อดีตลูกน้อง แฉ!“เสี่ย”ซี้คนมีสี - ตร. เชื่อการตาย กลิ่นเกสร มีคนก่อเหตุกว่า 5 คน (คลิป)

ความคืบหน้ากรณีพบศพของ น.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ หรือ ต่อ อายุ 36 ปี เซลส์อยู่ในรถเก๋งที่จมน้ำในคลองที่ จ.สระบุรี ล่าสุดนักประดาน้ำ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้ดำน้ำงมกระดูกส่วนที่เหลือเพิ่มเติม โดยพบกระดูกขาท่อนบน 3 ชิ้น เกินมา 1 ชิ้น กระดูกขาท่อนล่าง 2 ชิ้น ซี่โครง 10 ชิ้น กระดูกสันหลัง 7 ชิ้น กระดูกเชิงกราน 1 ชิ้น กระดูกก้นกบ 1 ชิ้น กระดูกแขน 2 ชิ้น 1 ข้าง

นอกจากนี้ยัพบเสื้อชั้นในบิกินี 1 ชิ้น กางเกงชั้นในจีสตริง 1 ชิ้น เทปกาว 2 ชิ้น สีเขียวและสีเทา โดยสีเทาลักษณะถูกพันเป็นวงกลม ด้านในฝั่งที่เป็นกาวมีขน คาดว่าเป็นขนหน้าแข้งหรือขนแขนติดอยู่ และยังพบวัตถุและเครื่องใช้อื่น ๆ ได้แก่ หมอน 1 ใบ ผ้าขาวบาง 4 ผืน ที่สูบลม 1 ชิ้น เสื้อผ้าและชุดชั้นในบางส่วน กางเกงในผู้ชายสีเขียว 1 ชิ้น และกล่องพลาสติกขนาดเล็ก 1 ใบ

อดีตลูกน้อง แฉ!“เสี่ย”ซี้คนมีสี - ตร. เชื่อการตาย กลิ่นเกสร มีคนก่อเหตุกว่า 5 คน (คลิป)

โดย นายนพดล สิงห์โท นักประดาน้ำ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า หลังจากวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมาได้ยกรถขึ้น ทำให้กระดูกภายในรถบางส่วนกระจัดกระจายและเก็บขึ้นมาไม่หมด ดังนั้นวันนี้จึงดำน้ำลงไปเพื่องมกระดูก และสิ่งของในรถที่ยังหลงเหลืออยู่ขึ้นมาให้หมด โดยตนเองพร้อมกับนักประดาน้ำอีก 5 คน ได้เริ่มปฏิบัติการในเวลา 11.00 น. งมอยู่ประมาณ 15 นาที ในรัศมีที่พบรถ สิ่งที่เจอชิ้นแรกคือเสื้อชั้นใน จากนั้นก็เจอกระดูกชิ้นส่วนต่าง ๆ โดยกระดูกดังกล่าวอยู่กระจัดกระจายกันในน้ำ นอกจากนี้ยังเจอเทปกาว 2 ชิ้น ที่มีขนคล้ายขนหน้าแข้งหรือขนแขนติดอยู่ และเจอหมอน 1 ใบ เจอเสื้อผ้าและของใช้บางส่วน

ด้าน พลตำรวจตรี ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบโครงกระดูกที่นักประดาน้ำงมขึ้นมาเพิ่มเติมจากจุดเกิดเหตุ ภายหลังการประชุมร่วมกับคณะทำงานคลี่คลายคดีที่ สภ.หนองโดน จ.สระบุรี

