แฉ!แก๊งจับลิขสิทธิ์กระทง เด็กโชว์แชตล่อซื้อ ขู่ไม่จ่ายเงินโทษประหาร(คลิป)

จากกรณีเด็กหญิงวัย 15 ปี นักเรียน จ.นครราชสีมาหารายได้พิเศษ ประดิษฐ์กระทงขนมปังขาย ซึ่งปกติทำเป็นลายดอกไม้ โดยวันที่ 1 พ.ย. 62 ถูกคนติดต่อมาทางอินบ็อกซ์สั่งทำกระทงรูปการ์ตูน ลายริลัคคุมะ 10 อัน ลายการ์ฟิลดิ์ 10 อัน ลาย มินเนียน 5 อัน ลาย คิตตี้ 5 อัน วันที่ 2 พ.ย. ทำกระทงตามออร์เดอร์ วันที่ 3 พ.ย. มีการนัดแนะให้ไปส่งของที่ประตูย่าโม กลับถูกล้อมจับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ก่อนถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ล่อซื้อ พูดข่มขู่ เรียกเงิน 50,000 บาท เจรจาต่อรองจ่าย 5,000 บาท เพื่อไกล่เกลี่ย

ด้าน แม่ของน้องมาย ผู้เสียหายจากจ.นครราชสีมา เปิดใจผ่านรายการต่างคนต่างคิด ว่า

วันที่ 9 ต.ค. มีคนสั่งออร์เดอร์ว่าต้องการกระทง ลายริลัคคุมะ 10 กาฟิว 10 โดเรม่อน 10 และเป็ด 10 อัน รวม 50 ใบ ขายใบละ 25 บาท วันที่ 16 ต.ค. คือวันส่งของ ตนไปส่งของกับลูกสาวและสามี พอถึงโลตัสที่นัดส่งของ นายนัน คนที่สั่งซื้อกระทงอ้างตัวว่าเป็นทนายลิขสิทธิ์และเข้ามาถ่ายรูปทันที และอ้างว่าบริษัทลิขสิทธ์แจ้งมาว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์

จากนั้นก็สั่งให้ขึ้นรถตำรวจไปโรงพัก พอถึงโรงพักก็ถูกจับแยกห้อง นายนัน ได้แจ้งข้อหา 3 คน คือ สามีโดนข้อหาฐานคนขับรถมาส่ง ตนโดนข้อหาฐานสมรู้ร่วมคิด และลูกสาวคนทำกระทงโดนข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนค่าละเมิดลิขสิทธิ์ที่จะต้องจ่ายคือ 400,000 บาท พร้อมกับขู่ด้วยว่ามีโทษจำคุกถึงประหารชีวิต ตนร้องไห้ยกมือไหว้ขอร้อง แต่อีกฝ่ายไม่สนใจจะเอาเงินให้ได้ นายนันได้ลดเงินเหลือ 50,000 บาท แต่ตนหาเงินมาให้ได้แค่ 15,000 บาท สรุปอีกฝ่ายยอมลดให้เหลือ 30,000 บาท

จึงจ่ายไป ยอมรับว่าเดือดร้อนมากเพราะตนเอาฉโนดที่ดินไปจำนอง และเอาสร้อยทองของลูกสาวไปขายเพื่อมาจ่าย

แฉ!แก๊งจับลิขสิทธิ์กระทง เด็กโชว์แชตล่อซื้อ ขู่ไม่จ่ายเงินโทษประหาร(คลิป)

พร้อมกับขู่ด้วยว่ามีโทษจำคุกถึงประหารชีวิต ตนร้องไห้ยกมือไหว้ขอร้อง แต่อีกฝ่ายไม่สนใจจะเอาเงินให้ได้ นายนันได้ลดเงินเหลือ 50,000 บาท แต่ตนหาเงินมาให้ได้แค่ 15,000 บาท สรุปอีกฝ่ายยอมลดให้เหลือ 30,000 บาท จึงจ่ายไป ยอมรับว่าเดือดร้อนมากเพราะตนเอาฉโนดที่ดินไปจำนอง และเอาสร้อยทองของลูกสาวไปขายเพื่อมาจ่าย

