฟนหนุ่ม ผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยมีผู้เสียหายถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ โดยอ้างว่าได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 93 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามรถจับกุมตัวได้ และ คุมตัวไป จ.อุดรธานี

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว แม่มณี และ แฟนหนุ่ม ไปสอบปากคำโดยแยกกันสอบปากคำคนละห้อง จากนั้นได้พาผู้ต้องหาทั้ง 2 มาพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยแม่มณี เปิดเผยว่า ไม่จำเป็นขอโทษผู้เสียหาย เพราะไม่ผิดอะไรและไม่ได้รู้สึกเครียด ส่วนเรื่องที่จะมีการคืนเงินให้กับผู้เสียหายนั้น ตนไม่ขอตอบ เพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวนคดี ทั้งนี้ตนอยากให้สื่อเลิกตามได้แล้ว อย่ามาวุ่นวาย

ต่อมาในช่วงบ่าย หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเมธี ชิณภา และน.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือแม่มณี มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยแม่มณี เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่เครียด ตอนนี้บัญชีและทรัพย์สินโดนอายัดอยู่ ขอรอเคลียร์ปัญหาตรงนี้ก่อน ถ้าประกันตัวได้ จะไปเคลียร์กับทุกคนแน่นอน ยืนยันตอนนี้ไม่ได้โกงและไม่ได้หลบหนี นอกจากนี้ตนไม่เคยชักชวนให้แม่ข่ายไปหาลูกข่ายมา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากความโลภที่ทุกคนอยากได้เปอร์เซ็นต์ เพราะในสลิปลูกข่ายโอนเงินให้แม่ข่าย ไม่ได้โอนเงินให้ตน ส่วนกรณีที่ตนกินพระเอกดังบนรถ อยากบอกว่า คนเราถ้าจะไปเอากันบนรถ ตนไม่เอาหรอก ขอไปเปิดโรงแรมดีกว่า

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวแม่มณีไปที่ห้องสอบสวน โดยมีทนายความของแม่มณี ร่วมกันฟังการสอบสวน โดยในวันที่ 4 พ.ย. จะนำตัวแม่มณีพร้อมแฟนหนุ่ม ไปขออำนาจจากศาลเพื่อฝากขัง เป็นครั้งแรก

ขณะที่เส้นทางการเงินของแม่มณี ทั้งหมดที่มีอยู่ ได้แก่ รถยนต์ 4 คัน บ้าน 1 หลัง ที่กทม.มูลค่า 30 ล้านบาท เงินสดจำนวนหนึ่งมีที่มีการกระจายไปให้ญาติพี่น้อง และบ้านอีก 2 หลัง ที่จ.อุดรธานี และยังพบว่าแม่มณี ยังมีแหล่งเงินทุน อีกจำนวนหนึ่งจากเฮียกู้ ซึ่งเป็นคนปล่อยเงินกู้ใน จ. อุดรธานี

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยังบ้านแม่ของแม่มณี บ้านเอื้ออาทร หมู่ 1 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี พบเป็นร้านเสริมสวย ทีมข่าวสอบถาม นายสมบัติ ศรีสุข อายุ 49 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า หลังจากเกิดเหตุไม่เคยเห็นใครมาอยู่บ้านหลังนี้ ปกติแล้วครอบครัวนี้พูดจาดี มีอัธยาศัยดี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร รู้เพียงว่าไปเปิดร้านทำธุรกิจในเมือง ไม่ได้ถามอะไรมาก จนมาทราบข่าวดังกล่าว

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ นายเมธี ชิณภา หรือบอส แฟนหนุ่มแม่มณี บริเวณชุมชนพาสุขมั่นคง ซึ่งเป็นบ้านของนายเมธี ทีมข่าวได้สอบถามกับ นางสมศรี (นามสมมติ) อายุ 63 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า หลังจากเกิดเหตุ ครอบครัวบอสเก็บของออกจากบ้านไปหมดแล้ว ซึ่งไม่ทราบว่าไปไหน ส่วนพฤติกรรมของคนในบ้านจากที่เคยพูดคุยก็พูดจาดี และไม่ได้มีพฤติกรรมผิดปกติอะไร ทั้งนี้ตนเคยเห็นแม่มณี ขับรถหรูป้ายแดงมาที่บ้านหลังนี้ด้วย

