พลเมืองเล่านาทีช่วยนักศึกษาหนุ่ม ก่อนถูกสิบล้อทับดับ - กู้ภัย แฉโชเฟอร์เมาเล่นมือถือ (คลิป)
ล่าสุด นายฐนกร ศิริรัตน์ พลเมืองดีช่วยนายรังสรรค์ และเป็นคนที่บันทึกวิดีโอเอาไว้ด้วย เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนเองมากับแฟนสาวกำลังจะกลับบ้าน เห็นชายบาดเจ็บนอนหมดสติอยู่บนถนน ช่วงเวลสประมาณ 02.28 น. และเห็นรุ่นน้องที่ทำงานของผู้บาดยืนอยู่ จึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่าเลิกงานกำลังจะแยกทางกันแต่มาเกิดอุบัติเหตุก่อน ตนจึงช่วยเอาถังขยะที่อยู่แถวนั้นมากั้นถนนไว้ และมีพลเมืองดีมาช่วยกัน ใช้ไฟฉายส่องเอาไว้เผื่อที่รถผ่านไปมาจะได้เห็น
ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ ตนหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกวิดีโอไว้ก่อน ขณะที่ตนเริ่มบันทึกวิดีโอได้ไม่นาน รถพ่วงสิบล้อวิ่งมาโดยที่ไม่ได้เบรก ทั้งที่เอาถังขยะกั้น และใช้ไฟฉายส่อง และเข้าเหยียบบดขยี้บริเวณศีรษะของน้องที่บาดเจ็บอยู่ ตนจึงตามไปเพื่อจะสอบถามว่าทำไมไม่หยุด ชายคนขับลงรถมาและบอกว่ากำลังใช้โทรศัพท์อยู่ จึงไม่เห็น โดยตนสังเกตว่าชายคนขับเหมือนมีอาการมึนเมาด้วย
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาตน ตนตกใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ จนทำตัวไม่ถูก และคนในที่เกิดเหตุต่างตกใจโดยน้องพลเมืองดีที่ส่องไฟฉายที่ปรากฎในคลิปยังโชคดีที่หลบทัน สำหรับตนรู้สึกหดหู่กับเรื่องที่เกิดขึ้น ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มาน้องจะไม่เสียชีวิต แต่กลับต้องมาเสียชีวิตจากการประมาทของคนขับรถ
นอกจากนี้ ขณะที่เจอตนไม่กล้าตัดสินใจเคลื่อนย้าย เพราะน้องมีการบาดเจ็บทางศีรษะ หากเคลื่อนย้ายแล้วอาจจะเป็นหนักกว่าเดิมได้
ด้าน นายธีรพันธ์ ม่วงคุณ อาสาสมัครกู้ภัยแพร่ สมาคมอาสาสมัครกู้ภัย จ.แพร่ เปิดใจว่า ขณะนั้นได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารว่ามีเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้ม ตนไปไม่ถึง 10 วินาที กำลังจะให้ทีมลงรถและทำการโบกรถ และไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แต่รถพ่วงสิบล้อไม่เบรก เหยียบเข้าที่ศีรษะผู้บาดเจ็บต่อหน้าต่อตาพวกตน ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นทุกอย่างกระชั้นชิดมาก
หลังเหยียบเสร็จคนขับจอดรถลงมาดูแค่ไม่นาน ซึ่งคนขับรถมีอาการเมา ลงมาดูศพครู่เดียว แล้วรีบขึ้นรถขับหนีไป พวกตนก็ขับตามไปประมาณ 3-4 กม. เพื่อดักหน้าคนขับเอาไว้ คนขับจึงจอด ซึ่งตอนนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามสกัดเอาไว้ด้วย
ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่บ้านนาหลวง ม.4 ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งทางบ้านนำศพ นายรังสรรค์ ราญรอน หรือ เนม อายุ 19 ปี มาตั้งบำเพ็ญกุศล
นายสนั่น รานรอน อายุ 47 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนมีลูกชาย 2 คน ยคนที่เสียชีวิตคือคนโต ส่วนคนเล็กอายุ 16 ปี โดยตอนที่ตำรวจโทรมาหาในวันเกิดเหตุ บอกว่าให้ตนทำใจก่อน แล้วบอกว่าลูกชายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว ตนหัวใจตนแทบสลาย ส่วนภรรยาที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ ก็น้ำตาก็ไหล และร้องไห้ทันที ในความคิดตน ต่อให้มีเงินมาให้ตนหลายสิบล้าน ตนก็ไม่เอา ตนอยากได้ลูกชายกลับคืนมา
ตอนนี้ตนก็รู้สึกโกรธ แต่โกรธแค่ไหนลูกชายตนก็ไม่ฟื้นแล้ว พยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง มีสมาธิ เพราะโกรธแค้นไปก็ไม่ดีต่อตนเอง ตนสามารถให้อภัยได้ แต่เรื่องทำใจนั้นยังทำไม่ได้