เปิดใจ นักมวยชกสลบ 3 โจ๋ ยันถูกรังแกก่อน เผยนักการเมืองดัง ติดต่อเป็นบอดี้การ์ด (คลิป)

ล่าสุด นายกฤษณะ คะเนนอก หรือ ตัวเล็ก ฉายา "เพชรทองทั่ว ศิษย์ อบต.จ้อน (กรุงทอง ก.ร่มสีทอง)" อายุ 26 ปี ผู้โพสต์ เปิดใจว่า ปัจจุบันตนเองเลิกชกมวยมาแล้วกว่า 1 ปี หันมาเป็นเทรนเนอร์ในฟิตเนส ซึ่งสอนเกี่ยวกับการป้องกันตัว หลังจากวางมือก็ใช้ชีวิตตามปกติ วันเกิดเหตุตนเองเดินทางไปที่ผับในตัวเมืองจันทบุรี พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน ระหว่างที่ผับปิด ตนเองแยกกับเพื่อนไปเข้าห้องน้ำ

หลังจากกลับมาพบว่าเพื่อน 2 คน กำลังมีเรื่องกับวัยรุ่น 3 คน แต่ยังไม่มีเรื่องชกต่อย แต่ผลักอกและเริ่มมีปากเสียงกัน เพื่อนตนบอกว่า "พี่ช่วยด้วย" ตนเองจึงเข้าไปยืนอยู่ตรงกลางกลุ่ม จากนั้นก็ถูกกลุ่มวัยรุ่น 3 คน เข้ามาผลักและพยายามหาเรื่อง ตนบอกว่า "พอแล้ว อย่ามีเรื่องกัน" แต่กลุ่มวัยรุ่นที่สวมใส่เสื้อแดง เปิดหมัดชกเข้าที่กกหูขวาตน

จากนั้น โดยสัญชาตญาณของอดีตนักมวย ตนก็ฟันศอกกลับ 1 ที ทำให้วัยรุ่นเสื้อแดงร่วงลงพื้น ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นชายอีก 2 คนจะปลดกระเป๋าคาดอกออก แล้วตรงปี่เข้ามาใส่หมัดกับตน ตนเองจึงได้สวนกลับ คนละ 2 ที จนกระทั่งวัยรุ่นชายเสื้อแดงลุกขึ้นมา ตนเองก็สวนกลับอีก 2 ที แล้วทุกคนร่วงลงไปกองอยู่บนพื้น จากนั้น ตนไปปลุกให้ 3 วัยรุ่นตื่น เพื่อจะถามว่าก่อเหตุทำไม มี 2 คนตื่นขึ้นมายกมือไหว้ขอโทษ บอกว่า "ผมขอโทษพี่"

โดยยืนยันว่าตนเองเป็นเพียงแค่ตัวกลางที่จะระงับเหตุ แต่ด้วยถูกทำร้ายร่างกายก่อน จึงต้องป้องกันตัวเอง และไม่ได้มีอาวุธ ซึ่งการกระทำครั้งนี้เรียกว่า "กระดูกคนละเบอร์" ล่าสุด ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ฝ่าย คือร่วมกันทะเลาะวิวาท และตนเองแสดงความบริสุทธิ์ใจยืนรอพบตำรวจ อีกฝ่ายก็ไม่ได้แจ้งความเพิ่มเติมกับตน

ทั้งนี้ ตนพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหาย แต่หากมีการฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายมากกว่าคนละ 100,000 บาท ก็จะให้ไปฟ้องในชั้นศาล แต่หากหลักหมื่น ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกั ก็พร้อมที่จะจ่ายเยียวยาให้ทันที อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้มีหน่วยงานต่างชาติ นักการเมืองไทย มาเชิญให้ตนร่วมงานด้วย ในตำแหน่งบอดี้การ์ด แต่ตนขอปฏิเสธทั้งหมด เพราะต้องการอยู่แบบปกติ

น.ส.นภาพร สีหาอ่อนตา หรือ โบว์ อายุ 26 ปี แฟนสาวอดีตนักมวย เปิดเผยว่า นิสัยของแฟนหนุ่มเป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่น และเป็นคนตลก มีเพื่อนมาก แต่ก็ไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อน เพราะด้วยอาชีพที่เป็นนักมวย จึงต้องระมัดระวังตัวเองมาก โดยเฉพาะการไปมีเรื่องกับใคร เพราะไม่เช่นนั้นก็จะถูกหาว่าไปรังแกคนอื่น แต่เหตุการณ์ส่วนใหญ่ที่ต้องมีเรื่อง ไม่ต่างกับเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น คือการเข้าไประงับเหตุหรือเป็นตัวกลางแล้วโดนทำร้ายร่างกายก่อน จึงต้องปล่อยหมัดมวยไทยออกไป เช่นเดียวกับคำกล่าวที่ว่า "หมาอยู่เฉย ๆ ถ้าไม่ไปแย่ มันก็คงไม่กัด"

ทั้งนี้ ปกติเวลาที่อยู่ด้วยกัน ตนเองก็ยังเคยถูกแฟนหนุ่มพลั้งมือ แค่เพียงเล่นกันตามปกติ ทำให้มีรอยช้ำเขียวเป็นบางครั้ง เพราะแม้ว่าแฟนหนุ่มจะอ้างว่าเล่นเบา ๆ แต่ความเบาของนักมวย ก็อาจจะหนักสำหรับเรา ยืนยันว่าแฟนหนุ่มไม่ใช่คนหัวร้อน แม้จะมีอาชีพเป็นนักมวย แต่ก็ไม่ใช่นักเลง