เปิดปมฆ่าหน้าบัลลังก์ 3 ศพ อดีตภรรยา พล.ต.ต.เผยการตายของสามี เชื่อเรื่องที่ดิน 300 ล้านส่อถูกยึด (คลิป)

จากกรณี พล.ต.ต.ธานินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี ก่อเหตุยิงคู่กรณี ระหว่างเข้ารับฟังการพิจารณาคดี ภายในศาลจังหวัดจันทบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ โจทก์ นายวิจัย สุขรมย์ ทนายโจทย์ เเละ พล.ต.ต.ธานินทร์ ผู้ก่อเหตุ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลยิงได้รับบาดเจ็บ เเละเสียชีวิตในเวลาต่อมา เเละมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายวิชัย อุดมธนภัทร ทนายโจทย์ เเละ นางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ภรรยานายบัญชา ส่วนสาเหตุสืบเนื่องจากผู้ก่อเหตุและคู่กรณีมีการฟ้องร้องทางแพ่งเกี่ยวกับที่ดินกันมานานกว่า 10 ปี ซึ่งครั้งนี้มีการฟ้องทางอาญาด้วยในข้อหาฟ้องเท็จ

นายสุรินทร์ ชลพัฒนา เลขาธิการประธานศาลฎีกา บอกว่า ประธานศาลฎีการู้สึกไม่สบายใจและมีความกังวลใจ ทั้งมีความเป็นห่วง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานศาลยุติธรรม ทบทวนตรวจทานดูระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมด ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตัวบุคลากร หรืออุปกรณ์รักษาความปลอดภัย จะได้นำไปปรับปรุงแก้ไข เหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเวลาก่อนลงมือสืบพยานจำเลยนัดแรก หลังจากสืบโจทก์มาแล้ว 20 นัด จำเลยที่ 3 ที่มียศ พล.ต.ต.เป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งในช่วงเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกัน อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค2 กำลังตรวจราชการเยี่ยมศาลจังหวัดจันทบุรี โดยหัวหน้าศาลกำลังกล่าวรายงานก็ได้ยินเสียงปืนหลายนัด เเละทราบภายในเวลาต่อมาว่าจำเลยที่ 3 ใช้ปืนพกสั้นที่ซุกซ่อนมิดชิด จ่อยิงโจทก์ ทนายโจทก์ ตาย และกระสุนถูกภรรยาทนายโจทก์บาดเจ็บ ในเวลาเดียวกัน ตำรวจจาก สภ.เมืองจันทบุรี วิ่งเข้าหน้าห้องพิจารณา แต่เกิดอาการโรคประจำตัวกำเริบ จึงส่งปืนให้เสมียนทนายโจทก์ ยิงใส่จำเลยที่ 3 ผ่านกระจกประตูห้องพิจารณา ถูกร่างจำเลยที่ 3 ถึง 6 นัด จนเสียชีวิต

ด้าน ร.ต.อ.อรุณ สุกใส อายุ 62 ปี นายตำรวจเกษียณราชการ อดีตลูกน้องพล.ต.ต.ธานินทร์ บอก ผู้การธารินทร์เป็นคนเจ้าระเบียบ ค่อนข้างใจร้อน สั่งงานอะไรไปแล้วจะติดตามความคืบหน้า หากใครหละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่จะถูกเรียกไปตำหนิส่วนตัว ภาพที่ลูกน้องทุกคนจำได้คือผู้การเป็นคนมีน้ำใจ รักลูกน้อง ถ้าลูกน้องไม่ผิดท่านจะช่วยสุดกำลัง เรื่องอารมณ์รุนแรงจนถึงกับใช้อาวุธปืนตัดสินนั้น เท่าที่ร่วมงานกันตลอด 2 ปี ผู้การธานินทร์เป็นคนมีภาวะผู้นำ ใจร้อนบ้างแต่ไม่เคยมีปัญหาความรุนแรงถึงขั้นหยิบปืนออกมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศาลจังหวัดจันทบุรี ในฐานะลูกน้องเก่ารู้สึกช็อกเหมือนกัน ไม่คิดว่าผู้การธานินทร์จะตัดสินปัญหาด้วยอาวุธแบบนี้

