เพื่อนบ้าน แฉ!ได้ยินเสียงสับศพกลางดึก เอะใจเสียงปั๊มน้ำดังถี่ เปิดชักโครกพบ ซิลิโคน (คลิป)

จากกรณี นายศิระ สมเดช หรือกาย อายุ 20 ปี เรียนชั้นปี 2 วิศวะคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคนิคแห่งหนึ่ง ก่อเหตุฆาตกรรมฆ่าหั่นศพ นางยุรีย์ เถาว์วัลย์ มารดาวัย 42 ปี ก่อนแยกชิ้นส่วนยัดใส่ช่องฟรีซในตู้เย็น ภายในบ้านเลขที่ 17 ซอยท่าข้าม 28 แยก 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ก่อนที่นายศิระ จะคว้าปืนมายิงใส่ศีรษะตัวเองจนเสียชีวิตเพื่อหนีความผิด

จากการตรวจสอบในตู้เย็นขนาดใหญ่ 2 ชั้น ความจุ 7.9 คิว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างตรงบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของตัวบ้าน พบร่างนางยุรีย์ ถูกฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วน มีทั้งนำมาแช่โดยไม่มีวัสดุห่อหุ้ม และเก็บใส่ถุงพลาสติกขนาดต่าง ๆ ยัดไว้ในช่องฟรีซ ประกอบด้วย ศีรษะตั้งแต่ช่วงคอขึ้นไป แขนตั้งแต่ช่วงไหล่ข้างขวา แขนตั้งแต่ช่วงไหล่ข้างซ้าย บริเวณเอวลงไปจนถึงขา 2 ข้าง และร่างกายส่วนลำตัว ซึ่งเต็มไปด้วยบาดแผลถูกของมีคนทิ่มแทงทั้งด้านหน้าและหลังนับสิบแห่ง และยังพบว่าก้อนเนื้อทรวงอกด้านขวาหายไป

นอกจากนี้ภายในชักโครกห้องน้ำชั้นล่างยังพบอวัยวะเครื่องในอีกหลายชิ้น เจ้าหน้าที่จึงนำร่างและอวัยวะที่พบออกมาตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อชันสูตรอย่างละเอียด ภายในบ้านพักยังพบมีดปังตอ 1 เล่ม และค้อน จึงนำส่งไปตรวจสอบ โดยคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธใช้สังหารและหั่นศพ

เพื่อนบ้าน แฉ!ได้ยินเสียงสับศพกลางดึก เอะใจเสียงปั๊มน้ำดังถี่ เปิดชักโครกพบ ซิลิโคน (คลิป)

ตำรวจทราบข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุทราบว่านายศิระ ลูกชาย ซึ่งคล้ายมีอาการทางประสาท ได้ก่อเหตุสังหารแม่แท้ ๆ ของตนเอง ก่อนจะหั่นศพแยกชิ้นส่วนเอาไว้ในช่องฟรีซ โดยตัวลูกชาย ความแตกหลังเพื่อนของนางยุรีย์ ที่ตอนนี้เป็นพยานปากสำคัญได้แวะมาหานางยุรีย์ที่บ้าน เนื่องจากช่วงไม่สามารถติดต่อนางยุรีย์ ได้เลย ทั้ง ๆ ที่ช่วง 20.00 น.วานนี้ (24 พ.ย.) ยังโทรฯคุยกันอยู่ ทำให้ตัดสินใจมาหาที่บ้าน แต่พอมาถึงก็พบตัวลูกชาย แต่สอบถามอะไรตัวลูกชายก็ไม่ตอบ เพื่อนนางยุรีย์ ก็พยายามเดินตามหาทั่วบ้านเพราะรู้สึกเอะใจที่ผู้ตายไม่อยู่ แต่ทรัพย์สินส่วนตัวยังอยู่ครบ กระทั่งพอเดินไปเปิดตู้เย็นถึงกับผงะล้มทั้งยืน เมื่อพบชิ้นส่วนของนางยุรีย์ ถูกหั่นยัดในช่องฟรีซแล้ว จากนั้นลูกชายของนางยุรีย์ ก็วิ่งไปหยิบปืนมายิงใส่ศีรษะ

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถาม นางอำพร งามดี เพื่อนของนางยุรีย์ บอกว่า ที่ผ่านมาทราบว่านายศิระ เพิ่งตรวจเจอเรื่องโรคเกี่ยวกับทางประสาท ซึ่งตัวนางยุรีย์ ก็ป่วยเช่นกัน ที่ผ่านมาเพื่อน ๆ ก็ทราบกันหมด ก่อนเกิดเหตุตนทราบข่าวจากลูกว่านางยุรีย์ขาดการติดต่อ จึงชวนเพื่อนเดินทางมาหาที่บ้าน เมื่อเดินทางมาถึงก็เจอนายศิระ ยืนอาละวาดอยู่หน้าบ้าน ถามตนว่ามาทำไมและพยายามไล่ให้กลับบ้าน ตนกับเพื่อนจึงเดินเข้าไปในบ้าน กระทั่งไปพบศพอยู่ในตู้เย็น จากนั้นตัวนายศิระก็ยิงตัวตายตาม

หลังเกิดเหตุมาตรวจสอบทรัพย์สินผู้เป็นแม่พบว่าหายไปหมด และไปเจออยู่ในกระเป๋าสะพายของนายศิระ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีใครมาหา อาจจะหลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สิน รวมถึงอาวุธปืน ลูกกระสุน ก็พกไปด้วย เท่าที่สอบถามเพื่อนบ้านติดกัน ได้ยินเสียงดังช่วง 4 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ โดยคนข้างบ้านยังบ่นกันเองว่า "คนจะนอนทำอะไรกัน" ซึ่งอาจจะเป็นเสียงสับกระดูกก็เป็นได้

ด้าน นายโจ๊ก เพื่อนของนางยุรีย์ บอกว่า ขณะมาถึงหน้าบ้านนางยุรีย์ เห็นนายศิระเปิดผ้าม่านหน้าต่าง ต่อว่าพวกตนทำนองว่า ทำไมพาคนมาเยอะแยะ และพูดขึ้นว่าไม่รู้ว่าแม่ไปไหน คล้ายคนเพ้อเจ้อ แต่สิ่งหนึ่งที่ตนได้ยินความผิดปกติ คือในบ้านมีเสียงปั้มน้ำดังตลอดเวลา จนกระทั่งไปเจอศพถูกแช่ในตู้เย็น ซึ่งนายศิระก็ยืนจ้องมองตลอดเวลา ก่อนจะยิงขมับตัวเองทันที ที่ผ่านมาไม่มีสัญญาณอะไรบอกเหตุว่าจะเกิดเหตุแบบนี้

ขณะที่ นายอนุชิต ทองจินดา เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย บอกว่า สภาพศพที่เจอนั้นถูกหั่นเป็นท่อน ๆ ถูกซ่อนอยู่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ชั้น 1 ของบ้าน ยกเว้นชิ้นส่วนหน้าอกด้านขวาที่หายไป ภายหลังไปพบอยู่ในส้วมที่ห้องน้ำชั้น 2 ของบ้าน

คาดว่าผู้ตายน่าจะถูกฆ่าตั้งแต่เมื่อคืน เพราะภายในบ้านไม่พบร่องรอยเลือดแม้แต่น้อย ทุกอย่างดูปกติ หรือแม้กระทั่งร่องรอยการต่อสู้ก็ไม่มี