กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
แม่ น้องออมสิน เผยเหตุทิ้งลูก ปัดจับโยนระเบียงบ้าน - ขอเวลาปรับสภาพจิตใจ พร้อมจะรับมาดูแล (คลิป)
จากกรณี ที่มีแม่นำน้องออมสิน (นามสมมติ) ลูกสาววัย 2 ขวบ มาทิ้งไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลพบุรี พร้อมเขียนจดหมาย "ยกลูกให้" เพราะสาเหตุมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง และสามีใหม่ไม่ยอมรับ จึงไม่สามารถดูแลเด็กได้ และไม่อยากเลี้ยงดูเนื่องจากเด็กหน้าเหมือนสามีเก่าที่เลิกกันไปแล้ว กระทั่งมีผู้ใจดีอย่างนางชญาณ์พิมพ์ ชินปิติวงษ์ ประธานมูลนิธิบ้านสุขใจ อาสารับเลี้ยงเด็กวัย 2 ขวบ
ล่าสุด นางนิชา (นามสมมติ) แม่เด็ก เปิดเผยในรายการต่างคนต่างคิดว่า ล่าสุดเมื่อวานตนไปเยี่ยมลูก ซึ่งน้องดูร่าเริงปกติ แต่ถามน้องแล้วว่าจะกลับบ้านพร้อมแม่หรือไม่ น้องบอกว่าไม่อยากกลับบ้าน อยากอยู่ที่บ้านพักฯ เพราะมีความสุข ทั้งนี้ตนอยากขอชี้แจงว่าตนไม่ได้พลักลูกเข้าไปในบ้านพักฯ ตามที่ข่าวเสนอ ตนพาลูกเดินเข้าไปปกติพร้อมกับฝากจดหมายไว้หนึ่งฉบับ ในใจนั้นคิดอยู่นานพอสมควรกว่าจะตัดสินใจพาลูกเข้าไปบ้านพักฯ
สังคมอาจจจะมองว่าทิ้งลูก แต่อยากบอกว่าตนผิดแค่ว่าที่ไม่ยอมอยู่รอพบเจ้าหน้าที่โดยตรงแต่แรก ซึ่งเหตุผลก็มีอยู่ในจดหมายหมดแล้ว
แต่ก็ยืนยันว่าทิ้งลูกจริง แต่ถามว่าตนตัดใจได้จริงหรือไม่ ยอมรับว่าทำใจลำบาก ตัดไม่ขาดอยู่ดี ความผูกพันธ์ย่อมมี แต่เชื่อว่าตนทำถูกต้องแล้วซึ่งจะเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย เพราะลูกจะได้มีอนาคตที่ดี หากยังอยู่กับตนเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ประกอบกับตนเป็นคนโมโหร้าย และไม่อยากให้ลูกต้องตายคามือ เพราะที่ผ่านมาตนเคยพลั้งมือจับลูกหย่อนระเบียงบ้าน แต่ไม่ได้โยนลูกลงมา
สาเหตุที่ต้องตีลูก เพราะลูกชอบดื้อ ประกอบกับสามีเก่าพ่อของเด็ก เคยตบตี ซ้อมตนตลอดเวลา ทำให้ตนเก็บกดมาลงกับเด็กคนนี้ แต่ตนก็ยังไม่เคยตีลูกจนเลือดตกยางออก ยืนยันว่าที่พาลูกไปหารักษาตัวเพราะลูกเป็นฝีที่ศีรษะ ยืนยันว่าตนไม่ได้ป่วยทางจิต สิ่งที่ทำลงไปเกิดจากปมที่มีกับสามีเก่า เป็นสิ่งที่ลบไม่ได้ ถึงต้องระบายอารมณ์ใส่เด็กแทน ซึ่งสังคมฟังดูอาจจะไร้เหตุผล แต่อยากให้ลองมาเจอแบบที่ตนเคยเจอ จะรู้ว่าที่ผ่านมามันหนักหนาขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม สัญญาว่าภายใน 5 ปีนี้ หากตนตั้งหลักและปรับสภาพจิตใจได้จะกลับไปรับตัวลูกมาอยู่ด้วยเหมือนเดิม โดยในสัญญาที่ทำไว้กับบ้านพักฯ มีข้อตกลงว่าห้ามตนขาดการติดต่อกับลูกตลอดระยะเวลา 5 ปี อยากให้สังคมให้โอกาส และยืนยันว่ายังรักลูกเหมือนเดิม หากพร้อมจะรับลูกกลับมาเลี้ยง จะไม่ทิ้งลูกเด็ดขาด และอยากฝากถึงคนที่เคยอินบ็อกในเฟซบุ๊กมาด่า หรือนำรูปตนไปลงหน้าเฟซบุ๊ก หลังจากนี้หากยังมีอีกตนจะดำเนินคดีทางกฏหมาย
