ผัวช็อกปัดเอี่ยว แม่ลูกหลอกกินฟรีบีบน้ำตาขอความเห็นใจ (คลิป)

กรณีนางสาวอรุณศรี สังข์ทอง อายุ 36 ปี ขับรถจักรยานยนต์มากับลูกสาว 7 ขวบ และลูกชาย 5 ขวบ ทำทีมาสั่งข้าวมันไก่ที่ร้านข้าวมันไก่อิ่มเย็น ถ.จันทร์นิเวศน์ 2 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา หยิบเค้กคีโตอย่างดี 3 ชิ้น รวมเป็นเงิน 649 บาท แล้วอ้างว่าสามีที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านข้าง ๆ จะมาจ่ายให้ และขับรถออกไปทันที เจ้าของร้านได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่

วันที่ 28 พ.ย. 62 นางโกลัญญา คูณทอง หรือ อุ๋ย อายุ 28 ปี เจ้าของร้านข้าวมันไก่ เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าวที่ปรากฏตามภาพในกล้องวงจรปิด มีแม่พาลูก 2 คน ซ้อนมอเตอร์ไซค์มาสั่งข้าวมันไก่ จนกระทั่งทำใกล้จะเสร็จ ก็ได้สั่งเพิ่มอีก ลูกสาวและลูกชายวิ่งตรงเข้าไปที่ตู้เค้ก หยิบเค้ก ตนเองจึงพูดกับเด็กว่า "เค้กราคาแพงนะ เพราะเป็นเค้กเพื่อสุขภาพนะ" ตนแจ้งราคาทั้งหมด 649 บาท ผู้หญิงคนก่อเหตุพูดว่า "เดี๋ยวแฟนจะมาจ่าย เพราะนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านข้างกัน" จังหวะที่ตัวเองเผลอ ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ถือถุงข้าวมันไก่ออกไป

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนเองจึงตัดสินใจเปิดภาพในกล้องวงจรปิด โพสต์ในเพจกลุ่มหาดใหญ่ และแจ้งความ จนกระทั่งมีผู้เสียหายหลายคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าเคยพบพฤติกรรมถูกหลอกเหมือนกัน ตนไม่ได้ตั้งใจโจมตีหรือประจานผู้หญิงรวมถึงเด็ก แต่อยากให้กฏหมายเอาผิด และได้รับบทเรียน เพราะสอนลูกในทางที่ผิด ตนเองไม่ได้ต้องการเอาผิดเด็ก แต่อยากเอาผิดแม่ของเด็ก

นายกิ้ม แซ่เล่า หรือ ลุงดำ อายุ 59 ปี เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.20 น. ลูกค้าภายในร้านเริ่มน้อย มีหญิงขับรถมอเตอร์ไซค์พาลูกซ้อนท้ายมาสั่งอาหารตามสั่งไว้ ก่อนขับรถหายไปสักพัก แล้วขับรถวนกลับมา เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับลูก และทำทีช่วยบรรจุหีบหอ เพราะตัวเองผัดข้าวเสร็จแล้วแต่เอาใส่ถาดทิ้งไว้ ระหว่างที่ตนเองกำลังผัดอาหารให้กับลูกค้าคนอื่น ภรรยาของตนเองก็กำลังวุ่นกับการจัดเตรียมของ ผู้หญิงคนดังกล่าวได้สั่งข้าวเปล่าเพิ่มอีก 3 กล่อง ตนเองกำลังตักข้าวเปล่าใส่กล่อง ผู้หญิงคนดังกล่าวพร้อมลูกได้หิ้วกับข้าวขึ้นรถและขับหายไป

