เปิดใจ นร.หญิง ถูกแม่อริตบ แฉอีกฝ่ายใส่ร้ายตั้งท้องเลยท้าตบใน รร. ก่อนโดนรุมแก้แค้น (คลิป)
วันที่ 9 พ.ย. 62 จากคลิปพบว่า น.ส.แยม อายุ 16 ปี ได้วิ่งหนีไปบอกตำรวจที่กลางถนน ขณะเดียวกัน น.ส.ก้อย อายุ 17 ปี (คนที่ถูกกระชาก) ยืนอยู่หน้าโรงเรียน ก็มีกลุ่มผู้หญิงใส่แมสปิดปากวิ่งไล่มาและกระชาก น.ส.ก้อย จนล้ม และรุมตบ หลังจากนั้นกลุ่มผู้หญิงก็วิ่งไปรุมตบกับ น.ส.แยม ที่กลางถนน
น.ส.แยม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนมีเรื่องบาดหมางกับเพื่อนผู้หญิง ชื่อเจ ทะเลาะกันตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพูดส่อเสียดกันมาตลอด กระทั่งล่าสุด อีกฝ่ายได้ปล่อยข่าวว่าตนท้อง ทั้งที่ไม่เป็นความจริง จึงมีการท้าตบตัวต่อตัวกัน เหตุเกิดขึ้นวันที่ 5 พ.ย. 62 ตนและคู่กรณีได้ตบกันภายในโรงเรียน ไม่มีการรุม แต่สุดท้ายก็ไปจบกันที่ห้องปกครอง โดยมีการสัญญาว่าจะไม่มีเรื่องกันอีก
กระทั่งตอนเย็นของวันเดียวกัน ขณะที่ตนและ น.ส.ก้อย กำลังขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ก็มีกลุ่มผู้หญิง ซึ่งเป็นแม่ของคู่กรณีใส่แมสขี่มอเตอร์ไซค์มาประกบ และทุบหน้าตน พร้อมกับเอาเท้ายันรถตน ตนจึงเร่งเครื่องหนีไปจอดหน้าโรงเรียนอื่น และตนพยายามวิ่งหนีไปบอกตำรวจที่กลางถนน หลังจากนั้นกลุ่มผู้หญิงก็วิ่งไปกระชาก น.ส.ก้อย เพื่อนตนที่ยืนอยู่จนล้มและรุมตบ ซึ่งเพื่อนตนก็พยายามบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากนั้นกลุ่มผู้หญิง 2 คน ก็วิ่งตามมาตบตนที่กลางถนนตามในคลิป นอกจากนี้ แม่ของคู่กรณีคิดว่าพวกตนไปรุมลูกเขา แต่ตนยืนยันว่าการตบนั้นตัวต่อตัวทุกครั้ง ตอนนี้ยืนยันว่าจะให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพราะผู้ใหญ่มาตบเด็กก็เป็นเรื่องไม่สมควร
ด้าน น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้ถูกกระชากจนล้ม เปิดเผยว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตบของเพื่อน และตนไม่ได้ไปรุมคู่กรณีด้วย แต่เข้าใจว่าแม่ของคู่กรณีคิดว่าตนไปรุมตบลูกเขา จึงได้มากระชากตนจนล้ม และรุมตบตน ซึ่งขณะเกิดเหตุตนก็พยายามปฏิเสธตลอด ขณะนั้นตนก็ยอมรับว่าไม่รู้ตัวว่าจะถูกทำร้าย จึงไม่คิดจะวิ่งหนี
ทั้งนี้ ตอนที่เพื่อนตบกันนั้น ตนได้เข้าไปห้ามด้วย ซี่งอาจจะทำให่อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าตนไปรุม แต่ตนก็ยืนยันว่าไม่ได้ไปรุม อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนแทบไม่กล้าไปโรงเรียน เพราะกลัวเขาดักทำร้ายอีก ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจที่คนที่เป็นผู้ใหญ่แต่มาทำร้ายเด็ก
ด้าน ร.ต.อ.ทรงพล ตันเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ให้ข้อมูลว่า พรุ่งนี้จะมีการเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงทางโรงเรียนมาพูดคุยไกล่เกลี่ยหาทางออก แต่หากไม่ลงตัว ก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย