พี่ชาย “น้องเฟรน” งัดแชทแฉ 4 โจ๋รุมโทรมขอเจรจา – พ่อคนผิดโฮ รับลูกลวนลามจริง (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพและข้อความ ตามหากลุ่มวัยรุ่นชาย 4 คน พาน้องสาวชื่อ น.ส.เฟรน (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ซึ่งมีสภาพคล้ายคนหมดสติเข้าไปในห้องพักแห่งหนึ่ง ย่านดินแดง ก่อนทำมิดีมิร้าย เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 29 ต.ค. 62 ต่อเนื่องวันที่ 30 ต.ค. 62 โดยเพื่อนเข้าไปพบในห้อง ในสภาพน้ำลายฟูมปาก เสื้อผ้าหลุด จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับวัยรุ่นทั้ง 4 คน คือ นายเติ้ล, นายโอม, นายพีช และนายมิว ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมได้ทั้ง 4 คน ก่อนนำตัวฝากขังต่อศาล และล่าสุดได้รับการประกันตัว 2 คน คือ นายพีท และนายโอม

ทั้งนี้ นายโอม ผู้ต้องหา ที่ถูกประกันตัวออกมา ได้โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรม ลักษณะท้าทาย โดยระบุว่า "คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด เพราะทุกคำพูด จะเป็นหลักฐานในการกระทืบคน"

ล่าสุด นายโต๋ พี่ชายของน.ส. เฟรน (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยในรายการต่างคนต่างคิด ว่า วันพรุ่งนี้ ตนจะเดินทางไปยื่นขอค้านประกันตัวผู้ต้องหา กรณีนายโอม ได้รับการประกันตัว แล้วโพสต์อินสตาแกรมข่มขู่ตน สภาพจิตใจน้องสาวในขณะนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ แต่หลังจากที่นายพีท และนายโอม ได้รับการประกันตัวออกมา น้องสาวเริ่มกังวล วันที่ตำรวจคุมตัวนายเติ้ล มาที่ห้องสอบสวน ตำรวจให้ตนเจรจากับนายเติ้ลว่า จะหาข้อตกลงได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้นายเติ้ล รับสารภาพเบื้องต้นทั้งหมดแล้ว ว่าเป็นคนถอดเสื้อ เปลี่ยนเสื้อ ถอดกางเกง ถอดกางเกงใน มีการใช้นิ้วและลิ้นสอดใส่ในอวัยวะเพศ ส่วนการร่วมเพศ นายเติ้ลปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ส่วนเพื่อนคนอื่นนายเติ้ล บอกว่าไม่ทราบเพราะในห้องมืด และจำอะไรไม่ได้ ซึ่งคำสารภาพทั้งหมดนี้ ตนเชื่อว่าผู้ต้องหาอีก 3 คน ยังไม่ทราบ

พี่ชาย “น้องเฟรน” งัดแชทแฉ 4 โจ๋รุมโทรมขอเจรจา – พ่อคนผิดโฮ รับลูกลวนลามจริง (คลิป)

ภาพที่น้องสาวเหมือนคนหมดสติถูกหิ้วปีก ตนไม่เชื่อว่าจะไม่มีมีการข่มขืนน้องตน เพราะถ้าหากให้ 2 คน ขึ้นไปส่ง และอีก 2 คน รออยู่ข้างล่างน่าจะดีกว่าหรือไม่ ต่อมา 4 คนนั้น ทำไมถึงต้องล็อกห้องถึงสองชั้น และอยู่ในห้องน้องสาวตนนานถึง 42 นาที อีกทั้งยังมีการดับไฟในห้องด้วย นอกจากนี้มีพยานเห็นชัดเจนว่ามีชายคนหนึ่งคร่อมร่างน้องสาวตน รวมถึงบ๊อกเซอร์ที่ผู้ต้องหาถอด โดยอ้างว่าที่ถอดเพราะเปียกน้ำ

นายโต๋ บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้นายโอม ส่งข้อความมานัดขอคุยกับตน บอกว่าไม่อยากคุยที่ สน. อยากคุยที่อื่น แต่ตนไม่ยอม หากจะมีการเจรจากันต้องให้ตำรวจเป็นคนกลาง และยังขอให้ตนลบคลิปที่ประคองน้องสาวขึ้นห้องอีกด้วย หลังจากนั้นนายโอมก็หายไป

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายท็อป (นามสมมติ) พ่อของนายพีท หนึ่งในผู้ต้องหา เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายตนออกไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ กระทั่งมาทราบข่าวว่าลูกชายตนปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด เรื่องของรายละเอียดพฤติการณ์ ตนได้คุยกับลูกคร่าวๆ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด ลูกชายยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืน ยอมรับเพียงว่ามีการลวนลามขณะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผู้เสียหาย เพราะผู้เสียหายเมาและอาเจียนออกมา เรื่องการสอดใส่อวัยวะเพศ รวมถึงรุมโทรม ลูกชายยืนยันกับตนว่าไม่ได้ทำ แต่ตนก็ไม่ได้เชื่อลูกร้อยเปอร์เซ็นต์ ในส่วนของลูกชายยืนยันว่าปฏิเสธ

ส่วนที่ลูกชายถอดบ็อกเซอร์ออก เพราะกางเกงเปียกหลังทำกิจกรรมรับน้อง ซึ่งมีหลักฐานพิสูจน์ได้ ตนอยากกราบขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย รู้สึกเห็นใจและสงสารคู่กรณี ยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้างลูก ไม่ปกป้องลูก ตนไม่ได้มีอิทธิพล ไม่ใช่นายทหารยศใหญ่ ยอมรับว่าเป็นเพียงลูกจ้างตัวเล็กๆเท่านั้น ไม่มีการแทรกแซงขอให้ช่วยคดีอย่างแน่นอน