ขณะที่ น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยาของ พล.ต.ต.ธานินทร์ ผู้ก่อเหตุ บอกว่า​ สาเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความกดดัน หลังจากสามีไม่ได้รับความเป็นธรรม เกี่ยวกับที่ดิน 3,800​ ไร่​ ในจังหวัดจันทบุรี​ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท​ มานานกว่า 8 ปี​ ซึ่งที่ดินดังกล่าวเดิมเป็นของนายสมพล โกศลานันท์ คุณตาของตน ส่วนสามีอาจเกิดความเครียดที่ทุ่มเททำความดีให้กับพระพุทธศาสนา​ ปกติสามีไม่เป็นคนไม่พกอาวุธติดตัว เป็นคนใจดี ไม่ได้มีจิตใจเหี้ยมโหด ตนเสียใจมากเพราะคดีนี้ถือเป็นคดีของตระกูลตน ซึ่งสามีเป็นผู้ยื่นมือเข้ามาช่วย สามีจะพูดเสมอว่าจะสู้ให้ถึงที่สุด เเละจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะถ้ายอมแพ้ถือว่าเสียศักดิ์ศรี การตายของสามีครั้งนี้ถือเป็นการเสียสละ หวังว่าสามีจะไม่ตายฟรี เเละอยากจะขอโทษสามีที่ดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้

นอกจากนี้ นายเตชนิธิ ชัยณรงวิทย์ ทนายความของ พล.ต.ต.ธานินทร์ บอกว่า สิ่งที่ทำให้พล.ต.ต.ธานินทร์ ตัดสินใจก่อเหตุ ตนเชื่อว่ามาจากความเครียด ซึ่งล่าสุดวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 พ.ย.) เป็นวันนัดสืบพยานจำเลยนัดที่ 3 ซึ่งวันนั้นผู้การธานินทร์ มีปัญหาแย่งเอกสารกับนายวิจัย สุขรมย์ ทนายฝ่ายโจทก์ และทะเลาะกันต่อหน้าผู้พิพากษา คล้ายยื้อดึงเอกสารกันไปมา จนกระทั่งผู้พิพากษาตักเตือนว่าไม่สง่างาม และทนายฝ่ายโจทก์ยังมีซักถามพาดพิงถึงพ่อของพล.ต.ต.ธานินทร์ เพื่อให้เป็นผลเสียต่อผลคดี ทำให้พล.ต.ต.ธานินทร์ ไม่พอใจอย่างรุนแรง

 

ด้าน พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย รองผู้กำกับการ กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1 บอกว่า กรณีที่ พล.ต.ต.ธานินทร์ นำปืนเข้าไปใช้ก่อเหตุเป็นปืนกล็อก 22 จุด 40 ระบบเซมิออโตเมติค บรรจุกระสุนในแม็คกาซีนได้ 15 นัด ขึ้นลำ 1 ครั้ง สามารถยิงได้จนหมดแม็คกาซีน แต่ยิงได้ครั้งละ 1 นัด ยิงแบบออโตเมติคไม่ได้ ปืนชนิดนี้ทาง FBI นำมาใช้ต่อสู้กับอาชญากร เพราะมีอนาจการทำลายล้างสูง ส่วนกระสุนที่ใช้เป็นกระสุนแบบหัวตัด ซึ่งมีแรงประทะสูงกว่ากระสุนทั่วไป ปืนชนิดนี้มีด้ามจับด้านหน้าเหมือนอุปกรณ์แต่งปืน เช่น ติดไฟฉาย หรือติดเลเซอร์ พล.ต.ต.ธานินทร์ เป็นตำรวจ ได้รับการฝึกมาอย่างดี ประกอบกับบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นห้องที่ไม่กว้างนัก ภายในระยะ 15 เมตร ไม่จำเป็นต้องมีระบบออโต้ ก็สามารถยิงได้อย่างแม่นยำ