เหยื่อที่แจ้งความจับแม่มณีกับแฟน ขณะนี้ มีการไปแจ้งความกับ ดีเอสไอมากกว่า 2,000 ราย มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 900 ล้านบาท ที่จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ มากกว่า 30 ราย มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 40 ล้านบาท ที่จ.สตูลและพังงา มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ รวมกัน มากกว่า 80 ราย มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 44 ล้านบาท ที่เขตตำรวจภูธร ภาค 4 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ มากกว่า 277 ราย มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 157 ล้านบาท ที่จ.ตราด มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ มากกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 23 ล้านบาท และที่จ.นนทบุรี มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความมากกว่า 30 ราย มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 20 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด มากกว่า 1,000 ล้านบาท

ด้าน น.ส.ไอซ์ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย จากจ.อุดรธานี บอกว่า ตนส่งเงินให้แม่มณีมากสุดคือครั้งละ 100,000 บาท ทั้งที่ตนยังไม่ได้หักเก็บเปอร์เซ็นเก็บไว้สักบาทเดียว หลังจากเกิดเรื่องตนรู้สึกแย่มาก กับการกระทำของแม่มณี ที่ทำให้ชีวิตของตนต้องมาพังด้วย เพราะตนก็หวังว่าอยากจะแบ่งเบาภาระครอบครัว ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปโกงใคร ทุกครั้งที่ได้เงินมาจากลูกค้าก็ทำบัญชีและส่งให้แม่มณีทุกบาท แม่มณียังไม่โอนเงินค่าเปอร์เซ็นในส่วนที่ตนควรจะได้ แต่มาหนีหายไปแบบนี้ทำให้ตนสูญเสียเงินที่ควรจะได้รับ รวมกับเงินของลูกค้าที่ส่งเข้ามาผ่านตนถูกโกงไปทั้งหมด จำนวน 1.3 ล้านบาท ส่วนตัวหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวแม่มณีได้ รู้สึกดีใจ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้หวังว่าจะได้เงินคืนกลับทั้งหมด สาเหตุที่เดินทางมาแจ้งความเพื่อเป็นการเซฟตัวเองไว้ ป้องกันลูกค้าจะแจ้งความจับตน ที่อาจคิดว่าตนมีส่วนรู้เห็นกับการช่อโกงครั้งนี้

ขณะที่ น.ส.ดาว (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย บอกว่า เริ่มเข้าไปรู้จักกับแชร์แม่มณี ตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จากการดูเพจเฟซบ๊กขายของของแม่มณี เริ่มต้นฝากเงินมูลค่า 6,000บาท และยอมรับว่าได้รับปันผลมากถึง 93% จริง จึงได้เพิ่มเงินในเดือนถัดไป จากหลักหมื่นไปสู่หลักแสน กระทั่งญาติพี่น้องและคนรู้จัก ขอให้นำเงินไปฝากและร่วมเล่นด้วย โดยตนไม่ได้มีการโฆษณาหรือโพสต์ แต่เพราะหลายคนเห็นการเปลี่ยนแปลง รวมถึงตัวเองมีเงินใช้ จึงสนใจร่วมลงทุน หลังจากเกิดเรื่องขึ้นก็มีเงินถูกโอนไปจำนวนกว่า 4,312,000บาท ทำให้ตอนนี้ต้องแบกรับภาระทั้งหมด โดยทุกคนทวงเงินคืน บางคนสามารถไกล่เกลี่ยได้ แต่บางคนก็ไม่ยอมจึงดำเนินคดีกับตน

จนกระทั่งเริ่มมีคนรู้จักญาติพี่น้อง ขอให้นำไปฝากและร่วมเล่นด้วย โดยตนเองไม่ได้มีการโฆษณาหรือโพสต์ แต่เพราะหลายคนเห็นการเปลี่ยนแปลง รวมถึงตัวเองมีเงินใช้ จึงสนใจร่วมลงทุน จนกระทั่งล่าสุด หลังจากเกิดเรื่องขึ้นก็มีเงินถูกโอนไปจำนวนกว่า 4,312,000บาท แล้วตอนนี้ตนเองต้องแบกรับภาระทั้งหมด โดยทุกคนทวงเงินคืน บางคนสามารถที่จะไกลเกลียกันได้ แต่บางคนซึ่งไม่ยอมรับฟัง มีประมาณ 2-3ราย ได้ดำเนินการฟ้องดำเนินคดีกับตนเอง ในฐานะลูกแชร์คนหนึ่ง อยากจะให้แม่มณีออกมารับผิดชอบ และคืนเงินให้กับลูกแชร์

ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของ น.ส.จุฑาทิพย์ หรือ มะนาว แต่ไม่พบตัว จึงติดต่อทางโทรศัพท์ น.ส.จุฑาทิพย์ เปิดเผยว่า ตนเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษในวันพุธนี้ ตนเองยืนยันว่าเงินไม่ได้อยู่กับตน ตนเป็นแม่ทีมทั่วไปที่ส่งเงินทั้งหมดไปให้แม่มณี แต่สื่อฯกับให้ความสนใจตน เพราะตนเป็นคนมีชื่อเสียงจากข่าวก่อนหน้านี้ จากนี้ตนก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีเหมือนเช่นกัน หลังจากทราบข่าวว่าแม่มณีถูกจับ ก็ขอทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ที่ผ่านมาตนเองก็ไม่ได้ติดต่อตรงกับแม่มณี แต่ติดต่อผ่านแอดมิน ส่วนลูกทีมที่เป็นผู้เสียหายของตน ตนเองก็ยังคงติดต่ออยู่ ยอมรับตอนนี้ตนไม่มีเงินคืน เพราะยอดเหลือต้องชดใช้ในลูกทีมตนสูงกว่า 71 ล้านบาท ส่วนเงินที่ตนได้มา 43% เป็นปันผลจากการออมเงิน ยอดเป็นหลัก หลาย 10 ล้านบาท ตนก็ใช้เงินกับลูกทีมไปทั้งหมดแล้ว ตนก็ไม่มีเงินจะเอาไปคืนผู้เสียหายคนอื่นแล้ว ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่มีอะไรพูดถึงแม่มณี ตนไม่ได้โกรธ และไม่รู้สาเหตุที่มีปัญหา

ส่วนเรื่องทรัพย์สินของตน ยืนยันว่าจะไม่มีการขายมาใช้หนี้แน่นอน เพราะตนมีหลักฐานว่าไม่เกี่ยวกับเงินออมแม่มณี ตนมีเงินจากการขายของออนไลน์ ตนก็ถูกหลอกไม่ต่างจากแม่ทีมคนอื่น ส่วนตัวมีการเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี และดีเอสไอแล้ว ตนเองไม่ได้หนี ส่วนธุรกิจเงินออมกับแม่มณี ตนทำมาระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน มีเงินหมุนเวียนหลัก 100 ล้าน

นอกจากนี้ ยอมรับว่าที่รู้จักกันมา พี่เดียร์เป็นคนดีคนหนึ่ง เหมือนเป็นพี่น้องกัน รู้จักกันผ่านการทำธุรกิจ ตนไม่เคยว่าพี่เดียร์ไม่ดี แต่เรื่องคดีก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ ซึ่งตนเองไม่ได้เครียด กังวลเพียงความรู้สึกของครอบครัว

ขณะที่ น้าสาวของมะนาว ระบุว่า ไม่สามารถติดต่อมะนาวได้ หลังจากย้ายออกไปอยู่ด้านนอก ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน ส่วนของพ่อแม่มะนาว ก็ไม่อยู่เช่นกัน ส่วนตัวตนไม่ทราบเรื่อง และไม่อยากตอบคำถาม เพราะว่าเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนตนเองจะบ้าอยู่แล้ว อยากให้รอมะนาวออกมาให้ข่าวเองมากกว่า

ด้าน ป้าของมะนาว ระบุว่า ไม่อยากพูดเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะขี้เกียจ และไม่มีข้อมูลอะไรให้ ทั้งพ่อแม่มะนาวก็ไม่อยู่ ตอนนี้ออกไปทำงานกันหมด ส่วนจะกลับมาหรือไม่ก็ไม่ทราบ อีกทั้งยังไม่ได้เจอมะนาวด้วย