ด้าน นายพิชัย (นามสมมติ) สามีใหม่ เปิดเผยในรายการต่างคนต่างคิดว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่าภรรยาจะเอาลูกไปทิ้งไว้ที่บ้านพักฯ คิดว่าเอาไปฝากไว้กับญาติ หลังทราบความจริงจากภรรยา รู้สึกตกใจ เพราะมั่นใจว่าต้องเป็นข่าวแน่นอน แล้วก็เป็นจริงตามที่คิดไว้ ส่วนตัวยอมรับว่า ถ้าไม่เกิดปัญหาตีลูกก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตนก็ยอมรับว่าตนไม่มีรายได้พอเลี้ยงดูลูก เพราะพวกตนก็แค่คนหาเช้ากินค่ำ
ส่วนสถานะกับภรรยาขณะนี้ยืนยันว่า ไม่ได้เลิกกันตามที่ชาวบ้านเข้าใจ ส่วนที่ชาวบ้านด่าทอ ตนก็ต้องปล่อยวาง เพราะไม่มีใครมาด่าให้ได้ยินต่อหน้า และมีความกังวลบ้าง ถ้าหากภรรยาตนยังอยู่ที่บ้านนี้ ก็คงจะคิดมาก จึงให้ย้ายไปทำงานที่อื่นก่อน
ส่วนพ่อของน้องออมสิน สามีเก่าตนไม่ติดต่อกลับมา แต่ติดต่อไปที่ศูนย์สงเคราะห์ เพื่อเซ็นยกลูกให้ดูแล เนื่องจากเจ้าตัวก็ไม่พร้อมจะดูแลลูก เพราะเขาบอกไว้ว่าตัดขาดแล้ว จะไม่เลี้ยงน้องออมสินแล้ว ส่วนตนเองก็ไม่ขอคุยกับอดีตสามีแล้ว ที่ผ่านมาเขาตัดช่องทางการติดต่อและปฏิเสธเลี้ยงดูลูกมาตลอด
ทั้งนี้ ตนไม่เกลียดลูก แต่ตนเกลียดพ่อของลูกจนฝังใจ เพราะถูกทำร้ายมาก่อน ทำให้ตนต้องมาลงกับลูก หลังจากนี้ตนจะพยายามระงับใจ และปรับปรุงตัวเอง "ถ้าตนยังเลี้ยงลูกตอนนี้ กลัวว่าจะทำร้ายลูกจนตาย เพราะตนเกลียดพ่อของลูกมาก ถึงขั้นฆ่าให้ตายได้ กลัวว่าสักวันจะพลาดฆ่าลูกตัวเอง ทุกวันนี้ลูกก็เหมือนตายทั้งเป็น จึงอยากให้ลูกไปมีอนาคตที่ดี เมื่อพร้อมจะรับกลับมาเลี้ยง" ลูกตนรู้เรื่องทุกอย่าง ไม่ร้องไห้ ตนถามลูกว่าจะไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์ไหม ลูกบอกว่าไป และเขารู้ว่าตัวเองจะไม่ได้เจอแม่กับน้องอีก
นอกจากนี้ ตนดีใจที่มีผู้ใจบุญอยากเลี้ยงลูกตน และขอขอบคุณทุกคนช่วยเหลือ ส่วนลูกคนเล็ก 10 เดือนตนรักมาก แต่ให้สามีดูแลไปก่อน
ขณะที่ นายพิชัย (นามสมมติ) พ่อเลี้ยงน้องออมสิน เปิดเผยหลังจบรายการต่างคนต่างคิดว่า ความสัมพันธ์ของตนกับภรรยายังรักกันดี และรักมากขึ้น ไม่ได้เลิกกันตามที่ชาวบ้านเข้าใจ ส่วนที่ชาวบ้านด่าทอ ตนก็ต้องปล่อยวาง เพราะไม่มีใครมาด่าให้ได้ยินต่อหน้า และมีความกังวลบ้าง ถ้าหากภรรยาตนยังอยู่ที่บ้านนี้ ก็คงจะคิดมาก จึงให้ย้ายไปทำงานที่อื่นก่อน และในอนาคตเมื่อพร้อม ตนก็จะพาลูก 10 เดือนย้ายตามไปอยู่ด้วยกัน ยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน
ทั้งนี้ ตนก็รักและผูกพันกับลูกเลี้ยง 3 ขวบ ซื้อขนมให้กินประจำ ตนกลับมาจากทำงาน ลูกก็จะถามว่า "ปะป๊าเหนื่อยไหม" นอกจากนี้ ตนไม่กังวลว่าลูก 10 เดือนจะถูกภรรยาทำร้าย เพราะเด็กคนนี้เกิดมาจากความรัก หลังจากนี้จะสร้างอนาคตให้มั่นคง และรับลูกเลี้ยงกลับมาอยู่ด้วยกันให้ครบทั้ง 4 คน
สุดท้ายนี้ อยากฝากสังคมให้ให้อภัยภรรยาตน เพราะชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่เด็ก ภรรยาตนก็เจอเรื่องราวมาเยอะ ตอนนี้เขาไม่มีใคร มีแค่ตนคนเดียวที่อยู่เคียงข้าง
คลิป
vvvvvvvvvvv
vvvvvvvvv
vvvvvv
vvvv
v
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