พลตำรวจตรีธนายุตม์กล่าวว่า ได้ประสานอธิบดีสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเร่งขอผลการตรวจสอบ DNA ของกระดูกที่พบในตอนแรกมาเปรียบเทียบดีเอ็นเอของแม่ น.ส.กลิ่นเกสร ว่าเจ้าของโครงกระดูกใช่ น.ส.กลิ่นเกสรหรือไม่ คาดว่าไม่เกิน 1-2 วัน จะรู้ผล ยืนยันว่าโครงกระดูกที่พบทั้งหมดเป็นของมนุษย์ และขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก แต่ขอเวลาการทำงานสักระยะ สำหรับผู้ร่วมก่อเหตุคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 5 - 6 คน แต่บางส่วนได้สอบปากคำแล้ว

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เสี่ยจะพาลูกน้องมานั่งกินเหล้าที่ร้านสเต็กของ น.ส.กลิ่นเกสรทุกวัน จนกระทั่ง 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะหายตัวไป เสี่ยก็พาลูกน้องนับสิบคนมานั่งกินเหล้าตามปกติ แต่ช่วงกลางดึกมีคนบอกกับเสี่ย โดยอ้างว่าผู้เสียชีวิตคบชู้ เสี่ยจึงโมโหและพาลูกน้องพังร้านและพูดว่า "ไม่ต้องขายมันแล้ว" แต่หลังจากนั้น 2 วัน เสี่ยก็มาตั้งร้านให้ใหม่ และเปิดขายตามปกติ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผู้เสียชีวิตก็หายตัวไป ตอนนั้นตนเองยังไม่ได้คิดอะไร เนื่องจากญาติ น.ส.กลิ่นเกสรเคยบอกว่า เขาอยากไปขายสเต็กที่ จ.ลพบุรี ตนจึงคิดว่าตคงย้ายไป จ.ลพบุรี ตามที่ญาติเคยพูด จนกระทั่งล่าสุด เวลาผ่านมา 3 ปี พบโครงกระดูกที่คาดว่าน่าจะเป็น น.ส.กลิ่นเกสร ตนเองก็ตกใจ

ส่วนลักษณะนิสัยเสี่ย ตนเองและชาวบ้านหลายคนก็ค่อนข้างหวาดกลัว เพราะเสี่ยมักจะพูดประโยคที่ว่า "คนอย่างเสี่ยฆ่าคนตายก็ไม่ติดคุก" เป็นคำที่เสี่ยพูดเป็นประจำ ส่วนผู้ที่ก่อเหตุจะเป็นเสี่ยจริงตามที่หลายคนสงสัยหรือไม่ ตนเองก็ไม่กล้ากล่าวหา แต่ทั้งนี้อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ อดีตคนงานของเสี่ยโรงปุ๋ยรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับเสี่ยมาประมาณ 20-30 ปีแล้ว โดยเสี่ยเป็นคนใจกว้างขวาง ใจนักเลง และเป็นผู้ชายสายเปย์ทั้งลูกน้องและผู้หญิง เวลาจะเดินทางไปไหน ก็มักจะพกเงินติดตัวหลายแสนบาท ที่ผ่านมาก็จะมีผู้หญิงเข้ามาติดพันกับเสี่ยหลายคน ซึ่งตนเองถือว่าการเจ้าชู้เป็นเรื่องธรรมดาของคนมีเงิน ส่วนผู้ตายตนเองไม่รู้จัก แต่ก็เคยเห็น และรับทราบว่าคบหากับเสี่ย อดีตคนงานยังบอกอีกว่าเสี่ยจะใกล้ชิดสนิทสนมกับคนมีสี และข้าราชการระดับสูงหลายคน ที่ผ่านมาเวลาจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในโรงงาน คนเหล่านี้ก็จะมาร่วมเสมอ

ส่วนกรณีที่ตอนนี้เสี่ยตกเป็นผู้ต้องสงสัย ส่วนตัวก็ตอบไม่ได้ว่าเสี่ยทำหรือไม่ แต่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะสงสัย ท้ายที่สุดก็เป็นเรื่องของกฎหมาย ที่จะพิสูจน์ว่าใครเป็นคนทำ เพราะเรื่องดังกล่าวตนเองไม่รู้ไม่เห็น