สาวเที่ยวดอยคิดว่ายุงกัด จากตุ่มเล็กลามทั่วหน้า สูญเงินแสนรักษา อึ้ง “ไรป่า” ฟักตัวจนติดเชื้อ (คลิป)
วันที่ 16 ธ.ค. 62 น.ส.อัปสิริ ภูสังข์ อายุ 29 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดบาดแผลรอยถูกตัวไรป่าให้ทีมข่าวดู ซึ่งจุดต้นเหตุคาดว่าอยู่ที่ไหล่ฝั่งซ้าย มีรอยแผลถูกกัด 2 จุด ขณะนี้จุดหนึ่งเหลือเพียงรอยแดง อีกจุดเป็นแผลตกสะเก็ด ที่ใบหน้าทั้งหมดมีรอยจุดสีแดงขึ้นทั่วใบหน้า
น.ส.อัปสิริ เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางไปกับเพื่อนรวม 4 คน เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงราย โดยวันที่ 26 พ.ย. เป็นวันแรกที่ตนเดินทางไปถึงที่ภูชี้ฟ้า และนอนค้างที่รีสอร์ท 1 คืน จนกระทั่งเช้าวันที่ 27 พ.ย. ตนออกไปเที่ยว และเดินขึ้นภูชี้ฟ้าเพื่อไปถ่ายรูป เพราะชอบถ่ายรูปกับพุ่มไม้ ช่วงบ่ายวันเดียวกันตนเองกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งลงมาพักในเมืองเชียงราย ก่อนอาบน้ำตนมาสังเกตเห็นที่หัวไหล่ซ้าย พบว่ามีรอยคล้ายถูกกัด เหมือนยุงกัดทั่วไป ใจหนึ่งก็คิดว่าแพ้น้ำ เพราะไม่มีอาการคัน ซึ่งตอนนั้นแผลยังไม่มีสะเก็ด เป็นเพียงรอยแดง จากนั้นตนก็ไปเที่ยวตามปกติ จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านที่กรุงเทพฯในวันที่ 29 พ.ย. และสังเกตเห็นว่าแผลที่หัวไหล่เปลี่ยนไป เริ่มมีสะเก็ดแผลออกมาเล็กน้อย แต่ยังไม่มีอาการคันอะไร
โดย วันที่ 9 ธ.ค.ตนไปหาหมอรายที่ 2 เห็นอาการตน และสอบถามว่าตนไปเที่ยวป่ามาหรือไม่ รวมถึงดูที่บาดแผลตรงหัวไหล่ หมอได้สันนิษฐานทันทีว่าตนอาจจะเป็นโรค "สครับไทฟัส" หรือโรคไรป่า หมอระบุว่าเชื้อตัวนี้มาจากตัวไรป่า ที่มักอาศัยตามพุ่มไม้ เมื่อถูกกัดเชื้อจะฟักตัวในร่างกาย 4-7 วัน และเชื้อถึงจะแสดงตัว โดยยอมรับว่าหลังเกิดเรื่องก็กลัวการเที่ยวป่าไปเลย อีกทั้งหมอแจ้งว่าต้องใช้เวลารักษาและกินยาต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 1 เดือน อาการถึงจะปกติ ส่วนค่ารักษาพยาบาลที่ตนต้องชำระไปรอบแรกต้องจ่ายไปราว 40,000 เศษ ขณะที่โรงพยาบาลที่ 2 เสียค่ารักษา 70,000 บาท ขณะที่เพื่อนๆอีก 3 คน ที่ไปกับตนปลอดภัยดี