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตกใจ ตนเองจึงได้ตามหาผู้หญิงและเด็ก จนกระทั่งไปสืบพบว่าพักอาศัยอยู่ภายในแคมป์คนงาน พบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มกันคล้ายใช้ยาเสพติดอยู่ แต่ตนเองมองหาผู้หญิงและเด็กไม่พบ จึงได้แจ้งความ ล่าสุดมีผู้เสียหายรวมกว่า 20 คน หลังจากที่ตำรวจจับกุมตัวหญิงสาวคนดังกล่าวได้ ตนเองได้ไปเจอที่โรงพัก เจ้าตัวมากราบและขอโทษ บอกว่าไม่อยากให้เอาเรื่อง ให้สงสารลูกน้อยที่ไม่มีคนเลี้ยง ตนเชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการสอนให้เด็กหยิบของแพง ตนต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และขอใจดำ เพราะอยากจะดัดนิสัยแม่ของเด็กต้องได้รับบทเรียน เผื่อวันหนึ่งออกจากคุก จะได้เป็นแม่ที่ดีได้

ด้าน นางศร (นามสมมติ) เจ้าของร้านข้าวสาร เล่าว่า ประมาณ 1 เดือนก่อน ผู้หญิงมาพร้อมกับลูก นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์ ตะโกนสั่งซื้อข้าวสาร 1 กระสอบ ราคากว่า 1,000 บาท ตนเองอยู่เฝ้าร้านคนเดียว ลูกน้องและลูกชายไม่อยู่ จึงบอกให้มาซื้อใหม่ในช่วงบ่าย แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวได้เปลี่ยนไปสั่งซื้อข้าวแบ่งขาย โดยซื้อข้าวที่ดีและแพงที่สุด หลังจากที่ตักข้าวเสร็จแล้ว ก็เอาไปใส่ตะกร้ารถให้กับผู้หญิง แต่ในจังหวะที่กำลังจะทวงเงิน ผู้หญิงคนดังกล่าวได้เร่งเครื่องออกไปแล้ว ตนเองทำได้เพียงแค่ยืนงง และคิดว่าโชคดีที่ผู้หญิงคนดังกล่าวได้ข้าวไปแค่ 3 กิโลกรัม

โดยพบว่าผู้ก่อเหตุ มีประวัติ เมื่อปี 2560 ถูกจับคดียาเสพติด ข้อหาเสพยาเสพติด-บำบัด, ปี 2561 คดีลักทรัพย์ และปี 2562 คดียาเสพติด ข้อหาเสพยาเสพติดและลักทรัพย์

ทีมข่าวเดินทางไปที่แคมป์คนงาน ภายในซอยผักบุ้ง เขตเทศบาลหาดใหญ่ ที่พักของนางสาวอรุณศรี ซึ่งมีแคร่ไม้ยกสูงจากพื้น ทำเป็นที่พักใกล้กับคอกวัว มีเตียงนอนสภาพเก่า และผ้าใบสำหรับป้องกันแดดและฝน ด้านข้างเปิดโล่ง มีกองเสื้อผ้าของสามีและลูก ๆ กองและยัดใส่ตะกร้าจำนวนมาก

นายวิช (นามสมมติ) แฟนผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า ตนเองเป็นแฟนใหม่ที่เพิ่งคบหากันได้ไม่นาน เนื่องจากนางสาวอรุณศรีเพิ่งเลิกกับแฟนเก่า และได้มาอยู่กินกับตัวเอง แต่ตลอดที่อยู่ด้วยกัน ตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะไปก่อเหตุหรือทำผิดอะไรไว้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดและลักขโมย เนื่องจากตอนที่อยู่ด้วยกันก็จะช่วยกันทำมาหากินและเลี้ยงวัว ดูแลลูก ๆ ส่วนอาหารที่นำมากินด้วยกัน ส่วนใหญ่นางสาวอรุณศรีบอกว่าไปเอาเงินที่บ้านแม่ และไปซื้อของมากิน จึงไม่ได้มองว่าผิดปกติ

นอกจากนี้ ตนเองไม่ทราบว่าที่ผ่านมา ข้าวที่ได้กินทุกวัน จะมาจากการลักขโมย เมื่อรู้ความจริงก็รู้สึกเสียใจ และหลังจากที่แฟนสาวถูกจับไป ตนเองก็ต้องทำหน้าที่ดูแลเด็ก ๆ จนกว่านางสาวอรุณศรีจะออกจากคุก ซึ่งหากจะให้ประกันตัวก็คงไม่มีเงิน ตนอยากฝากขอโทษสังคมและร้านค้าที่ได้รับความเสียหาย