เปิดปาก! ญาติเล่านาทีเจอ 3ศพ จี้เอาผิดแม่ฆาตกรพาหนี– เพื่อนหวิดดับศพที่ 4 ถ้ามาค้างด้วย (คลิป)
กระทั่งตำรวจชุดสืบสวนของภูธรภาค 5 จับกุมตัว นายนวราธร คุณะแสงคำ อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ที่จ.เชียงใหม่ ตำรวจตั้งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ล่าสุด พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีฆ่ายกครัว 3 ศพที่สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหา คือ นายนวราธร คุณะแสงคำ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาในคดีด้วยตัวเอง ก่อนจะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหา รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว สาเหตุที่ก่อเหตุมาจากเรื่องความหึงหวง
โดยหลังจาก น.ส.สวรส คบหากับนายนวราธรแล้วก็เลิกการคบหากับชายหนุ่มที่ผ่าน ๆ มาไปหมดแล้ว แต่มีผู้ชายที่อาจจะเคยคบหาติดต่อมาทางไลน์อยู่ซึ่ง เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ต้องหาเกิดอาการหึงหวง และเกิดการท้าทายกัน ก่อนผู้ต้องหาจะใช้ปืนที่พกติดตัวจ่อยิงภายในห้องนอน
จากนั้นเกรงว่าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงจะไปแจ้งญาติและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงก่อเหตุยิงทั้งหมดภายในบ้านก่อนจะขับรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 8068 เชียงรายหลบหนีไปทาง จ.เชียงใหม่ และถูกจับกุมได้ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถยนต์เก๋งที่ใช้หลบหนีเป็น มาไว้เป็นของกลางและหลังสอบปากคำทั้งหมดแล้วหากผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
แต่เหตุวุ่นวายเริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อตำรวจนำตัวผู้ต้องหาออกจากบ้านมาขึ้นรถ ชาวบ้านบางส่วนมีการขว้างปาก้อนหินใส่รถตำรวจ ที่ภายในรถมีผู้ต้องหานั่งอยู่ เเละชาวบ้านบางส่วนพยายามจะปีนรั้วกั้นเข้าไปด้านใน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบนำตัวผู้ต้องหาออกจากพื้นที่ทันที
ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้าน ที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า บ้านของตนเองอยู่ติดกับบ้านของผู้ตาย เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมกันขึ้น ตนเองก็เสียใจเเละกลัวมาก เพราะผู้ตายทั้ง 3 คน ตนเองก็รู้จักเเละเคยพูดคุยกัน ส่วนการนำตัวผู้ต้องหามาทำเเผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ ตนเองไม่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มชาวบ้านเเต่อย่างใด เเต่เนื่องจากบ้านตนเอง อยู่ติดกับบ้านผู้ตาย จึงเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างชัดเจน ชาวบ้านที่ปาก้อนหินใส่รถตำรวจส่วนหนึ่งเกิดจากความแค้น
ด้าน นายสมศักดิ์ กิมสี อายุ 70 ปี พี่ชายของนายอุดม บอกว่า นายกเทศมนตรีซึ่งเป็นหัวหน้างานของผู้ตาย ได้ติดต่อมาหาตนเองว่าติดต่อผู้ตายไม่ได้ จึงนัดกันเดินทางไปที่บ้าน เพื่อดูว่าผู้ตายหายไปไหน ขณะอยู่หน้าบ้านก็เห็นว่าบ้านปิดเงียบแต่มีรถจอดอยู่ จึงตัดสินใจเปิดรั้วหน้าบ้านเข้าไป เพราะไม่ได้ล็อก จากนั้นพยายามเปิดบ้านแต่ถูกล็อก จึงได้เดินอ้อมไปที่ด้านหลัง พบว่าประตูหลังบ้านไม่ได้ล็อกกุญแจ ในระหว่างที่เดินผ่านข้างบ้าน จุดจอดรถได้กลิ่นเหม็นเน่า ซึ่งหลังจากที่เปิดประตูเข้าไปภายใน สิ่งแรกที่เห็นคือขาของน้องสะใภ้ โผล่ออกมาจากประตูห้องนอน ซึ่งมีลักษณะบวมอืด ตนเองรู้สึกตกใจอย่างมาก ทำอะไรไม่ถูก
ขณะที่ น.ส.ส้ม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี เพื่อนของผู้ตาย เปิดเผยว่า สาเหตุของการเสียชีวิตนั้นตนเองไม่ทราบว่ามีปากเสียงกันเรื่องอะไร เพราะในวันที่ไปร่วมงานคอนเสิร์ต ตนเองเห็นว่าผู้ตายกับแฟนหนุ่มก็เทคแคร์สนุกสนานกันปกติ ไม่มีเรื่องทะเลาะอะไรกัน ตั้งแต่แป้ง ผู้ตาย ตัดสินใจคบหากับโอ ก็ไม่ได้หันกลับไปคุยกับแฟนเก่าแต่อย่างใด แต่ยังคบหาในฐานะเพื่อนเท่านั้น นอกจากนี้ ช่วงคืนวันที่ 28 พ.ย. หลังจากจบคอนเสิร์ต ตนเองคิดจะไปนอนบ้านแป้ง แต่เพื่อนคนหนึ่งเมาไม่ได้สติ ทำให้ต้องไปส่งเพื่อนที่บ้าน ซึ่งหากวันนั้นไปนอนค้างกับแป้ง เชื่อว่าตนเองคงกลายเป็นศพที่ 4
ส่วน นายดุษิต กิมสี หรืออุ๋น อายุ 59 ปี พี่ชายผู้ตาย (พี่ของ นางณัชชา) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองรับไม่ได้ เพราะเป็นเหตุการณ์ความรุนแรง ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับครอบครัว เป็นการกระทำที่อุกอาจ หากเป็นไปได้ก็อยากให้ได้รับบทลงโทษสูงสุดตามกฎหมาย นอกจากผู้ก่อเหตุจะโดนแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว อยากให้มีการเอาผิดกับครอบครัวโดยเฉพาะแม่ ที่มีพฤติกรรมพาลูกชายหลบหนี แต่ไม่ยอมพามามอบตัว อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ อยากให้พาตัวคนก่อเหตุมาขอมาศพก่อนเผา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสภ.บ้านดู่ และสภ.แม่จัน พร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจ เข้าตรวจค้นและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายในบ้านของผู้ก่อเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานอื่นที่จะเชื่อมโยงว่ามีการช่วยเหลือหรือสนับสนุนในการก่อเหตุฆ่าผู้อื่นหรือไม่
ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้าน ทีมข่าวสังเกตุว่าพ่อและแม่ของนายโอคนก่อเหตุ ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ตามปกติ แต่ภายหลังการตรวจค้นบ้าน พบว่าสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไป โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวของผู้ก่อเหตุบอกกับทีมข่าวว่าจะให้สัมภาษณ์หลังตรวจค้นบ้านเสร็จ แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจไม่ให้สัมภาษณ์ โดยพูดเพียงว่า "ตอนนี้ครอบครัวกำลังเครียด ไม่พร้อมจะให้ข้อมูล "