ด้านน.ส.เบญ ผู้เสียหายจากจ.นครราชสีมา เปิดใจผ่านรายการต่างคนต่างคิด ว่า วันที่ 14 ต.ค. มีออร์เดอร์สั่งให้ทำกระทงทั้งหมด 30 ใบ พอถึงที่นัดส่งของ มีกลุ่มคนเกือบ 10 คน เข้ามาล้อม และบอกว่าตนละเมิดลิขสิทธิ์ อ้างว่าสงสัยอะไรให้ไปคุยที่โรงพัก อีกฝ่ายเรียกเงินค่าปรับ 50,000 บาท และสั่งให้เซ็นชื่อรับสารภาพ ตนจึงขอลดเงินเหลือ 30,000 บาท แต่ตนไม่ยอมจ่ายเงิน ตนจึงเตรียมทำสำนวนฟ้องศาล ล่าสุดมีผู้เสียหายที่โดนแบบเดียวกันตั้งกลุ่มแชตขึ้นมาประมาณ 100 ร้อยกว่าคน นอกจากนี้ ตนอยากให้ผู้มีความรู้ทางกฎหมายยื่นมือเข้าช่วย เพราะตนไม่มีความรู้ เพียงต้องการขายของหากำไร 5-10 บาท ไม่รู้ว่ามีความผิด ตอนนี้ตนเข็ดมาก ไม่กล้าขายกระทงอีกแล้ว

ลำดับขั้นตอนการล่อซื้อกระทง เริ่มจาก มีการทักอินบ็อกซ์ สั่งทำสินค้าลวดลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ พอสั่งเสร็จผู้เสียหายก็จะเริ่มผลิตสินค้าตามออร์เดอร์ จากนั้นคือวันที่นัดรับสินค้า มีกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คน เข้ามารุมล้อม และแสดงตัวเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ โดยบอกว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ และพาไปคุยที่โรงพักเพื่อเรียกเงิน ถ้าหากผู้เสียหายยอมจ่ายเงินเรื่องถึงจะจบ หากไม่ยอมจ่ายก็ต้องติดคุก

ส่วนข้อพิรุธจับลิขสิทธิ์กระทงลายการ์ตูน มีทั้งห้ามผู้เสียหายถ่ายรูป ไม่แสดงบัตรพนักงานผุ้รับมอบอำนาจ ข่มขู่ถ้าไม่จ่ายเงินมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต ใช้กลุ่มชายฉกรรจ์กดดันผู้เสียหาย

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาที่บ้านของผู้ใช้เฟซบุ๊ก “นัน กิ่งเพชร” ในกทม. สอบถาม นายสมรักษ์ แซ่เก่า เพื่อนบ้าน บอกว่า นายนันอาศัยอยู่ที่นี่จริง โดยภรรยาของนายนันจะขายลูกชิ้นอยู่ในซอย ส่วนตัวอยู่บ้านใกล้กันแต่ไม่เคยทราบว่านายนัน ไปหาเงินกับการจับลิขสิทธิ์ ตนเองเพิ่งมาทราบข่าวที่ระบุว่านายนัน ไปจับเด็กที่ทำกระทง ตนรู้สึกว่าสิ่งที่นายนัน ทำไม่ถูกต้อง เป็นการเบียดเบียนคนอื่น ไม่คิดว่าเขาจะหาเงินโดยวิธีนี้ ที่ผ่านมาไม่เห็นนายนัน มาบ้านสักพักล้ว ส่วนภรรยานายนัน ตนไม่เห็นมา 3 วันแล้ว ยืนยันว่า นายนันและครอบครัว เป็นคนอัธยาศัยดี อดีตนายนัน เคยขับวินรับจ้างอยู่ย่านนี้ ไม่ใช่คนมีฐานะ มีเพียงรถกระบะเก่า ๆ 1 คัน อีกทั้งนายนัน ยังเคยมายืมเงินตนบ่อยครั้ง แต่ก็คืนตลอด

นายนัน คนสั่งทำกระทง

ด้าน น.ส.กิ๊บ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ผู้เสียหายจากจ.นครราชสีมา ที่ขายเสื้อผ้าลิขสิทธิ์ บอกว่า มีผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ Direm Nooni ส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊ก สั่งเสื้อยืดลายกาฟิว 4 ตัว และลาย มิคกี้เมาส์ อีจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหมด 20 ตัว โดยนัดรับที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

ขณะนั้นได้มีคนเข้ามาล้อมจับ ประมาณ 6-7 คน เป็น ผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 5 คน หนึ่งในกลุ่มนั้นอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ ทนายความ และมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภาค 3 ที่แสดงบัตรประจำตัวออกมาให้ดู

น.ส.กิ๊บ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ผู้เสียหายจากจ.นครราชสีมา

จากนั้นได้จับกุมตนมาที่ สภ.โพธิ์กลาง ขู่ว่าเป็นคดีอาญา หรือถึงขั้นติดคุกเลย โดยเรียกเงินตน 100,000 บาท ตนจึงขอไกล่เกลี่ยจนเหลือ 40,000 บาท และขู่ด้วยว่าจะยึดรถเดก๋งไว้เป็นของกลางหากไม่ยอมจ่ายเงิน ในที่สุดตนก็ต้องจ่ายเงินให้ไป ตนรู้สึกเสียใจมาก ที่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ต้องไปหยิบยืมเงินจากคนอื่นมา

ชมคลิป

VVVV

VVVVVV